Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2540








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2540
"สุกี้โคคา 40 ปีที่ยังโตไม่อิ่ม"             
โดย สนิทวงศ์ เจริญรัตตะวงศ์
 


   
search resources

โคคา โฮลดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล
พิทยา พันธุ์เพ็ญโสภณ
Food and Beverage




สุกี้…อาหารธรรมดา ๆ ที่ได้รับการตกแต่งจนเข้าขั้นระดับภัตตาคาร โดยค่ายโคคาเจ้าแรกที่เปิดดำเนินการในประเทศ และขยายต่อไปสู่ตลาดต่างประเทศและล่าสุดกับ "โคคา เอ็กซเพรส" ที่ให้คนไทยได้อิ่มอร่อยกับสุกี้อย่างรวดเร็วทันใจและแตกต่างไปจากบรรยากาศเดิม ๆ

ถ้าจะถามว่ายามนี้ธุรกิจอะไรที่ยังอยู่ได้ก็คงไม่พ้นร้านอาหารเพราะผู้คนยังต้องกินอยู่ ของใช้อื่น ๆ ยังชะลอการซื้อไปได ้แต่ของกินนี้หิวเมื่อไรก็ต้องได้กินมิฉะนั้นก็อยู่ไม่ได้

สุกี้เป็นอาหารอีกประเภทหนึ่งที่ยังได้รับความนิยมมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันไม่เสื่อมคลาย แม้จะมีอาหารสัญชาติตะวันตกเข้ามาตีตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะมาในลักษณะภัตตาคารร้านค้าหรือช็อปฟาสต์ฟูดส์ทั้งหลายแหล่

ด้วยความที่เป็นอาหารของคนตะวันออกด้วยกันเองโดยมีต้นกำเนิดมาจากทางตอนเหนือประเทศจีน และเมื่อเข้ามาในไทยก็ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เข้ากันสไตล์คนไทยจนคุ้นลิ้น และอาจเรียกได้ว่ากลายเป็นอาหารประจำชาติอีกอย่างหนึ่ง และเมื่อ "โคคา" ซึ่งเป็นเจ้าแรกที่แนะนำอาหารประเภทนี้สู่ภาคพื้นเอเชีย ก็เป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวต่างชาติว่า "Thai Suki"

จากรุ่นแรกสู่รุ่นลูก

โคคา ถือเป็นเจ้าแรกที่เปิดตัวอาหารประเภทสุกี้ในประเทศไทยเมื่อ 40 ปีที่แล้ว และยังเป็นหัวหอกสำคัญที่นำสุกี้ไปเผยแพร่ยังต่างประเทศ จากคนรุ่นพ่อแม่สู่รุ่นลูกปัจจุบันโคคาใช้ชื่อเป็นทางการว่าบริษัทโคคา โฮลดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล ภายใต้การดูแลของพิทยา พันธุ์เพ็ญโสภณ กรรมการผู้จัดการ ถือได้ว่าโคคา ยังครองความนิยมในหมู่คนไทยได้ในระดับต้น ๆ ในตลาดอาหารประเภทสุกี้ที่มีมูลค่ารวมประมาณ 2,000 ล้านบาท แม้ว่าในขณะนี้จะมีคู่แข่งขันอยู่เหมือนกันไม่ว่าจะเป็น เอ็มเคสุกี้ หรืออินเตอร์ สุกี้

ความโดดเด่นของอาหารประเภทสุกี้นั้นมีเพียงความสดใหม่สะอาดของอาหาร รสชาติของน้ำจิ้ม และการบริการ

เรื่องของคุณภาพอาหารขณะนี้ถือว่าไล่ตามกันทันแล้ว ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสดใหม่ ความสะอาดส่วนการบริการนั้นก็ขึ้นกับการฝึกอบรมพนักงานซึ่งสามารถฝึกกันได้ไม่ยากนัก

