|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บล.นครหลวงไทย เตรียมยื่นเรื่องต่อก.ล.ต.ขอใบอนุญาตทำเครดิต บาลานซ์ คาดเปิดให้บริการได้ไตรมาส 2/49 ระบุเป้าหมายเบื้องต้น 250 ล้านก่อนสิ้นปีแตะ 500 ล้าน พร้อมลุยงานด้านวิเคราะห์หวังขึ้นที่ 1 ใน 2 ปี ขณะที่ด้านงานวานิชฯมีในมือแล้ว 7 บริษัท กลุ่ม"โบรกเกอร์-อสังหาฯ-พลังงาน"
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด หรือ SCIBS กล่าวถึงแผนการขยายการดำเนินธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ของบริษัทว่า บริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนทีมงานเพื่อรองรับการเปิดเสรีค่าคอมมิสชั่นซึ่งจะต้องเกิดขึ้นในอนาคต โดยบริษัทยังเชื่อธุรกิจหลักจะยังเป็นเรื่องนายหน้าซื้อค้าหลักทรัพย์
ทั้งนี้ บริษัทเร่งพัฒนาทั้งในด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บทวิจัยในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน โดยมีการดึงทีมงานด้านวิเคราะห์ที่นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นเข้ามาร่วมงาน รวมถึงการเร่งสร้างทีมเจ้าหน้าที่การตลาด หรือ มาร์เกตติ้ง ที่มีคุณภาพในการให้คำแนะนำในการลงทุน
"เราจะทำให้บทวิเคราะห์ วิจัยของเราเป็นที่หนึ่งใน 2 ปี เราได้รับสิ่งดีๆจากทีมงานที่มีความสามารถและมีสิ่งที่เราต้องการให้มีเพื่อเพิ่มประโยชน์และคุณภาพของเราในงานวิเคราะห์ด้วย"นายระเฑียรกล่าว
สำหรับธุรกรรมในเรื่องอื่นๆ ภายในเดือนก.พ.นี้บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เพื่อขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ (เครดิต บาลานซ์) เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีฐานเงินทุนหมุนเวียนสูงถึง 2,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีการแบ่งเพื่อลงทุนในหุ้นประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งที่เหลือบริษัทคิดว่าน่าจะนำมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัท ทั้งในเรื่องผลตอบแทนและยังช่วยเพื่อมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของบริษัท โดยคาดว่าธุรกรรมดังกล่าจะเริ่มเปิดให้ใช้บริการในช่วงไตรมาส 2/49 ซึ่งวงเงินเบื้องต้นอยู่ที่ 250 ล้านบาท และคาดว่าภายในปีนี้ธุรกรรมดังกล่าวจะสูงถึง 500 ล้านบาท
นายสาธิต วรรณศิลปิน รองกรรมการผู้จัดการ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาด หรือ มาร์เกตแชร์ ในส่วนงานนายหน้าค้าหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก 0.5% เป็นมากกว่า 1% ในปีนี้ และมีจำนวนบัญชีลูกค้าเพิ่มขึ้นจาก 3,000 บัญชี เป็น 6,000 บัญชีซึ่งจะเป็นบัญชีที่มีการซื้อขายต่อเนื่องประมาณ 60% พร้อมเน้นการขยายกลุ่มนักลงทุนในสถาบันให้มากขึ้นและคาดว่าการปรับขึ้นอย่างมีนัยะจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังปี 49
ทั้งนี้ บริษัทมีการปรับทัมนักวิเคราะห์โดยตั้งเป้าจะก้าวเป็นที่หนึ่งในเรื่องบทวิเคราะห์ใน 2 ปี โดยจะเน้นการออกบทวิเคราะห์ทั้งในบริษัทขนาดกลางและบริษัทขนาดเล็ก รวมถึงบทวิเคราะห์บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เพื่อตอบสนองสิ่งที่นักลงทุนไทยซึ่งเป็นนักลงทุนรายย่อยต้องการ
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเปิดให้บริการระบบซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเตอร์เน็ต เพื่อเป็นส่วนช่วยเพิ่มจำนวนนักลงทุนและมูลค่าการซื้อขายหลังจากที่มีการเปิดเสรีค่าคอมมิสชั่น เนื่องจากค่าธรรมเนียมในเรื่องดังกล่าวต่ำกว่าการซื้อขายปกติ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาเพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าวประมาณ 3 เดือนจึงพร้อมเปิดให้บริการ
สำหรับสัดส่วนของรายได้จากเมื่อปี 48 มาจากนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ประมาณ 40% ด้านวาณิชธนกิจประมาณ 30% และบริหารการลงทุนประมาณ 30% ขณะที่ในปี 49 บริษัทคาดว่ารายได้จะมีจากจากนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ประมาณ 50% ด้านวาณิชธนกิจประมาณ 25% และบริหารการลงทุนประมาณ 25%
นางโสภา นนทนานันท์ กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานทางด้านเป็นที่ปรึกษาทางการเงินบริษัทเพื่อเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 7 บริษัท โดยเป็นกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน ซึ่งทั้งหมดจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นที่ปรึกษาของพันธบัตรน้ำมันซึ่งมีการขายล็อตแรกไปแล้ว แต่จะมีการขายในล็อตที่สองอีกครั้ง และยังรวมไปถึงเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระให้กับบริษัทแนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน)
"เราหวังว่าบริษัทที่เราเป็นที่ปรึกษาฯจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ในปีนี้ทั้งหมด ซึ่งนอกเหนืองานที่ปรึกษาฯเรายังมีงานควบรวมกิจการอยู่บ้าง"นางโสภากล่าว
|
|
|
|
|