บสท. เตรียมใช้ระบบนายหน้าขายเอ็นพีเอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ถึงมือประชาชน เผยเลือกบางโครงการที่เหมาะสม ลั่นเป้าหมายขายเอ็นพีเอหมื่นล้านปีนี้สำเร็จหลังปีก่อนต่ำกว่าเป้าเพราะอยากได้ราคาดี

นายเชาวรัตน์ เชาวน์ชวานิล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาสินทรัพย์ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) เปิดเผยว่า บสท. เตรียมนำระบบนายหน้า หรือตัวแทนขายทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) เข้ามาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายเอ็นพีเอไปสู่มือประชาชนได้มากขึ้น โดยคาดว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ของ บสท. เพื่อหารือความชัดเจน กำหนดเงื่อนไข กติกา ตลอดจนคุณสมบัติของนายหน้าในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ก่อนที่จะเริ่มใช้ระบบดังกล่าวได้ภายในกลางเดือนมีนาคม

นายเชาวรัตน์กล่าวอย่างมั่นใจถึงเป้าหมายปี 2549 ที่ บสท.ตั้งเป้าขายเอ็นพีเอให้ได้ 1 หมื่นล้านบาท โดยในปี 2548 ที่ผ่านมา ขายเอ็นพีเอได้ประมาณ 7 พันล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เล็กน้อย เนื่องจากว่ามีบางรายการซึ่งเป็นดีลใหญ่ ๆ เลื่อนมาขายในปีนี้

ทั้งนี้ ในปีนี้ บสท. ได้วางกลยุทธการตลาดเพื่อระบายเอ็นพีเอ โดยจะสร้างเครือข่ายที่เรียกว่า "บสท. เน็ตเวิร์ค" ขึ้นมา เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการระบายทรัพย์สิน และเสริมศักยภาพการขาย ตลอดจนตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น โดยยึดหลักที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน แบบ "วิน-วิน-วิน โซลูชั่น

สำหรับโครงการที่จะเริ่มในไตรมาสแรกของปีนี้ ได้แก่ โครงการบ้านมือสอง เกรดเอ ซึ่งจะมีทั้งทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด บ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด คอนโดมิเนียม ฯลฯ รวมทั้งสิ้น 350 รายการ มูลค่าประมาณ 1.6 พันล้านบาท โดยจะขายให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก บริษัทตัวแทนนายหน้า ที่จะเข้าตกแต่ง พัฒนาและบริหารการตลาด เพื่อนำไปขายต่อให้ผู้ซื้อรายย่อยต่อไป ซึ่งมีเงื่อนไขว่าผู้ที่จะเข้ามาซื้อ จะเข้ามาซื้อกับ บสท. ได้โดยตรง ภายหลังพ้นกำหนดการประมูลขายทรัพย์สินนั้นแล้ว โดยจะต้องซื้อทรัพย์สินในลักษณะเหมากลุ่ม ขั้นต่ำ 5 รายการ และต้องเข้าดำเนินการก่อสร้าง ปรับปรุงทรัพย์สิน ก่อนรับโอนกรรมสิทธิ์จาก บสท. ทั้งนี้ บสท. ได้ขยายเวลารับชำระเงินให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์เป็นพิเศษ จากเดิมภายใน 90 วัน เป็น 180 วัน นับตั้งแต่วันทำสัญญาซื้อขาย และหากชำระภายใน 90 วัน จะไม่คิดดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ยังจะได้สานต่อโครงการ "จิ๊กซอว์ต่อบ้าน" ที่ได้คัดเลือกอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในทำเลดี ทั้งโครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ โฮมออฟฟิศ ฯลฯ ทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด ซึ่งเจ้าของโครงการเดิมก่อสร้างไปแล้ว 70-80% มาขายให้แก่นักลงทุนและผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ที่สนใจจะเข้าไปพัฒนาโครงการ เพื่อนำไปขายต่อให้แก่ลูกค้ารายย่อยด้วย