แต่สิ่งที่ทำให้ร้านสุกี้แต่ละค่ายมีความแตกต่างกันเห็นจะเป็นรสชาติของน้ำจิ้ม ซึ่งแต่ละค่ายก็มีสูตรปรุงของตนเองที่เป็นสิ่งดึงดูดใจลูกค้าทั้งหลาย ในเรื่องนี้สุกี้โคคาก็ถือว่าเป็นหนึ่งกับเขาเหมือนกัน ด้วยแนวคิดที่ว่าน้ำจิ้มจะต้องมีรสจัดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพื่อเรียกน้ำย่อย เนื่องจากสุกี้เป็นอาหารที่มีทั้งเนื้อสัตว์, อาหารทะเล และผักต่าง ๆ น้ำจิ้มจึงต้องสามารถไปได้กับอาหารทั้งหลาย

และแม้เจ้าของจะบอกว่าได้มีการพยายามลอกเลียนแบบ แต่น้ำจิ้มของโคคาก็ยังคงเป็นสูตรลับเฉพาะ "แม้จะมีร้านอื่นพยายามเลียนแบบก็ตาม แต่จะมีผู้คนกล่าวว่า น้ำจิ้มของโคคารสชาติจะกลมกล่อม รสไม่จัดจนกลบเกลื่อนรสชาติความสดของอาหาร"

โคคาเริ่มดำเนินการด้วยคอนเซ็ปต์ราคามาตรฐานจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้มีวิธีการเสิร์ฟอาหารแยกเป็นจานเล็กจานน้อย แทนการเสิร์ฟสุกี้ที่เป็นหม้อรวมที่ใส่สวนผสมทุกอย่างไว้แล้วเหมือนในอดีต เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกสั่งได้ตามชอบใจ

นอกจากนี้ ยังได้มีการพัฒนาอีกประการที่ทำให้เป็นที่แพร่หลายในปัจจุบันคือ การติดตั้งเครื่องปรับอากาศในห้องอาหารเพื่อควบคุมอุณหภูมิให้เย็นสบายอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากประเทศไทยมีภูมิอากาศที่ค่อนข้างร้อนไม่ค่อยสะดวกต่อการรับประทานสุกี้นัก


ขยายต่อเนื่องทั้งภัตตาคารและตัวใหม่ "โคคา เอ็กซเพรส"

จากอดีตจนถึงปัจจุบันนี้โคคาไม่ได้เป็นเพียงร้านสุกี้ที่อยู่ในเมืองไทยเท่านั้น แต่ยังได้ขยายไปสู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ด้วยไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไต้หวัน และออสเตรเลีย โดยมีสาขาอยู่ในต่างประเทศ 27 สาขา และปีหน้าจะขยายไปยังตลาด ในแถบยุโรปโดยเริ่มที่ประเทศอังกฤษเป็นแห่งแรก

ส่วนสาขาในประเทศที่เป็นโคคาภัตตาคารมีทั้งหมด 11 สาขากับอีก 1 สาขาที่เป็น "โคคา เอ็กซเพรส" ที่อาคารเมเปิ้ล เพรสซิเด้นท์ พาร์ค สุขุมวิท 24 ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

โดยการนำโคคา เอ็กซเพรสมาเปิดนั้น ถือเป็นการพยายามพัฒนารูปแบบการนำเสนอแบบใหม่ ๆ หลังจากที่มีการสำรวจความนิยมของลูกค้า ซึ่งเริ่มจะเบื่อกับรูปแบบของร้านสุกี้เดิม ๆ ที่มีพนักงานมาคอยเสิร์ฟคอยเฝ้าดูจนบางครั้งเกิดความอึดอัดกังวล และพาลให้รู้สึกรำคาญไม่เป็นส่วนตัว เพราะปกติการเข้าร้านสุกี้จะไปเป็นหมู่คณะไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนฝูง

ด้วยเข้าใจในความต้องการของลูกค้าจึงเกิดแนวคิดที่ให้ลูกค้าได้บริการตนเอง เพื่อขจัดปัญหาที่จะมีพนักงานเข้ามาวุ่นวายระหว่างกิจกรรมรับประทาน การเปิดร้านสุกี้ในลักษณะบุฟเฟต์จึงเกิดขึ้น

