|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เรียกร้อง "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" ลาออกจากเป็นกรรมการ 3 บริษัท "บางกอกสหประกันภัย-ทีพีไอ-ทีพีไอโพลีน" พร้อมเร่งให้บอร์ดและผู้ถือหุ้นรายย่อยลงมติให้พ้นจากกรรมการเพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ ขู่หากไม่ดำเนินการเล็งจะเพิกถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน
นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือตลท.เปิดเผยว่าจากการที่นายประชัยเลี่ยวไพรัตน์ถูกกล่าวโทษจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในกรณีมีการเผยแพร่ข่าวสร้างราคาหุ้นบริษัททีพีไอโพลีนหรือ TPIPL ตั้งแต่ปี 2547 ทำให้ขาดคุณสมบัติของการเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ นายประชัย ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารในบริษัทจดทะเบียน 3 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท บางกอกสหประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BUI, บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPI และบริษัท ทีพีไอโพลีนจำกัด (มหาชน)
นายสุทธิชัย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ต้องการให้นายประชัยลาออกจากการเป็นผู้บริหารของบริษัทบางกอกสหประกันภัยเพราะหากนายประชัยยังคงเป็นผู้บริหารต่อไปจะมีผลทำให้บริษัทไม่สามารถดำรงคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียนได้และอาจมีผลให้บริษัทเข้าข่ายถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ได้ในที่สุด
"ตลาดหลักทรัพย์ขอเรียกร้องให้นายประชัยเลี่ยวไพรัตน์แสดงสปิริตโดยการลาออกจากการเป็นผู้บริหารของบริษัทบางกอกสหประกันภัยเพราะหากนายประชัยยังคงเป็นผู้บริหารของบริษัทต่อไปจะทำให้บริษัทอาจถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ถือหุ้นจำนวนมากได้รับความเสียหายได้ จึงขอให้เห็นแก่ผลเสียหายที่อาจตกอยู่กับบริษัทและพนักงานของบริษัทจากผลของการเป็นผู้บริหารในบริษัทต่อไป" นายสุทธิชัย กล่าว
รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์กล่าวต่อว่า ตลาดหลักทรัพย์ได้เคยมีหนังสือไปยังบริษัทบางกอกสหประกันภัยตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2548 เพื่อแจ้งให้บริษัทแก้ไขคุณสมบัติการเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนภายใน 60 วันซึ่งบริษัทได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ของตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2548โดยอ้างว่าการนำข้อกำหนดว่าด้วยเรื่องการดำรงสถานะการเป็นบริษัทจดทะเบียนซึ่งอ้างอิงประกาศคณะกรรมการก.ล.ต.เกี่ยวกับคุณสมบัติผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์มาใช้ในการพิจารณาการขาดคุณสมบัติการเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนของนายประชัยนั้นถือว่าไม่มีผล เนื่องจากเป็นการใช้ประกาศย้อนหลัง
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการอุทธรณ์ตลาดหลักทรัพย์ได้เห็นว่า คำอุทธรณ์ดังกล่าวไม่มีน้ำหนักเพราะเห็นว่าประกาศคณะกรรมการก.ล.ต.ดังกล่าวมีทั้งข้อกำหนดที่ใช้อยู่เดิมกับข้อกำหนดที่ออกใหม่มีหลักเกณฑ์เดียวกันในการกำหนดให้ผู้บริหารที่ถูกทางการกล่าวโทษแล้วต้องขาดคุณสมบัติการเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนซึ่งบริษัทได้รับทราบผลการอุทธรณ์เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2548 และครบกำหนดระยะเวลา 60 วันเมื่อวันที่12 มกราคม 2549ที่ผ่านมาซึ่งนายประชัยยังคงไม่ได้ลาออกจากการเป็นผู้บริหารบริษัท
"ตลาดหลักทรัพย์เห็นว่าบริษัทบางกอกสหประกันภัยดำเนินการแก้ไขมาพอสมควรแล้วแต่จนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่พบว่ามีการดำเนินการแต่อย่างใดซึ่งหากนายประชัยสละตำแหน่งในการบริหารงานก็จะสามารถช่วยแก้ไขสถานการณ์ของบริษัทได้โดยนายประชัยยังคงมีสิทธิพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไปได้โดยไม่จำเป็นต้องทำให้บริษัท ผู้ถือหุ้นและพนักงานต้องเสียหายไปด้วยและหากพิสูจน์ว่านายประชัยไม่ผิดก็สามารถกลับเข้ามาเป็นผู้บริหารบริษัทได้เหมือนเดิม"นายสุทธิชัยกล่าว
คณะกรรมการบริษัทสามารถนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงกรรมการและนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นซึ่งตลาดหลักทรัพย์หวังว่าคณะกรรมการบริษัทจะดำเนินการเพื่อที่จะไม่กระทบต่อส่วนรวมของบริษัทและเป็นการดำรงความเป็นอิสระตามหลักบรรษัทภิบาลที่ดี
ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ขอสนับสนุนให้ผู้ถือหุ้นได้ใช้สิทธิในการปกป้องสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นโดยการใช้สิทธิในการนำเสนอเรื่อให้มีการปรับเปลี่ยนกรรมการโดยให้นายประชัยออกการเป็นกรรมการของบริษัทขึ้นมาพิจารณาในการประชุมผู้ถือหุ้นแม้จะไม่ได้มีการกำหนดไว้ในวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นซึ่งจะมีขึ้นในเร็วๆนี้ก็ตามซึ่งก็หวังว่าเรื่องดังกล่าวจะจบลงในทางที่เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายและไม่อยากให้การละเลยไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้นำไปสู่การเพิกถอนซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้วิธีสุดท้าย
สำหรับกรณีของบริษัททีพีไอ และทีพีไอโพลีนขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและหลักฐานคุณสมบัติของกรรมการของบริษัทซึ่งภายในสัปดาห์หน้าน่าจะได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรกับทั้ง 2 บริษัท กรณีที่กรรมการของบริษัทคือ นายประชัย ขาดคุณสมบัติในการเป็นกรรมการของบริษัทจดทะเบียน
สาเหตุที่จะต้องเวลาในการพิจารณานาน เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทยังอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการจึงต้องรวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดที่ผ่านมาในส่วนของบริษัททีพีไอทางผู้บริหารแผนได้มีการร้องขอต่อศาลล้มละลายกรณีที่ผู้บริหารของบริษัทขาดคุณสมบัติ ซึ่งศาลฯได้วินิจฉัยว่าขณะนี้บริษัทอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการจึงยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผู้บริหารได้ขณะที่ TPIPL ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ
อนึ่งที่ผ่านมาเมื่อมีกรณีที่ผู้บริหารในบริษัทจดทะเบียนถูกทางการกล่าวโทษผู้บริหารดังกล่าวก็ได้ลาออกจากตำแหน่งทำให้ไม่มีผลกระทบต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นเช่นในกรณีสำนักงานก.ล.ต.กล่าวโทษนายทศพงศ์จารุทวีและนางสว่าง มั่นคงเจริญ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษกรณีถ่ายเทผลประโยชน์จากบริษัทแนเชอรัล พาร์คหรือ N-PARK ทำให้นายทศพงศ์ ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทแนเชอรัลพาร์คและบริษัทแปซิฟิก แอสเซทหรือ PA และนางสว่างลาออกจากบริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น หรือ SYNTEC
นอกจากนี้ก็มีกรณีก.ล.ต.กล่าวโทษผู้บริหารบริษัทกรุงเทพผลิตเหล็ก หรือ BSI ซึ่งประกอบด้วยนายกฤช เขมธรรม,นางสาวแสงจิตร เลาหทัยกรณีร่วมกันดำเนินการให้บริษัทย่อย 3 แห่งเพิ่มทุนโดยไม่ได้จำเป็นต้องใช้เงินจริงและกล่าวโทษนายกฤช เขมธรรม,นางสาวแสงจิตรเลาหทัย,นายสุเทพ กิจสวัสดิ์ และนายพรชัย เอื้ออารยาภรณ์กรณีทำงบปี 2545 ไม่ถูกต้องตามมาตรฐานบัญชีว่าด้วยงบการเงินรวมและการบัญชีสำหรับเงินลงทุนในบริษัทย่อยปรากฏว่านายประเสริฐได้ลาออกบริษัทเมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MSC)นายสุเทพลาออกจาก บริษัทบริษัท เอ็ม ดีเอ็กซ์,นายพรชัย,นายสุเทพและนายประเสริฐลาออกจากบริษัทกรุงเทพผลิตเหล็กและนายประเสริฐยังได้ลาออกจากไทยเซ็นทรัลเคมีภัณฑ์และบริษัทยูไนเต็ดฟลาวมิลล์ และนายกฤชและนางสาวแสงจิตรได้ลาออกจากบริษัทยูไนเต็ดฟลาวมิลล์
ด้านสำนักงานก.ล.ต.ได้กล่าวโทษนายธีรัชชานนท์ลาภวิสุทธิสินและนางสาวสุภาพร ลาภวิสุทธิสินที่ถูกกล่าวโทษกรณีจัดทำเอกสารและบัญชีไม่ถูกต้องของบริษัทปิคนิคคอร์ปอเรชั่นต่อมานายธีรัชชานนท์และนางสาวสุภาพรก็ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการ
นายสุทธิชัย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบการใช้ข้อมูลภายใน(Inside) ในการซื้อขายหุ้นบมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น ( SHIN)ว่าขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งจะพยายามเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุดโดยยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเสร็จเรียบร้อยเมื่อไร
|
|
|
|
|