เห็นตัวเลขของบริษัท ลอจิก จำกัด ก็ทำให้ชุ่มชื่นหัวใจดี ในยุคที่ประชาชนต้องถือคติพจน์ท่องจำคำว่าประหยัดกันวันละหลายหน
โดยไม่มีบุญวาสนาที่จะประหยัดในสไตล์ซดไวน์แก้กลุ้มเหมือนผู้นำประเทศนี้
ลอจิกเป็นบริษัทในเครือ ซีดีจี กรุ๊ป เติบโตขึ้นมาจากการจำหน่ายเครื่องเวิร์กสเตชั่น
และเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์ ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาในขณะที่บริษัทต่าง
ๆ กำลังจะล้มหายตายจาก ลอจิกกลับทำยอดขายได้มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง
38%
คำว่าประหยัดหรือชะลองบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ อาจทำให้ลอจิกไม่สบายใจนักก็ได้
อย่างไรก็ดี ผ่านมาครึ่งปีแล้วบริษัทนี้ก็ยังดูดีมีเสถียรภาพ ดังจะเห็นได้จากตั้งเป้ารายได้ทั้งปีไว้ที่
700 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว 31% ครึ่งปีที่ผ่านมา มีรายได้ 288 ล้านบาท
ปีที่แล้วในช่วงเดียวกันอยู่ที่ 213 ล้านบาท ทว่านี่ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่น่าวางใจลองจับชีพจรดู
ก็จะพบว่า ทั้งลอจิกและซีดีจี ยังไม่มีปัญหาการเลิกจ้างเหมือนบริษัททั่วไป
มิหน้ำซ้ำยังช่วยอนุเคราะห์วงการไอทีโดยการรับนักข่าวเข้าไปทำงานหลายท่าน
การลดเงินเดือนพนักงานก็ยังไม่อยู่ในความคิดเพียงแต่ผู้บริหารเปรย ๆ ว่าอาจต้องมีการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านโฆษณาให้รัดกุม
เพียงแต่เปรย ๆ ไม่ถึงกับเป็นนโยบาย! หัวบันไดซีดีจีไม่เคยแห้งสำหรับเซลส์โฆษณา
ลอจิกยังเป็นตัวแทนจำหน่ายและผู้บริการให้คำปรึกษาซอฟต์แวร์ระบบฐานข้อมูลอินฟอร์มิกซ์,
มอส, ออราเคิล เอ็กเพรส, และโลตัส โน้ตส์ รวมทั้งให้บริการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตและอินทราเน็ต
นี่น่าจะเป็นจุดแข็งของทัพหน้าด้านตลาดเอกชนเช่น ลอจิก เพราะการขายเครื่องซันมายาวนานตั้งแต่ปี
2532 ก็แสดงว่า ลอจิกมีความเจนสนามในเรื่องเครือข่าย เครื่องซันมีมาร์เก็ตแชร์มากที่สุดในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตคือ
56% จึงยังยากที่ลอจิกประสบปัญหาได้ง่าย ๆ นับเป็นเงื่อนไขสองข้อที่พอสร้างความอุ่นใจให้ได้บ้างในครึ่งปีหลัง
ในการดำเนินธุรกิจเน็ตเวิร์กคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการขายอย่างเป็นระบบ ทั้งฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ระบบปฎิบัติการและฐานข้อมูล อุปกรณ์ต่าง ๆ สิ่งที่ชี้ขาดคือ 1)
ผลิตภัณฑ์ 2) ความชำนาญในการติดตั้งและวางระบบ 3) บริการซ่อมบำรุงและให้คำปรึกษา
4) ราคา 5) การเป็นระบบเปิดที่มีการรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม 6) การหาสินค้าใหม่ที่เป็นสุดยอดเทคโนโลยี
และ 7) ไม่ผูกติดตัวเองกับซัปพลายเออร์รายใดรายหนึ่งจนเกินไป
ตรวจทัพลอจิก ก็พออนุมานได้ว่า เข้ากฎเกณฑ์ต่าง ๆ ดังที่กล่าวมา
ลอจิกมีเครื่องซันซึ่งเป็นผู้นำหน้าในด้านนี้ ในเรื่องซอฟต์แวร์ก็มี ยูนิกซ์
ออราเคิล และโลตัส โน้ตส์ ซึ่งเป็นเจ้าตลาดทั้งสิ้น ส่วนความชำนาญในการวางระบบ
ก็จะเห็นได้ว่า ลอจิกทำธุรกิจประเภทนี้มายาวนาน มีทีมงานหลังการขายเป็นสัดส่วนประมาณ
70% ของพนักงาน ทั้งยังสามารถใช้ศูนย์บริการของซีดีจี กรุ๊ปที่กระจายอยู่ทั่วไปประเทศ
พูดกันอย่างตรงไปตรงมาและเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นติจิตอล อิควิปเมนท์, สหวิริยา,
ไอบีเอ็ม, เมโทรซิสเต็มส์ ก็ล้วนแต่เน้นว่า ตนมีความพร้อมในต้านให้คำปรึกษาและบริการทั้งสิ้น