น่าสังเกตว่าคอนเซ็ปต์ดังกล่าวน่าจะได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งหลาย เพราะการมีพนักงานเสิร์ฟสำหรับร้านสุกี้นั้น นอกจากจะทำให้ไม่เป็นส่วนตัวแล้ว ขั้นตอนการสั่งอาหารและรออาหารที่จะส่งค่อนข้างช้าไม่ทันต่อกิจกรรมการกินที่ต้องการความต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงที่มีลูกค้ามาก ๆ ซึ่งลูกค้าหลายรายบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่ามีอาหารอยู่ที่เคาเตอร์แต่สั่งไปแล้วยังไม่ได้ ซึ่งสร้างความหงุดหงิดให้กับหลาย ๆ คน

ดังนั้นการที่ให้ลูกค้าบริการตนเองเช่นนี้ ย่อมเป็นสิ่งที่ดีเพราะลูกค้าสามารถเดินไปหยิบจากชั้นที่วางอาหารไว้ได้ตลอดเวลา โดยไม่จำกัดจำนวนอาหาร เนื่องจากคิดเป็นรายหัวอยู่แล้ว โดยจ่ายในอัตราผู้ใหญ่หัวละ 157 บาท เด็ก 90 บาท สำหรับมื้อกลางวัน ส่วนมื้อเย็นอัตราผู้ใหญ่ 188 บาทและเด็ก 100 บาท โดยอัตรานี้รวมอาหารของหวานและเครื่องดื่ม ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

ทั้งนี้ เด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 70 ซ.ม. ฟรี และมีข้อแม้ว่า สำหรับอาหารที่เหลืออยู่บนโต๊ะ ทางร้านถือว่าผิดกติกาแพ้ฟาวล์ จะคิดกิโลกรัมละ 100 บาท และสิ่งที่ถือว่าสร้างความแปลกใหม่ให้กับการรับประทานสุกี้คือ เครื่องโอโซนขจัดกลิ่น ที่ทางร้านได้นำมาติดตั้งและจะทำให้ปัญหากลิ่นสุกี้ติดเสื้อผ้าและผม หลังจากการกินสุกี้หมดไป ทำให้โคคา เอ็กซเพรสสามารถเปิดบริการได้ทั้งมื้อกลางวัน 11.00-14.30 น. และมื้อค่ำ 17.30-22.30 น.

การเปิดตัวโครงการโคคาเอ็กซเพรสอย่างนี้ ทางร้านยืนยันว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการเปิดร้านแบบภัตตาคารลงไปได้ถึง 20-30% ทีเดียว ส่วนหนึ่งมาจากพื้นที่ที่เล็กกว่าเดิมถึง 200 ตารางเมตร นับว่าเป็นความคิดที่เข้ากับยุคประหยัดจริง ๆ แม้ว่าจะมีการเตรียมงานสำหรับโครงการนี้มาก่อนเหตุการณ์ผันผวนของเศรษฐกิจนานถึง 6-7 เดือนแล้วก็ตาม

บริษัทตั้งเป้าว่าจะพยายามเปิดให้ได้อีก 4-5 แห่งภายในสิ้นปีนี้ และคาดว่าจะทำรายได้ให้แห่งละ 1 ล้านบาทต่อเดือน ปีหน้าบริษัทตั้งเป้าจะขยายสู่ตลาดฟาสต์ฟูดส์โดยตรงโดยขายเป็นลักษณะแฟรนไชส์ คิดค่าลิขสิทธิ์ในอัตรา 250,000-400,000 บาทต่อระยะเวลา 5 ปี ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับการตอบรับจากตลาดในเวลาที่รวดเร็ว

