"เชอราตันเชียงใหม่" สบโอกาส รัฐบาลบูมเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวและธุรกิจ เล็งเปิดพลาซ่าหรู รับนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ และนักธุรกิจ พร้อมจีบร้านอาหารและร้านค้าแบรนด์เนมกว่า 5-6 รายร่วมวง ปัดฝุ่นแผนพัฒนารีสอร์ต มูลค่า 200 ล้านบาท ที่อำเภอแม่ริม ชี้ธุรกิจโรงแรมตอนนี้แข่งขันรุนแรง เหตุผู้ประกอบการผุดเป็นดอกเห็ด ระบุปัญหาใหญ่คือเที่ยวบินไม่พอรองรับผู้โดยสาร วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข

นายเกษม เช็คช์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายขายและการตลาด โรงแรมเชอราตัน เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางโรงแรมเชอราตัน เชียงใหม่ อยู่ระหว่างการวางแผนเพื่อเตรียมการพัฒนาพื้นที่ด้านข้างและด้านล่างของโรงแรมเพื่อพัฒนาเป็น พลาซ่าระดับไฮเอนด์ ทั้งนี้เพราะเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในรูปแบบนี้

แม้ว่าในปัจจุบันนี้จังหวัดเชียงใหม่จะมีพลาซ่าและชอบปิ้งมอลล์เปิดให้บริการหลายแห่งก็จริง แต่ยังไม่มีพลาซ่าในลักษณะที่เป็นศูนย์รวมของร้านค้าและร้านอาหารระดับหรู หรือเป็นแบรนด์เนมที่มาจากต่างประเทศ ขณะที่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเชียงใหม่ เริ่มมีความหลากหลายเพิ่มขึ้น ทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่เป็นระดับไฮเอนด์ นอกจากนั้นเศรษฐกิจเมืองเชียงใหม่เองก็ดีขึ้นจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทำให้ผู้คนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการออกแบบ พร้อมยื่นขอใบอนุญาตการต่อเติม จากหน่วยงานภาครัฐ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า จะต้องใช้งบประมาณจำนวนเท่าใด เบื้องต้นได้มีการติดต่อร้านค้าและร้านอาหารแบรนด์เนมไว้บ้างแล้ว 4-5 ราย ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ ที่ยังไม่เคยเปิดให้บริการในเชียงใหม่ โดยกลุ่มเป้าหมายจะมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ คาดว่าทั้งหมดจะสรุปผลพร้อมกำหนดงบลงทุนได้ในเร็วๆนี้

นอกจากนั้น ยังมีแนวคิดที่จะ นำที่ดินที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จำนวน 20 ไร่ มาพัฒนาเป็นรีสอร์ท ซึ่งแผนเดิมที่เคยเตรียมการและศึกษาไว้นั้นคาดว่าจะต้องใช้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท แต่โครงการนี้ได้ถูกพับเก็บโครงการไปชั่วคราวก่อนหน้านี้ ซึ่งภายในไตรมาสนี้คาดว่าจะนำโครงการนี้กลับเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารโรงแรมอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะสรุปว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบหรือเงินลงทุนหรือไม่ ซึ่งในเบื้องต้นนี้คาดว่าจะสร้างเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มลองสเตย์ ซึ่งจะมีทั้งกลุ่มที่มาจากยุโรป และ ญี่ปุ่น คาดว่าภายในกลางปีนี้จะหาข้อสรุปและเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาสสามของปีนี้

นายเกษมกล่าวอีกว่า สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อปีที่ผ่านมามีการเติบโตบ้างเล็กน้อย ขณะที่มีการแข่งขันกันในหมู่ผู้ประกอบการโรงแรมค่อนข้างรุนแรง ทั้งนี้เป็นเพราะปัจจุบันมีโรงแรมใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมระดับ 5-6 ดาว ขณะที่เที่ยวบินที่มาลงสนามบินเชียงใหม่ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นทั้งเที่ยวบินที่มาจากต่างประเทศ และเที่ยวบินในประเทศ จึงทำให้มีปริมาณเที่ยวบินรองรับไม่เพียงพอต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว

"ตรงนี้จึงถือเป็นปัญหาสำคัญ ที่ทำให้การเติบโตในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเชียงใหม่ ยังไม่เป็นไปตามรูปการณ์ที่แท้จริง โดยในส่วนของโรงแรมเชอราตัน ปัญหาที่ประสบอยู่ตอนนี้คือ มียอดจองห้องของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่ต้องถูกยกเลิกจากลูกค้า เนื่องจากไม่สามารถหาเที่ยวบินมาเชียงใหม่ได้ ตรงนี้ทำให้โรงแรมเราเสียโอกาสทางธุรกิจไปจำนวนพอสมควร ซึ่งหลายโรงแรมในเชียงใหม่ก็ประสบปัญหานี้ค่อนข้างจะใกล้คียงกัน"

ดังนั้นจึงต้องการให้ภาครัฐในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ เพราะปัจจุบัน เชียงใหม่นอกจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เติบโตดีและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องที่ยวต่างชาติแล้ว ยังเป็นเมืองธุรกิจและการค้าด้วย ดังนั้นโดยรวมจะมีการเดินทางตลอดทั้งปี แต่หากเป็นฤดูท่องเที่ยว ในช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม ก็จะยิ่งทำให้เที่ยวบินที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับความต้องการ

อย่างไรก็ตาม โรงแรมเชอราตัน เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ มีห้องพักประมาณ 500 ห้อง มีห้องประชุมพร้อมรองรับกรุ๊ปประชุมสัมมนากลุ่มใหญ่ได้ โดยปีก่อน มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีที่ 50% เศษ ปีนี้ตั้งเป้าเติบโตเป็น 55-60% ส่วนหนึ่งมาจากการเติบโตของกรุ๊ปประชุมสัมมนาที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น