ทิปโก้แอสฟัสท์ กำไรสุทธิปี 48 รวมกว่า 214 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 609% หลังจากยอดขายทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ผู้บริหารใจป้ำ ประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.75 บาท พร้อมรุกขยายตลาดในประเทศจีน ด้วยการทุ่มทุนกว่า 100 ล้านบาท ซื้อหุ้น TIL เพิ่มเป็น 100%

นายชยงค์ศักดิ์ พิศิษฏพงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุดณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 214 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.77 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 30 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.26 บาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 184 ล้านบาท หรือคิดเป็น 609%

โดยบริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 7,368 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 จำนวน 2,279 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 45% เกิดจากยอดการขายในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มสูง สืบเนื่องจากงบประมาณแผ่นดินของการซ่อมและสร้างถนนของส่วนราชการต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น และมาจากราคาขายที่สูงขึ้นตามภาวะธุรกิจน้ำมัน

ด้านต้นทุนขายและบริการจำนวน 6,555 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 89% ของรายได้จากการขายและบริการ ลดลงจากปี 2547 เนื่องมาจากการบริหารวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ค่าใช้จ่ายการขายและบริหารอยู่ที่ 489 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7% ของรายได้จากการขายและบริการ ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 8% เกิดจากการพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม ทำให้ค่าใช้จ่ายการขายและบริหารเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการขายที่เพิ่มขึ้น

สำหรับรายได้และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ประกอบด้วย ส่วนได้เสียในกำไรสุทธิของบริษัทร่วมปี 2548 เป็นส่วนกำไรจำนวน 9.48 ล้านบาท และภาระดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 136.04 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2/2549 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งมีรายชื่อตามสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 21 มีนาคม 2549 ในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท โดยจะจ่ายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2549 รวมทั้งอนุมัติการลงทุนเพิ่มเติมในบริษัท Tasco International Company Limited (TIL) โดยซื้อหุ้นจำนวน 1,985,000 หุ้น 50% คืนจาก Coltil Limited (COLTIL) ทำให้ TASCO ถือหุ้นเพิ่มจาก 50% เป็น 100%

โดยมูลค่าการซื้อขายครั้งนี้ มีการตกลงซื้อขายจำนวน 1,985,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 1.36 เหรียญสหรัฐ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,700,000 เหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่าเงินบาทประมาณ 106,508,250 บาท ซึ่งบริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ชำระคืนภายในระยะเวลา 7 ปี

อย่างไรก็ตาม รายการดังกล่าวเป็นรายที่ที่เกี่ยวโยงกัน โดยมี TASCO ในฐานะผู้ซ้อ และ COLTIL ในฐานะผู้ขาย มีผู้ถือหุ้นใหญ่ร่วมกัน คือ บริษัท โคลาส เอสเอ จำกัด (COLAS) โดย ณ วันที่ 31 มกราคม 2549 COLAS ถือหุ้น TASCO 29.75% และถือหุ้น COLTIL 100%

สำหรับสาเหตุของการเข้าซื้อเงินลงทุนเพิ่มครั้งนี้ คณะกรรมการเห็นว่า จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับรู้กำไรที่เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์แนวโน้มการขยายตัวทางธุรกิจในประเทศจีนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยที่การดำเนินธุรกิจใน TIL และบริษัทย่อย รวมทั้งนโยบายการบริหารงานต่างๆ และความร่วมมือมือทางธุรกิจ และการสนับสนุนด้านเทคโนโลยี และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ได้จาก COLAS จะยังคงมีความต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทได้แต่งตั้ง บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาการเงินอิสระ เพื่อจัดทำรายงานเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น

สำหรับ Tasco International Company Limited (TIL) จดทะเบียนก่อตั้งที่หมู่เกาะเคย์แมน เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2542 ด้วยทุนจดทะเบียน 4.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เรียกชำระแล้ว 3.97 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยลงทุนใน 3 บริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางมะตอยในแต่ละภูมิภาคของประเทศจีน และมีฐานลูกค้าทั้งหมดอยู่ในประเทศจีน

ส่วนบริษัทย่อย 3 แห่ง ที่ TIL ถือหุ้นอยู่ประกอบด้วย 1. บริษัท Langfang Tongtai Road Material จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางมะตอยสำหรับใช้ในการก่อสร้างถนนและซ่อมบำรุงผิวถนน มีทุนชำระแล้ว 2.1 ล้านเหรียญสหรัฐ TIL ถือหุ้น 51%

2. บริษัท Zhenjiang Tipco Asphalt จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางมะตอยสำหรับใช้ในการก่อสร้างถนนและซ่อมบำรุงผิวถนน มีทุนชำระแล้ว 8.4 ล้านเรนมินบี TIL ถือหุ้น 51% และ 3. บริษัท Tipco Asphalt (Xinhui) จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางมะตอยสำหรับใช้ในการก่อสร้างถนนและซ่อมบำรุงผิวถนน มีทุนชำระแล้ว 2.1 ล้านเหรียญสหรัฐ TIL ถือหุ้น 100%

ด้านฐานะการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2548 TIL และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและบริษัท 38.49 ล้านเหรียญสหรัฐ ต้นทุนขายและบริการ 34.80 ล้านเหรียญ ค่าใช้จ่ายรวม 2.06 ล้านเหรียญ กำไรสุทธิ 1.23 ล้านเหรียญ กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.31 เหรียญ สินทรัพย์รวม 21.27 ล้านเหรียญ หนี้สินรวม 14.18 ล้านเหรียญ และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 7.08 ล้านเหรียญสหรัฐ