|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล” เจ้ากระทรวงหูกวาง ยอมรับนักลงทุนข้ามชาติเริ่มวิตกกังวลโครงการเมกกะโปรเจกท์ เสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอน การชุมนุมกดดัน“ทักษิณ ชินวัตร” ประเด็นสำคัญที่นักลงทุนขอคำอธิบายก่อนตัดสินใจร่วมประมูลงาน ด้านรัฐบาลเสียงแข็งประกาศชัดไม่ล้มโครงการแน่นอน พร้อมเดินหน้าตามกรอบเดิมที่กำหนดไว้
นึกว่าจะมีแต่คนไทยเท่านั้นที่ยัง“สับสน มึนงง ”ไม่หายกับนโยบายการลงทุนโครงการเมกกะโปรเจกต์ มูลค่า 5.5 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลมีท่าทีจะเอาจริงเองจังกับการลงทุนโครงการขนส่งมวลชนระบบราง
แต่วันนี้นักลงทุนข้ามชาติที่แห่กันเข้ามาร่วมฟังรายละเอียดโครงการดังกล่าวหลายรายเกิดความสับสนขึ้นบ้างแล้ว กังวลว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการต่อไปหรือไม่ ?
เพราะปัจจุบันรัฐบาลถูกกระแสการกดดันจากการชุมนุมของกลุ่มผู้ที่ไม่พอใจการบริหารประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงความไม่โปร่งใสการขายหุ้นชินคอร์ป มูลค่า 73,300 ล้านบาท ให้กับเทมาเส็ก กองทุนจากสิงคโปร์ รวมถึงการบริหารประเทศที่ส่อเค้าเอื้อประโยชน์ต่อตัวเอง ครอบครัว และพวกพ้อง จนทำให้เกิดเหตุลุกลาม จนถึงขั้นการชุมนุมกันที่ลานพระรูป ถึง 2 ครั้ง เพื่อกดดันให้นายกฯทักษิณ ลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบ
ประเด็นดังกล่าว ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มสับสน ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการต่อหรือไม่ ?เพราะการชุมนุมของประชาชนเรือนแสนคน มากพอที่จะทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลสั่นคลอน และที่สำคัญไม่รู้ว่า นายกฯทักษิณ จะลาออกหรือยุบสภาตามความต้องการของผู้ชุมนุมหรือไม่ ? เพราะหากมีการลาออก หรือยุบสภาจริง อาจจะทำให้โครงการสะดุดได้
“เสี่ยเพ้ง” รับทุนข้ามชาติกังวล
พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล หรือเสี่ยเพ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวยอมรับว่า กลุ่มทุนข้ามชาติที่สนใจลงทุนโครงการขนส่งมวลชนระบบราง เริ่มมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองในประเทศ หลังจากที่มีการชุมนุมเพื่อกดดันนายกรัฐมนตรีให้แสดงความโปร่งใสในการขายหุ้นชินคอร์ป ที่ส่อแววว่าจะไม่โปร่งใส มีการใช้วิธีการอันชาญฉลาดหลบเลี่ยงภาษี
รวมถึงการบริหารราชการแผ่นดินที่เอื้อประโยชน์ต่อครอบครัว และพวกพ้อง จนทำให้มีการสอบถามถึงสถานการณ์กันเข้ามาที่กระทรวงคมนาคมจำนวนมาก ซึ่งกระทรวงก็ได้อธิบายให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวยังเดินหน้าต่อไป ไม่มีการล้มโครงการอย่างแน่นอน
“ยอมรับว่านักลงทุนต่างชาติเริ่มวิตกกับปัญหาทางการเมือง และสอบถามสถานการณ์เข้ามามาก เพื่อให้เกิดมั่นใจต่อการลงทุนในโครงการระบบขนส่งมวลชนระบบราง หรือเมกะโปรเจกท์ ซึ่งเป็นโครงการที่มีพันธสัญญาผูกพันในระยะยาว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะเข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองและเดินหน้าลงทุนต่อ เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นไทยจะต้องลงทุนโครงการเมกะโปรเจกท์แน่นอน” พงษ์ศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงได้ติดตามสถานการณ์ของนักลงทุนต่างชาติอย่างใกล้ชิด และเห็นนักลงทุนต่างชาติยังทำงานต่อไป เพื่อเข้าร่วมลงทุนโครงการดังกล่าว แม้ว่าจะมีความกังวลอยู่บ้าง