นอกจากการขยายตัวของบริษัทที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศ และต่างประเทศแล้ว เมื่อกระทรวงพาณิชย์ประกาศส่งเสริม "การส่งออกธุรกิจภาคบริการ" หรือ Service trade แล้วก็เหมือนกับโคคาได้ส้มหล่นด้วยเช่นกัน เพราะคงได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมากขึ้นในการที่จะขยายตัวไปตลาดต่างประเทศ

เนื่องจากถือเป็นธุรกิจบริการหนึ่งที่ทำรายได้เข้าประเทศ เพราะขณะนี้วัตถุดิบอาหารสดต่าง ๆ ที่ส่งไปยังร้านสุกี้โคคาในสาขาต่างประเทศนั้นล้วนเป็นการนำเข้าจากประเทศไทยทั้งสิ้น ดังนั้นยิ่งมีการขยายสาขามากขึ้นเพียงใดย่อมจะนำเงินตรากลับเข้าประเทศมากขึ้นตามไปด้วย

โคคา เอ็กซเพรส ถอดแบบบุคลิกพิทยา

การพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งของโคคาส่วนหนึ่งน่าจะมีผลมาจากบุคลิกส่วนตัวของพิทยา ความสามารถในภาษาทั้ง ภาษาไทย อังกฤษ และจีน ทำให้เขาดูกลมกลืนไปกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนรุ่นพ่อแม่และวัฒนธรรมใหม่ได้เป็นอย่างดี และถึงแม้จะเป็นคนรุ่นใหม่แต่ก็สามารถผสมผสานการทำงานในระบบครอบครัวกับระบบธุรกิจปัจจุบันได้ การขยายตัวของบริษัทโดยคำนึงถึงตลาดเป็นหลัก จึงทำให้สามารถแข่งขันกับธุรกิจปัจจุบันที่มีระบบการทำงานเป็นองค์กรธุรกิจได้อย่างสบาย และด้วยอัธยาศัยที่รื่นเริงสนุกสนานได้ถ่ายทอดออกมาเป็นรูปแบบของร้านที่ตกแต่งอย่างสมัยใหม่ ใช้สีที่โปร่ง สะอาดตา แต่สดใส รวมถึงดนตรีประกอบบรรยากาศภายในร้านที่คัดเลือกเฉพาะเพลงร่วมสมัยสนุกสนาน ครื้นเครง ประเภทป๊อป แจ๊ส และซอฟต์ร็อค จึงไม่แปลกถ้าขณะรับประทานจะเห็นพนักงานของร้านยักย้ายส่ายสะโพกไปมาเพราะเกิดอาการมันส์ในอารมณ์ ซึ่งคงเป็นสิ่งที่พิทยาตั้งใจให้เกิดขึ้นเช่นกันเนื่องจากเป็นการตอบรับกับความต้องการของคนรุ่นเขาโดยแท้

ในขณะที่อาหารต่างชาติเดินขบวนเข้ามาในประเทศอย่างไม่ขาดสาย เพราะเข้าใจถึงอุปนิสัยที่เบื่อง่าย ต้องการความทันสมัยอยู่ตลอดเวลาการมี "โคคา เอ็กซเพรส" อาจจะเป็นอาวุธสำคัญของกองทัพอาหารไทยที่กล้าต่อกรกับอาหารต่างชาติเหล่านั้น ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีเพราะไม่เพียงแต่จะมีการขยายตัวในประเทศเท่านั้น ตลาดในต่างประเทศก็ถือว่าโคคาไปได้สวยเช่นกัน

ตลาดในเมืองไทยถือว่าเป็นสนามทดสอบที่ดี เพราะต้องทำให้คนไทยที่ได้ชื่อว่าเบื่อง่ายติดใจอยู่ตลอดเวลาได้แต่โคคาก็สามาถทำได้ การออกไปสู้กับตลาดต่างประเทศก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย

สิ่งเหล่านี้คงเป็นสิ่งที่พิทยากำลังมองดูด้วยความภูมิใจที่สามารถสานงานจากคนรุ่นเก่าได ้และยังสามารถขยายงานต่อไปได้อย่างดีอีกด้วย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us