Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2540








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2540
"วิกฤต 58 ไฟแนนซ์ กระทบเช่าซื้อจังเบอร์ ตลาดรถไทยมืดสนิท"             
โดย สันทิฏฐ์ สมานฉันท์ กุสุมา พิเสฏฐศลาศัย
 

 
Charts & Figures

มูลค่าสินเชื่อเช่าซื้อ

   
related stories

"โตโยต้ากับการตัดสินใจครั้งสำคัญ"

   
search resources

รุ่งโรจน์ จรัสวิจิตรกุล
Vehicle




ภายหลังการเปิดเสรีรถยนต์เมื่อกลางปี 2534 นอกจากจะส่งผลให้ตลาดรถยนต์ของไทยบูมอย่างสุดขีดแล้ว ธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสนับสนุนยอดขายรถ ก็ได้เติบโตอย่างรวดเร็วตามไปด้วย

มูลค่าพอร์ตเช่าซื้อของบริษัทไฟแนนซ์ขยายตัวจนเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของธุรกิจเช่าซื้อและลิสซิ่งเลยก็ว่าได้ ไฟแนนซ์หลายแห่งเพลินกับยอดปล่อยสินเชื่อ และผลกำไรมากจนกระทั่งลืมนึกคิดถึงปัจจัยสำคัญในเรื่องของความเสี่ยงกลยุทธ์ดาวน์น้อย ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนนาน ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายเพื่อกระตุ้นยอดขายของกันและกัน

ชั่วเวลาเพียง 5 ปีเศษ กลยุทธ์ที่ใช้อย่างไม่ระมัดระวังก็ย้อนกลับเข้ามาเล่นงานไฟแนนซ์เหล่านั้นเต็มเปายอดรถยึดคืนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

"กว่าจะยึดมาได้ก็อยู่ในสภาพที่สุดโทรม เพราะคนที่รู้ว่าอย่างไรก็ไม่มีเงินส่งแล้ว พวกนี้จะใช้รถกันแบบอุตลุดรถบางคันซื้อไปแค่ไม่กี่เดือน เหยียบไปแล้วหลายหมื่นกิโลพอจะเอามาขายต่อก็ขายยาก บางทีทิ้งไว้เฉย ๆ หลายเดือนซึ่งก็มีต้นทุนทางการเงินอีก ขายก็ไม่ได้ราคานัก" แหล่งข่าวในแวดวงเช่าซื้อรำพัน

เมื่อรถยึดมีมากขึ้นแล้วไม่สามารถขายออกไปได้ก็ส่งผลถึงสภาพคล่องของไฟแนนซ์ ดังที่เป็นข่าวเกรียวกราวในช่วงต้นปีถึงผลขาดทุนนับ 100 ล้านบาทในพอร์ตเช่าซื้อของบริษัทเงินทุนขนาดยักษ์อันดับ 1 ของไทยอย่าง บง. เอกธนกิจ

ภายหลังประกาศฟ้าผ่าของภาครัฐปิดไฟแนนซ์ 16 แห่งสังเวยสภาพเศรษฐกิจเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 3 ไฟแนนซ์ใหญ่ทางด้านสินเชื่อเช่าซื้อ ทั้ง บง. เอกธนกิจ บงล. ศรีมิตรและ บงล. จีเอฟ ติดกลุ่มนี้ด้วย

ระลอกแรกกระทบกับรถญี่ปุ่นอย่างจัง เพราะ 3 รายใหญ่ดังกล่าวเน้นปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ซื้อรถยนต์ญี่ปุ่นเป็นหลัก

ในส่วนของรถยุโรป ยังไม่กระทบมากนัก เพราะรายใหญ่ที่ปล่อยกู้ เช่น บงล. ทิสโก้ บมจ. สยามพาณิชย์ลิสซิ่ง บงล. ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย) ไม่ได้ติดอยู่ในกลุ่มดังกล่าว

อย่างไรก็ตามการประกาศปิดสถาบันการเงินครั้งนี้ทำให้บริษัทรถยนต์หลายค่ายเริ่มตระหนักว่า ถึงเวลาแล้วที่ควรจัดตั้งบริษัทลิสซิ่งของตัวเองอย่างครบวงจร ขณะที่ค่ายรถยนต์อีกหลายแห่งที่ตาไวก็จัดตั้งบริษัทลิสซิ่งไว้ล่วงหน้าก่อนมีปัญหาไปเรียบร้อยแล้ว

ทุกวันนี้ดีลเลอร์รถทุกค่ายต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า นอกจากรถจะขายยากเนื่องจากราคารถที่สูงขึ้นตามต้นทุนการนำเข้า การผลิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม ขณะที่ผู้คนกลับมีอำนาจซื้อลดลง ประกอบเงื่อนไขในการจัดไฟแนนซ์ที่เข้มงวดขึ้นยังกลายเป็นอุปสรรคสำคัญอีกประการหนึ่ง

รุ่งโรจน์ จรัสวิจิตรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและเครดิตเช่าซื้อ บงล. ทิสโก้ เปิดเผยว่า นโยบายการให้สินเชื่อเช่าซื้อของบริษัทในช่วงนี้จะค่อนข้างเข้มงวด โดยกำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำไว้ที่ 30% ระยะเวลาในการผ่อนชำระไม่เกิน 48 งวด นอกจากนี้ยังพิจารณาปัจจัยความเสี่ยงในเรื่องอื่น ๆ มากขึ้น เช่น อาชีพใดที่เสี่ยงต่อการตกงานสูง ก็ไม่รับ