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ซีดีจีในระดับผู้บริหารและพนักงานมีลักษณะที่เป็น Engineer
Base อย่างไม่น้อยหน้าใคร แม้ในยุคนี้ จะมีการกล่าวว่า มีนักขายดีกว่าพวกไฟแนนซ์
และมีนักขายดีกว่าวิศวกร แต่สำหรับธุรกิจคอมพิวเตอร์ ถ้าภาพลักษณ์บริษัทเป็นแค่นักการตลาด
ลูกค้าอาจไม่วางใจ ขายสินค้าไม่ได้เช่นเดียวกัน
ส่วนในเรื่องราคา ก็จะเห็นได้ว่า ลอจิกเตรียมรุกสู่การทำงานในระบบเครือข่าย
เช่น Client/Server (คอมพิวเตอร์ลูกข่าย/แม่ข่าย) ด้วยลูกข่ายที่เป็น Thin
Client ซึ่งก็คือเครื่อง NC ที่ใช้เทคโนโลยีจาวา ซึ่งมีราคาถูกกว่าเครื่องพีซี
และมีการรักษาความปลอดภัยได้ดีกว่าในการใช้งานเครือข่าย เช่น อินทราเน็ตและอินเตอร์เน็ต
Thin Client ไม่มีฮาร์ดดิสก์และฟล็อปปี้ดิกส์เพราะนำไปใส่ที่เซิร์ฟเวอร์
เพื่อให้ตัวลูกใช้ร่วมกันโปรแกรมต่าง ๆ ก็จะถูกเก็บไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด
การลดสเป็กเช่นนี้แม้ทำให้ NC มีความสามารถด้อยกว่า PC แต่ก็ราคาถูกกว่าสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ
อย่างไรก็ดี โดยทั่วไปแล้วการอาศัยโปรแกรมต่าง ๆ ที่ดึงจากเซิร์ฟเวอร์ ก็สามารถทำให้
NC ทำงานต่าง ๆ ที่ผู้ใช้ต้องการได้ไม่แพ้ PC แน่
Thin Client จึงเป็นสถาปัตยกรรมที่อาศัยจุดขายในเรื่องความประหยัด และความสอดคล้องกับเนื้องานที่เป็นจริง
และนี่คือลูกน้อยที่จะเคลื่อนทัพไปกับลอจิก
การเป็นผู้นำในเรื่องราคา มิได้แสดงออกในเรื่องฮาร์ดแวร์เท่านั้น แต่ยังแสดงออกโดยนำเสนอโซลูชั่น
"อินเตอร์เน็ต แบงกิ้ง" ซึ่งจะลดต้นทุนได้มากกว่าการที่ธนาคารต่าง
ๆ สร้างเครือข่ายเอง เพราะอินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่มีอยู่แล้ว
ปัญหาการปิด 58 ไฟแนนซ์ จะกระทบกระเทือนลอจิกอย่างมากหรือไม่ เพราะเป็นตลาดหนึ่งของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ไตรรัตน์ ใจสำราญ ผู้จัดการทั่วไปของลอจิกชี้แจงว่า อาจได้รับผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าในบางกลุ่มคือ
กลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์และบริษัทเงินทุน ทว่าเป็นเพียงตลาดส่วนน้อย เนื่องจากตลาดส่วนใหญ่ของลอจิกนั้นจะเป็นกลุ่มลูกค้าประเภทสถาบันการศึกษา
โทรคมนาคม อุตสาหกรรม ราชการ ซึ่งมีการขยายปริมาณมากขึ้นในตอนต้นปีนี้ รวมทั้งกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่เริ่มเล็งเห็นความสำคัญของการนำเทคโนโลยีเข้าไปปรับใช้กับการบริหารด้านการผลิต
"เมื่อก่อนในกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมจะยึดติดกับโปรแกรมประยุกต์ที่ใช้งานร่วมกับเครื่องยี่ห้ออื่น
ๆ ที่ไม่ใช่ซัน แต่ในปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ ได้พัฒนาโปรแกรมเพื่อรองรับการทำงานบนเครื่องซันมากขึ้น
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบราคากับประสิทธิภาพแล้วของเราจะดีกว่ามาก"
ภาวะการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงในปีนี้ รวมทั้งเศรษฐกิจตกต่ำ ลอจิกจึงปรับทิศการทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลังด้วยการเน้นให้บริการในลักษณะให้คำปรึกษาด้านวางระบบมากขึ้น
แทนที่จะจำหน่ายเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์แต่เพียงอย่างเดียวเป็นหลัก
คอยดูกันต่อไปว่า ยามนี้ ลอจิกจะยังคงเป็นโลคัลฮีโร่ ผู้ยังคงฟันรายได้งดงามหรือไม่
แม้จะยังมีความมั่นใจ แต่อาการหวั่นใจอยู่บ้าง ใช่ว่าจะไม่มีเลย