เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ ประกาศจ่ายเงินปันผลเพิ่มอีกหุ้นละ 20 สตางค์ พร้อมเพิ่มทุนอีก 2.50 ล้านบาท ขายให้บริษัท ฟงซาน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ขณะที่ผลงานปี 2548 กำไรสุทธิ 122.15 ล้านบาท

นายสามิตต์ ผลิตกรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNC กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 2/2549 มีมติรับรองงบดุลและงบบัญชีกำไรขาดทุนประจำปี 2548 และเสนอให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาจ่ายเงินปันผลงวดสิ้นปี ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 40 ล้านบาท เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายไปแล้วทำให้เงินปันผลรวมทั้งปีอยู่ที่หุ้นละ 0.40 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 26 เมษายน 2549

พร้อมกันนี้ ยังได้อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวนไม่เกิน 2.50 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด คือ บริษัท ฟงซาน คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยมอบหมายให้กรรมการบริหารเป็นผู้กำหนดรายละเอียดและเงื่อนไขการเสนอขาย และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

หลังจากการเพิ่มทุนทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทเพิ่มจาก 200 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 200 ล้านหุ้นเป็น 202.50 ล้านบาท หุ้นสามัญจำนวน 202.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 12/2549 เพื่อพิจารณาวาระต่างๆ ดังกล่าวในวันที่ 5 เมษายน และกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิของผู้ถือหุ้นในการเข้าประชุม และรับเงินปันผลตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2549 เป็นต้นไปจนกว่าการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นจะเสร็จสิ้น

นอกจากที่ คณะกรรมการจะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องการลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงินของนายสุขุม โพธิสวัสดิ์ เนื่องจากมีภารกิจเพิ่มมากขึ้น แต่จะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบัญชีและการเงิน เนื่องจากคุณสุขุม เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ในการทำงานมานาน และแต่งตั้งให้นายรัฐภูมิ นันทปถวี เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งดังกล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 นั้น บริษัทมีกำไรสุทธิ 122.15 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.61 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 78.56 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.51 บาท โดยบริษัทมีรายได้จากการขาย 1,277 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 53% เป็นการรายได้จากการขายชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศในยานพาหนะ เพิ่มขึ้น 55% รายได้จากการขายชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศภายในอาคารเพิ่มขึ้น 57%

ขณะที่ค่าใช้จ่าย ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 59% เกิดจากรายได้จากการขายโดยรวมที่เพิ่มขึ้น และวัตถุดิบ คือ ทองแดงและอลูมิเนียม มีราคาสูงกว่าปีก่อน บวกกับค่าใช้จ่ายจากการลงทุนที่บริษัทเอส เอ็น ซี ไพยองซาน อีโวลูชั่น จำกัด ที่เกิดขึ้นแล้วในปี 2548 ซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้ในปี 2549 ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพียง 25% เนื่องจากค่าใช้จ่ายขายและบริหารส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายคงที่