|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
คิวเฮ้าส์เปิดประมูลอาคารคิวเฮ้าส์ลุมพินีรอบใหม่ หวังตั้งเป็นพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ครั้งที่สอง พร้อมดันราคาขายขยับขึ้นไปอีกเป็น 5,000 ล้านบาท จาก 4,400 ล้านบาท หลังต้นทุนเพิ่ม ผู้บริหารมั่นใจ รอบนี้กองทุนไม่ล้มแน่นอน เหตุนักลงทุนต่างชาติสนใจร่วมจัดตั้งกองทุนกับบลจ.แล้ว 4-5 ราย
นายรัตน์ พานิชพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ คิวเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่อาคารคิวเฮ้าส์ลุมพินีสร้างเสร็จในช่วงกลางปีนี้ บริษัทจะเปิดให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ที่สนใจทุกแห่งยื่นข้อเสนอซื้ออาคารดังกล่าวเข้ามาอีกครั้งเพื่อนำไปจัดตั้งเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) หลังจากที่ก่อนหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการจัดตั้งได้สำเร็จ
สำหรับการเปิดประมูลในครั้งนี้บริษัทจะปรับราคาของอาคารเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย โดยอาจปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 5 พันล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ระดับ 4.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นราคาประมูลครั้งแรก เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับปรุงโครงสร้างวัสดุภายในอาคารใหม่ ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นหลายล้านบาท ประกอบกับอาคารดังกล่าวตั้งอยู่ในทำเลที่ดีด้วย
"แม้การจัดตั้งกองทุนครั้งแรกจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่มั่นใจว่าการจัดตั้งครั้งที่สองจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากอาคารดังกล่าวอยู่ในทำเลที่ดี อย่างไรก็ดีการจัดตั้งกองทุนครั้งที่สองเราคงต้องเปิดประมูลกันใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้กับรายอื่นที่สนใจด้วย และเท่าที่ทราบขณะนี้มีนักลงทุนต่างชาติประมาณ 4-5 รายที่สนใจเข้ามาร่วมมือกับบลจ.ในการจัดตั้งกองทุนนี้ด้วย"นายรัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังการจัดตั้งกองทุนบริษัทจะเข้าไปถือหน่วยลงทุนในกองทุนดังกล่าว 30% ส่วนเงินที่ได้จากการขายอาคารดังกล่าวบริษัทจะนำไปลงทุนเพิ่มในโครงการใหม่ที่จะก่อสร้างเป็นเซอร์วิสอพาร์ทเม้น หรือคอนโดมีเนี่ยม บริเวณถนนหลังสวน ซึ่งมีมูลค่าโครงการประมาณ 1.5 พันล้านบาท รวมทั้งก่อสร้างโครงการใหม่บริเวณถนนสุขุมวิท
นอกจากนี้ หากการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวประสบความสำเร็จบริษัทจะนำทรัพย์สินประเภทอื่นๆที่มีอยู่มาจัดตั้งเป็นพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ด้วย สำหรับอาคารคิวเฮ้าส์ลุมพินีมีพื้นที่ให้เช่ารวม 6 หมื่นตารางเมตร โดยขณะนี้มียอดจองเช่าพื้นที่แล้วประมาณ 50% และคาดว่ากลางปีนี้ยอดเช่าพื้นที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 90%
นายรัตน์ กล่าวว่า แม้บริษัทจะเปิดให้ บลจ.รายใหม่เข้ามาร่วมประมูลในการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์รอบนี้ แต่เงื่อนไขทุกอย่างยังคงเดิม คือ ต้องให้บริษัทเช่าพื้นที่บางส่วนของอาคารสำนักงานคิวเฮ้าส์ ลุมพินี เป็นระยะเวลาการเช่าไม่เกิน 12 ปี และมอบหมายให้บริษัทหรือบริษัทย่อยอื่นของบริษัทเป็นผู้บริหารอาคารสำนักงานดังกล่าวตลอดระยะเวลาที่บริษัทเช่าอยู่
ก่อนหน้านี้ทาง คิวเฮ้าส์ แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า รูปแบบของการขายอาคารดังกล่าวจะเป็นการโอนขายอาคารสำนักงานคิวเฮ้าส์ ลุมพินี พร้อมส่วนควบและวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสิทธิการเช่า และมอบหมายให้คณะกรรมการหรือ กรรมการผู้จัดการเป็นผู้มีดุลยพินิจในการพิจารณากำหนดเงื่อนไข และรายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขายโครงการดังกล่าว รวมถึงรูปแบบการขายโครงการ ตลอดจนให้เป็นผู้มีอำนาจในการเจรจาและการตกลงเข้าทำเอกสารสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับอาคารคิวเฮ้าส์ลุมพินี ก่อนหน้านี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด ได้เข้าไปประมูลเพื่อจัดตั้งเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แล้ว โดยใช้ชื่อกองทุนว่า กองทุนรวมคิวเอชพร็อพเพอร์ตี้ (QHCP) ซึ่งภายหลังจากเปิดขายหน่วยลงทุนไปแล้วในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ไม่สามารถระดมทุนได้ตามเกณฑ์การจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนในช่วงปลายปี จึงทำให้ไม่สามารถจัดตั้งกองทุนได้
ด้านนายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขนาดไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท ขายให้ประชาชนทั่วไปและสถาบันภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะตั้งเป็นกองทุนใหม่หรือเพิ่มขนาดกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทที่มีอยู่แล้ว คือกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) โดยจะให้ บลจ.ทหารไทยเป็นผู้บริหารและขาย
สำหรับกองทุนใหม่จะมีสินทรัพย์สำคัญคืออาคารเซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัลปิ่นเกล้า โดยบริษัทจะนำเงินที่ระดมทุนได้ไปก่อสร้างโครงการเซ็นทรัล พลาซา แจ้งวัฒนะ และศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา พัทยา บีช มูลค่ารวม 8,500 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 2 นี้ และเปิดบริการได้เมษายน 2551
|
|
|
|
|