"อนันต์ อัศวโภคิน"เดินหน้าสร้างอาณาจักรโฮมโปร ต้องยึดฐานในประเทศให้แน่นก่อนไปต่างประเทศ ระบุจังหวัดเศรษฐกิจต้องมีสาขาโฮมโปร 2 แห่ง ด้านเอ็มดีโฮมโปรวางเป้าปีนี้เปิด6สาขา มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ประเดิมเปิดชอปปิ้งเซ็นเตอร์หัวหินกุมตลาดค้าปลีก เล็งรูปชอปปิ้งฯสาขา 2 ที่พัทยา
นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัท โฮมโปรดักส์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่แนวทางการทำธุรกิจของโฮมโปรในขณะนี้และในอนาคต จะต้องพยายามสร้างฐานที่มั่นภายในประเทศให้มั่น โดยในเรื่องของเป้าสาขาจะเป็นเท่าไหร่ไม่สามารถระบุได้ แต่สิ่งสำคัญในจังหวัดเศรษฐกิจที่สำคัญจะต้องมีสาขาของโฮมโปรเปิดให้บริการประมาณ 2 สาขา ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมต่อการให้บริการกับลูกค้าในจังหวัดนั้นๆ
"เรื่องประเด็นที่จะหาผู้ร่วมทุนหรือการไปรุกตลาดต่างประเทศนั้น เรายังไม่คิด แต่เราต้องให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศก่อน " นายอนันต์กล่าว
นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โฮมโปรดักส์ฯ กล่าวถึงแผนขยายการลงทุนในสาขาใหม่ว่า ในปีนี้จะเปิดเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 6 สาขา คาดจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท เฉลี่ยถ้าเป็นสาขาทั่วไปใช้เงินลงทุนประมาณ 300-500 ล้านบาทต่อสาขา ส่วนสาขาลักษณาชอปปิ้งมอลล์ ลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ จังหวัดที่จะเข้าไปเปิดสาขาอาทิ สมุย ,พิษณุโลก, อุดรธานี ,พัทยา และภาคกลาง นอกจากนี้ยังมีที่ดินในกรุงเทพอีก 2 แห่งที่เพชรเกษมและเลียบทางด่วนรามอินทราที่พร้อมจะขยายสาขาเพิ่ม
ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดสาขาที่หัวหินเป็นรูปแบบไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์เป็นสาขาแรก และจะเปิดรูปแบบนี้เพิ่มขึ้นอีก 1 สาขาที่พัทยา คาดลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 19 ไร่ติดเทสโก้ โลตัส และจะมีพื้นที่สำหรับร้านค้าให้เช่าเช่นเดียวกับสาขาหัวหิน โดยปัจจุบันโฮมโปรเปิดที่พัทยาแล้ว 1 สาขา
"การพิจารณาเปิดสาขาแต่ละแห่งว่าจะเป็นรูปแบบใด ขึ้นอยู่กับทำเลของสาขานั้นๆ โดยหากเป็นแหล่งท่องเที่ยวจะมีแนวโน้มเปิดรูปแบบไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ เนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากกว่าทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น"นายคุณวุฒิ
นอกจากนี้บริษัทยังได้พัฒนาสินค้าภายในโฮมโปรให้สอดคล้องกับกำลังซื้อและความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา โฮมโปรจะถูกมองว่าสินค้ามีราคาแพง เนื่องจากเน้นสินค้าคุณภาพเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบีบวกขึ้นไป ดังนั้นจากนี้บริษัทจะเสริมสินค้าที่มีราคาถูกลงเข้ามาจำหน่ายมากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบี เช่นการนำเข้าสินค้าจากจีนและเวียดนามมาจำหน่ายเพิ่มขึ้น
นายคุณวุฒิกล่าวอีกว่า สำหรับหัวหิน มาร์เก็ตวิลเลจ ได้เริ่มเปิดบริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 มภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเป็นไลฟ์สไตล์ ชอปปิ้ง เซ็นเตอร์เต็มรูปแบบสาขาแรกของโฮมโปร ที่รวมแม่เหล็กหลากหลายไว้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ อาทิ เทสโก้ โลตัส เมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์ และร้านค้าย่อยมีเป็นจำนวนมาก โดยจากพื้นที่ขายรวม 4.5 หมื่นตารางเมตร บนเนื้อที่ 27 ไร่ จะเป็นพื้นที่ขายของโฮมโปรเพียง 5.5 พันตารางเมตร ที่เหลือเป็นพื้นที่เช่า การเลือกเปิดสาขาที่หัวหินในรูปแบบไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ เนื่องจากการวิจัยตลาดพบว่า
ปัจจุบันหัวหินยังไม่มีชอปปิ้งเซ็นเตอร์เต็มรูปแบบในพื้นที่ ทั้งที่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาปีละไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 1.6 ล้านคน นักท่องเที่ยวต่างชาติ 4 แสนและคนท้องถิ่นอีก 2.2 แสนคน
โดยนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักที่หัวหินใช้เวลาท่องเที่ยวเฉลี่ยครั้งละ 2 วันครึ่ง จากการวิจัยตลาดดังกล่าว จึงทำให้บริษัทมองเห็นมองโอกาสที่จะเข้ามาเปิดให้บริการ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้ามาใช้บริการวันละไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นคนต่อวัน คาดมีเงินสะพัดวันละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทและมีรายได้จากค่าเช่าปีละ 150 ล้านบาท ตั้งเป้าถึงจุดคุ้มทุนภายใน 10 ปีจากนี้ส่วนกรณีที่มีผู้ต่อต้านการเปิดให้บริการของค้าปลีกขนาดใหญ่ว่าเกรงจะกระทบต่อร้านค้าในท้องถิ่นนั้น
นายคุณวุฒิกล่าวว่า บริษัทจะเน้นการอยู่ร่วมกับคนในท้องถิ่น มีพื้นที่สำหรับจำหน่ายสินค้าในท้องถิ่น และให้ความร่วมมือกับกิจกรรมในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังเสียภาษีให้กับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นด้วย
|