ทั้งนี้ กลุ่มทุนข้ามชาติที่สนใจหลายราย ได้ทยอยเข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทยแล้ว เนื่องจากในเดือนก.พ.นี้ จะเป็นการเสนอข้อมูลการร่วมลงทุน และในวันที่ 28 เดือนเดียวกันจะเป็นขั้นตอนการคัดเลือกผู้ทำการก่อสร้างในหลาย
ที่ปรึกษาฯเชื่อต่างชาติมองพื้นฐาน
ขณะที่พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี ในฐานะที่ปรึกษาการระดมทุน โครงการขนส่งมวลชนระบบราง กล่าวว่า จากการเดินทางไปโรดโชว์ร่วมกับกระทรวงการคลังในต่างประเทศ ทำให้เห็นมุมมองของนักลงทุนต่างชาติ ที่สนใจลงทุนโครงการขนส่งมวลชนระบบราง รวมทั้งสถาบันการเงินที่สนใจปล่อยเงินกู้ว่า ไม่ได้มองแค่สถานการณ์การเมืองว่าจะมีผลกระทบต่อโครงการ เพราะปัญหาทางการเมืองเป็นปัญหาระยะสั้น และไม่ว่าการเมืองจะเป็นอย่างไร ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการลงทุนโครงการระบบราง ที่เป็นการลงทุนในระยะยาว และถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ
ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับนักลงทุนต่างชาติ ได้สนใจวิธีการเข้ามาร่วมลงทุน โครงการขนส่งมวลชนระบบราง ซึ่งได้ชี้แจงว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นแล้ว หากนักลงทุนสนใจสามารถขอรายละเอียดข้อมูลได้ โดยรัฐบาลไทยเปิดกว้างการลงทุน ไม่เฉพาะเรื่องของเทคนิคก่อสร้างเท่านั้น แต่เปิดกว้างด้านการจัดหาเงินลงทุน ส่วนนักลงทุนไทยเชื่อว่าจะร่วมลงทุนกับนักลงทุนต่างชาติแน่นอน ในลักษณะการร่วมลงทุน เนื่องจากผู้ประกอบการไทยจะมีข้อมูลพื้นฐานมากกว่าต่างชาติ
ส่วนความคืบหน้าโครงการเมกะโปรเจกท์ พงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ได้เสนอให้ใแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการลงทุนพิเศษของรัฐ (กนค.) ที่มีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทำหน้าที่พิจารณาตัดสินของเสนอขอนักลงทุนก่อนเสนอครม.อนุมัติ ส่วนโครงการเมกะโปรเจกท์ของกระทรวงคมนาคมจะตั้งคณะกรรมการบริหาร4 ชุด โดยพงษ์ศักดิ์เป็นประธาน ทำหน้าที่พิจารณาข้อเสนอเบื้องต้นก่อนเสนอกนค.
นอกจากนี้ ยังเสนอให้ยุบกรรมการบริหารเหลือ 4 ชุด โดยกรรมการบริหารจะรับผิดชอบ 4 โครงการหลัก ได้แก่ 1. โครงการรถไฟฟ้า 10 สาย 2. โครงการรถไฟทางคู่ และโครงการปรับปรุงทางรถไฟ 3. โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบาราและท่าเรือน้ำลึกสงขลา รวมทั้งระบบถนนและรถไฟที่เกี่ยวข้อง และ 4. โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-นครราชสีมา โครงการก่อสร้างถนนวงแหวนรอบนอก ชั้นที่ 3 และโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายศรีนครินทร์-บางนา-สมุทรปราการ
ทั้งนี้ เดิมกำหนดตั้งกรรมการบริหาร 7 ชุด แต่เนื่องจากแต่ละชุดต้องมีกรรมการถึง 18 คน ทำให้มีปัญหาในการหาผู้มีคุณสมบัติไม่ขัดกับที่ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการพัฒนาประเทศ พ.ศ. 2549
|
|
|
|
|