|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หุ้นไมด้า-เมดดาลิสท์ร้อน 4 วัน ราคาพุ่ง 59.23% นักลงทุนโวยตลท.ใช้ 2 มาตราฐานในการพิจารณา ไม่ยอมสั่งห้ามมาร์จิ้น-เน็ตแซทเทิลเม้นท์เหมือนกับหุ้นอีสเทิร์นไวร์-ไออีซี ขณะที่ผู้บริหารชี้มีคำสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศหลายแห่ง แย้มรายได้ปี48 เพิ่มขึ้น แต่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ไม่แนะให้ลงทุน ระบุมีสภาพคล่องในการซื้อขายน้อย
วานนี้ (16ก.พ.) หุ้นบริษัทไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MME ราคาเปิดมาที่ระดับ 12.20 บาท หลังจากนั้นได้มีแรงซื้อเข้ามาผลักดันให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นและขึ้นมาสูงสุดที่ระดับ 15.40 บาท ต่อมาได้มีแรงเทขายทำกำไรออกมา ทำให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลง และมาปิดที่ระดับ 13.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท หรือ 8.80% มูลค่าการซื้อขาย 444.66 ล้านบาท
ทั้งนี้หุ้นบริษัทไมด้า-เมดดาลิสท์ฯ ราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 วันทำการแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 10-16 กุมภาพันธ์ ราคาหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 59.23%
นายธนากร ตั้งจิตกรุณา นักลงทุนกล่าวว่า หุ้นบริษัทไมด้า-เมดดาลิสท์ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ราคาปรับตัวสูงขึ้นมาก แต่ตลาดหลักทรัพย์กลับไม่ดำเนินการสั่งห้ามซื้อขายด้วยมาร์จิ้น และเน็ตแซทเทิลเมนท์แต่อย่างใด ซึ่งแตกต่างจากหุ้นบริษัทอีสเทิร์นไวร์ หรือ EWC หรือหุ้นบริษัทอินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง หรือ IEC ที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเช่นกันและถูกตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามซื้อขายด้วยมาร์จิ้นและเน็ตแซทเทิ้ลเมนท์ จากลักษณะดังกล่าวจึงเห็นว่าการปฏิบัติของตลาดหลักทรัพย์เหมือนกับเลือกปฏิบัติ โดยมี 2 มาตรฐานในการพิจารณา
"ผมได้โทรศัพท์สอบถามไปยังตลาดหลักทรัพย์ว่าทำไมถึงไม่ขึ้นป้ายห้ามมาร์จิ้นและเน็ตแซทเทิลเม้นท์ในหุ้นบริษัทไมด้า-เมดดาลิสท์ทั้งที่ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ราคาปรับตัวขึ้นมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ก็ได้บอกว่ามีฝ่ายกำกับทำหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว ผมเห็นว่าการดำเนินการของตลาดหลักทรัพย์ในหุ้นไมด้า-เมดดาลิสท์ จะแตกต่างจากที่ดำเนินการกับหุ้นอีสเทิร์นไวร์ หรือไออีซีที่ราคาหุ้นขึ้นมาไม่นานก็ถูกตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามมาร์จิ้นและเน็ตแซทเทิ้ลเมนท์แล้ว จึงเหมือนกับเป็นการพิจารณาโดยใช้มาตรฐานคนละอย่างกัน" นายธนากรกล่าว
แม้ว่าผลประกอบการของบริษัทไมด้า-เมดาลิสท์ จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าราคาหุ้นก็ไม่น่าจะปรับตัวขึ้นมามากเช่นนี้ ดังนั้นจึงมองว่าการที่ราคาปรับตัวขึ้นมาแรงนั้น เกิดจากการเข้ามาสร้างราคาหุ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ควรที่จะจับตามอง
ช่วงที่ผ่านมามีหุ้นบางบริษัทที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว เจ้าของบริษัทพยายามที่จะนำหุ้นเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และเมื่อหุ้นเข้ามาซื้อขายแล้ว ก็พยายามที่จะผลักดันราคาหุ้นให้ปรับตัวสูงขึ้นต่อมาก็ขายหุ้นทิ้ง ทำให้นักลงทุนรายย่อยได้รับความเสียหาย
นางชวัลลักษณ์ เอี่ยมอำภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับคำสั่งซื้อสินค้า เครื่องเล่นปาเป้า จากประเทศฮ่องกง สิงคโปร์ อินโดเนียเซีย เกาหลี นิวซีแลนด์ ซึ่งมียอดสั่งซื้อสินค้าเข้ามาแล้วประเทศละ 1 ตู้คอนเทรนเนอร์จากเดิมที่ยอดขาย90% จากประเทศญี่ปุ่น
รวมถึงในปีนี้บริษัทจะมีการขายโต๊ะพูล และโต๊ะฟุตบอล ในแบรนด์ของบริษัทเอง ซึ่งจะมีการทำโฆษณาเอง จากเดิมที่มีการรับจ้างผลิตให้กับเจ้าของตราสินค้าในต่างประเทศเป็นหลัก โดยรับจ้างผลิตทั้งโต๊ะพูลอังกฤษ ภายใต้ตราสินค้า "Super League"และโต๊ะพูลอเมริกัน ภายใต้ตราสินค้า "Sun Line"และโต๊ะฟุตบอลให้แก่เจ้าของตราสินค้าในต่างประเทศทั้งหมด ภายใต้ตราสินค้า "Super League" แต่บริษัทก็ยังคงที่จะรับจ้างผลิตต่อไป โดยตรงนี้จะช่วยทำให้บริษัทมีผลประกอบการมากขึ้น คาดว่ายอดคำสั่งซื้อสินค้าของโต๊ะพลูจะมีมากขึ้นในไตรมาส3 /2548 และโต๊ะฟุตบอลจะมีคำสั่งซื้อสินค้ามากขึ้นในไตรมาส2/2549
สำหรับรายได้ปี 2548 ที่มีการเติบโตมากว่าปี 2547 เนื่องจากบริษัทได้มีการซื้อตราสินค้า ซึ่งยอดขายก็ยังคงมีเท่าเดิมแต่บริษัทได้มีการปรับเปลี่ยราคาขายสินค้ามากขึ้นจึงทำให้ผลประกอบปีนี้ของบริษัทมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
อย่างไรก็ตามการที่ราคาหุ้นของบริษัทได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ส่วนตัวก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นเพราะเหตุใด แต่เรื่องการที่บริษัทจะมีการจ่ายปันผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับมติของคณะกรรมการของบริษัท
นางสาวสุภากรณ์ สุจิรัตนวิมล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ทีเอสอีซี จำกัด เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้นของ ไมด้า-เมดดาลิสท์ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมา ส่วนตัวมองว่านักลงทุนน่าจะเข้ามาเก็งกำไร ซึ่งทางบล.ทีเอสอีซี มองว่าหุ้นดังกล่าวไม่มีความน่าสนใจที่จะเข้ามาลงทุน เพราะ เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องน้อย ซึ่งบริษัทก็ไม่แนะนำลงทุน โดยบริษัทก็ให้ราคาเหมาะสมของหุ้น ไมด้า-เมดดาลิสท์ ต่ำกว่าราคาจองที่ 8 บาท
|
|
|
|
|