"ทุกวันนี้เราดูเรื่องความเสี่ยงเป็นหลักยอดการปล่อยสินเชื่ออาจจะไม่ได้ตามเป้า วอลุ่มตกลงไปบ้างไม่เป็นไร ดีกว่าที่จะต้องยึดรถของลูกค้าซึ่งไม่คุ้มที่ผ่านมาเราไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้เพราะค่อนข้างเข้มงวด" รุ่งโรจน์กล่าว

อย่างไรก็ดีในเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูงประมาณ 11-12% ในขณะนี้นั้น สาเหตุมาจากปัญหาเรื่องสภาพคล่องและต้นทุนเงินที่ค่อนข้างสูง ซึ่งในประเด็นนี้ภายหลังจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เข้ามาช่วยเหลือ อาจจะทำให้สภาพคล่องดีขึ้น และส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยถูกลง

การเข้มงวดของบริษัทไฟแนนซ์ส่งผลให้ดีลเลอร์ทำตลาดยากเย็นขึ้นไปอีก "ลูกค้าบางรายมาซื้อรถ แต่เราไม่สามารถหาไฟแนนซ์ให้ได้ ก็จบ หรือเงื่อนไขสูง เดิมดาวน์กัน 20-25% ตอนนี้ก็ 30-50% ระยะเวลาในการผ่อนชำระแต่ก่อน 48 เดือน 60 เดือน เดี๋ยวนี้บางแห่งขอ 36 เดือน ดอกเบี้ยก็สูง 11-12% คนเขาก็ไม่อยากมาซื้อ" ดีลเลอร์รายหนึ่งกล่าว

นับเป็นโชคดีอย่างหนึ่งสำหรับค่ายรถที่มีบริษัทลิสซิ่งของตัวเอง เพราะจะช่วยผลักดันยอดขายของดีลเลอร์ต่อไปได้

การปรับกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมการขายครั้งนี้ ก็ทำให้ค่ายรถแต่ละค่ายต้องกุมขมับเหมือนกัน เนื่องจากธุรกิจลิสซิ่งนั้นจำเป็นต้องลงทุนสูง คืนทุนช้า ทั้งยังแบกรับภาระความเสี่ยงไว้เต็มเปา

"การที่ค่ายรถทำเช่าซื้อเอง จะมีความเสี่ยงสูงกว่าไฟแนนซ์ทั่วไปในแง่ที่ว่า ถ้าลูกค้ามาตรฐานต่ำไปนิดหนึ่งไฟแนนซ์ทั่วไปสามารถปฏิเสธได้ แต่ถ้าเป็นบริษัทลิสซิ่งของค่ายรถนั้น ๆ อาจจะต้องยอมรับไว้ก่อน เพราะถ้าไม่รับก็ขายรถไม่ได้ เสร็จแล้วตอนหลังต้องยึดรถลูกค้ามันก็ไม่คุ้มกัน" แหล่งข่างรายหนึ่งอธิบาย

นอกจากนี้เงื่อนไขต่าง ๆ เช่นเงินดาวน์ ระยะเวลาในการผ่อนชำระ และอัตราดอกเบี้ย ก็จำเป็นต้องผ่อนปรนลงมา เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่ลูกค้า ซึ่งจะส่งผลถึงการทำกำไรของบริษัทลิสซิ่งในเครือด้วย

อย่างไรก็ดี ค่ายรถจำนวนมากมีบริษัทลิสซิ่งในเครืออยู่แล้ว เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับบลิว ฟอร์ด โตโยต้า ขณะที่อีกหลายค่ายตัดสินใจจัดตั้งบริษัทลิสซิ่งขึ้นมาเอง และกำลังอยู่ระหว่างการจัดตั้ง นอกจากนั้นยังมีค่ายรถอีกหลายแห่งที่อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดและยังไม่มีนโยบาย (ดูตารางนโยบายจัดตั้งบริษัทลิสซิ่งประกอบ)

จากตัวเลขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ทำการรวบรวมมูลค่าสินเชื่อเช่าซื้อของไฟแนนซ์ 91 แห่งเป็นรายไตรมาสพบว่า ในปี 2537 มูลค่าสินเชื่อเช่าซื้อรวมเท่ากับ 328,337.3 ล้านบาท และมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 423,439 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตราการขยายตัว 28.96% ในปี 2538 และชะลอตัวลงในปี 2539 โดยขยายตัวเพิ่ม 20% เป็น 508,157.2 ล้านบาท

สำหรับไตรมาส 1 ปี 2540 ไฟแนนซ์ 91 แห่งได้มีการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อไปแล้วทั้งสิ้น 124,722.58 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนพบว่ามีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียง 2.23% เท่านั้น (ดูตารางมูลค่าเช่าซื้อประกอบ)

อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวจากไฟแนนซ์หลายรายมีความเห็นตรงกันว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้มูลค่าการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อโดยรวมน่าจะตกต่ำลงเมื่อเทียบกับปีก่อน อันเป็นผลมาจากการปิดไฟแนนซ์ 58 แห่ง ขณะที่ไฟแนนซ์อีก 33 แห่งที่เหลืออยู่ต่างก็เข้มงวดในการให้สินเชื่อเช่าซื้อมากขึ้น

เมื่อหัวใจหลักที่ส่งให้เกิดการจำหน่ายรถยนต์ต้องอับเฉาลง ตลาดรถยนต์เมืองไทยก็คงไม่ต่างจากต้นไม้ที่ไร้น้ำรดเพื่อหล่อเลี้ยงชีพ กิ่งก้านที่เคยงอกงามก็คงถึงคราวต้องเหี่ยวเฉา แต่จะถึงขนาดยืนตายซากหรือไม่ วันนี้ยังไม่มีใครกล้ากล่าวปฏิเสธสถานการณ์ดูเลวร้ายและน่ากลัวยิ่ง

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us