"โจนส์ แลงฯ" เผยผลศึกษา ระบุค่าเช่าสำนักงาน6 เมืองใหญ่ทั่วเอเชีย ปรับตัวสูงกว่า 20% เหตุซัปพลายเกิดใหม่ยังน้อย ความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานเช่าขยายตัวสูง สต็อกออฟฟิศเช่าในตลาดมีจำนวนจำกัด ส่งผลค่าเช่าปรับตัวสูงต่อเนื่อง ชี้ผู้เช่าในตลาดเริ่มมองหาออฟฟิศนอกเมืองเพื่อลดค่าเช่าเพิ่มขึ้น

นายเจน เมอร์เรย์ หัวหน้าฝ่ายวิจัย ภาคพื้นที่เอเชียแปซิฟิกของโจนส์ แลง ลาซาลล์ เปิดเผยว่า จากการศึกษาตลาดสำนักงานเช่าในประภูมิเอเชีย พบว่าความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานเพิ่มขึ้นสูง จากการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจ และธุรกิจการเงินการ เนื่องจากการที่เศรษฐกิจหลายๆ ประเทศมีอัตราการเติบโตกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานสูงขึ้น ส่งผลให้พื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่าเหลือว่างน้อยลงมาก ขณะที่การก่อสร้างอาคารใหม่ยังมีไม่มาก ส่งผลให้ค่าเช่าปรับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งค่าเช่าที่ปรับสูงขึ้นได้สร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนมองหาโอกาสการลงทุนในตลาดอาคารสำนักงานมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดออฟฟิศเช่าในกรุงเทพฯนั้น ค่าเช่าพื้นที่สำนักงานในเขตศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี) ในปี48 ปรับตัวสูงขึ้น 24.6% ส่วนอัตราการว่างเฉลี่ยของพื้นที่เช่าทุกระดับ ในเขตซีบีดี ปรับตัวลดลงจาก 17.8% เหลือ 11.8% สาเหตุหลักมาจากการความต้องการเช่ายังมีอยู่สูง แต่มีอาคารสร้างเสร็จใหม่มีจำนวนน้อย ในขณะเดียวกัน อาคารที่มีอยู่เดิมบางอาคารได้ปิดตัวลงเพื่อปรับรูปปรุงอาคารใหม่

ส่วนในเมืองใหญ่ของประเทศจีน อาทิ ปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ มีการขยายตัวของความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานสูง โดยในปี48ที่ผ่านมาอัตราค่าเช่าปรับขึ้นสูงถึง 4.2%-59.3% สำหรับ ตลาดในฮ่องกงมีภาวะเช่นเดียวกันกับตลาดโดยรวมของภูมิภาค แต่จำนวนซัปพลายลดลงมาก

ส่วนตลาดโตเกียว อัตราการว่างของพื้นที่เช่าของอาคารสำนักงานทุกเกรด ปรับตัวลดลงอาคารเกรดเอมีค่าเช่าปรับสูงขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการซื้อขายสำนักงานเพื่อการลงทุนเกิดขึ้นมาก ส่วนในสิงคโปร์ ตลาดอาคารสำนักงานเกรดเอบวกค่าเช่าเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ซึ่งอัตราการว่างของพื้นที่เช่าลดลงเหลือ 9.5% สำหรับประเทศที่อินเดีย ตลาดสำนักงานในนิวเดลี มุมไบ และบังกาลอร์ ความต้องการยังสูงอยู่แม้ค่าเช่าสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะที่มุมไบ ค่าเช่าในปี48เพิ่มสูงขึ้น100%

อย่างไรก็ตามในปี 2549 คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของจีดีพีในประเทศเอเชียส่วนใหญ่ จะไม่หวือหวามากนัก เนื่องจากผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเชื่อว่า ในครึ่งแรกของปีนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้ง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ จะยังขยายตัวอยู่ ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานยังคงขยายตัวต่อเนื่องในปีนี้ ประกอบกับการที่โครงการก่อสร้างใหม่ๆ ยังมีจำกัด ซึ่งจะทำให้อัตราการว่างของพื้นที่สำนักงานให้เช่าปรับลดลง ทำให้ค่าเช่ายิ่งปรับตัวสูงขึ้น ในส่วนของผู้เช่า เชื่อว่ายังมีบริษัทที่มีผลประกอบการดี และสามารถสู้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นได้ ขณะเดียวกัน ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น จะผลักดันให้มีบริษัทผู้เช่าบางส่วน พิจารณาการเช่าสำนักงานในย่านนอกเขตศูนย์กลางธุรกิจมากขึ้น เพราะมีค่าเช่าต่ำกว่า