|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ก.ล.ต.ลงโทษอดีตผู้บริหารบลจ.อยุธยาเจเอฟ "สุชาติ เตชะโพธิ์ไทร" เหตุขาดความระมัดระวังลงทุนในตั๋วแลกเงินปิคนิค คอร์ปอเรชั่น พร้อมไม้ให้ความเห็นชอบเป็นเวลา 6 เดือน ขณะที่บลจ.อยุธยาเจเอฟถูกปรับเงิน 3.2 แสนบาท พร้อมสั่งปรับปรุงแก้ไขระบบการปฏิบัติงานอย่างเร่งด่วน
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า สำนักงานได้ดำเนินการลงโทษนายสุชาติ เตชะโพธิ์ไทร อดีตรองกรรมการผู้จัดการ ประธานเจ้าหน้าที่สายการลงทุนและผู้จัดการกองทุนรวม ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยาเจเอฟ จำกัด (AJF) ในกรณีที่มีการลงทุนให้กับกองทุนรวมอย่างไม่เหมาะสม เนื่องจากได้ลงทุนในตั๋วแลกเงินของบริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PICNI) โดยขาดความระมัดระวัง
ทั้งนี้จากการตรวจสอบของสำนักงานก.ล.ต. พบว่าเมื่อวันที่ 28-29 กรกฎาคม 2548 และวันที่ 4 สิงหาคม 2548 นายสุชาติ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ ประธานเจ้าหน้าที่สายการลงทุน และผู้จัดการกองทุนรวมของ AJF ได้ลงทุนในตั๋วแลกเงิน PICNI เพื่อกองทุนรวมอยุธยาตราสาร 1/49 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2548 ด้วยการรับซื้อตั๋วแลกเงินดังกล่าวจากกองทุนรวมอีก 2 กองภายใต้การจัดการของ AJF ที่มีผู้ถือหน่วยลงทุนรายหนึ่งถือหน่วยลงทุน 99.99% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ได้ปรากฏข่าวต่อสาธารณชนอย่างชัดเจนว่า ก.ล.ต.ได้มีคำสั่งให้ PICNI แก้ไขงบการเงิน และจัดให้มีการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit)
อย่างไรก็ตามนายสุชาติยังคงใช้งบการเงินปี 2547 ของ PICNI ที่ยังไม่ได้แก้ไขในการทบทวนฐานะทางการเงินของบริษัท ซึ่งถือว่าเป็นการใช้ข้อมูลที่ไม่เพียงพอ ไม่เหมาะสมและเชื่อถือไม่ได้ และยังปรากฏว่า ภายหลังการตัดสินใจลงทุนเพียง 1 วัน ที่ประชุมคณะกรรมการลงทุนของ AJF ซึ่งมีนายสุชาติเป็นประธาน ก็ได้มีมติให้ผู้จัดการกองทุนเข้าพบผู้บริหารระดับสูงของ PICNI โดยเร็วที่สุด เพื่อประเมินฐานะทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ของ PICNI ดังนั้น การลงทุนดังกล่าวจึงสะท้อนให้เห็นถึงการขาดความระมัดระวังและรอบคอบในการใช้ข้อมูล
การกระทำของนายสุชาติข้างต้นถือว่า มีความบกพร่องในหน้าที่ คือไม่ได้ใช้ข้อมูลที่เพียงพอและมีหลักฐานที่สามารถอ้างอิงได้ อันเป็นการกระทำผิดมาตรฐานการปฏิบัติงานของผู้จัดการกองทุนรวม ตามที่กำหนดในประกาศที่ สน. 43/2544 เรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการให้ความเห็นชอบผู้จัดการกองทุนรวม ลงวันที่ 28 กันยายน 2544 ข้อ 9 (2) ก.ล.ต. จึงเห็นสมควรให้มีการลงโทษสั่งพักนายสุชาติจากการเป็นผู้จัดการกองทุนรวมเป็นเวลา 6 เดือน แต่เนื่องจากก่อนการพิจารณาของ ก.ล.ต. จะแล้วเสร็จนายสุชาติได้ขอคืนการได้รับความเห็นชอบเป็นผู้จัดการกองทุนรวม มีผลตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2548
สำนักงาน ก.ล.ต. จึงได้บันทึกพฤติกรรมดังกล่าวไว้เป็นประวัติ ซึ่งหากนายสุชาติจะยื่นขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในตลาดทุน ก.ล.ต. ก็จะปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบ เป็นเวลา 6 เดือน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 ถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2549
อนึ่ง ปัจจุบัน PICNI ได้ชำระหนี้ตามตั๋วแลกเงินให้แก่กองทุนรวมอยุธยาตราสาร 1/49 ครบถ้วนแล้ว
สำหรับ AJF ที่ปล่อยให้เกิดพฤติกรรมข้างต้นขึ้นนั้น สำนักงานก.ล.ต. พบว่า สาเหตุเกิดจากระบบในการทบทวนเครดิตของผู้ออกตราสาร (credit review) ของ AJF ไม่เพียงพอ และรายชื่อหลักทรัพย์ที่ได้รับการอนุมัติให้ลงทุน (approved list) ไม่มีการปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ผิดหลักเกณฑ์ในเรื่องการจัดระบบงานตามที่กำหนดในประกาศที่ กน. 30/2547 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุน ลงวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2547 ข้อ 2 (1)
คณะกรรมการเปรียบเทียบได้มีมติเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2549 ให้ทำการเปรียบเทียบปรับบริษัทเป็นจำนวนเงิน 323,437.50 บาท นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังได้สั่งการให้ AJF ปรับปรุงแก้ไขระบบการปฏิบัติงานอย่างเร่งด่วน ซึ่งภายหลังจากที่ ก.ล.ต. ได้เข้าตรวจสอบระบบการปฏิบัติงานภายในของบริษัทในเวลาต่อมาพบว่า ได้มีการปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปโดยเหมาะสมแล้ว
|
|
|
|
|