Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2540








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2540
"แทคฮอยเออร์ตอกย้ำนาฬิกาเพื่อกีฬาทุ่มงบโฆษณา-สปอนเซอร์กว่า 2 พันล้านบาท"             
 


   
search resources

แทคฮอยเออร์
Guillaume Brochard




ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาแทคฮอยเออร์ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดนาฬิกาเพื่อการกีฬา พร้อมทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ในการเป็นสปอนเซอร์จัดแข่งขันรถสูตร 1 (Formular 1) โดยแทคฮอยเออร์เป็นนาฬิกาที่ใช้ในการจับเวลาการแข่งขันครั้งนี้ด้วย

Guillaume Brochard ผู้จัดการฝ่ายการตลาดภูมิภาคเอเชีย ของแทคฮอยเออร์ เปิดเผยว่า งบโฆษณาของบริษัทแทคฮอยเออร์ทั่วโลกนั้นมีไม่น้อยกว่า 50 ล้านสวิสฟรังค์หรือประมาณ 1,000 ล้านบาทเศษ นอกจากนี้ยังมีงบประชาสัมพันธ์และสปอนเซอริ่งอีก 1,000 ล้านบาท

การโฆษณาของแทคฮอยเออร์ส่วนใหญ่จะเน้นโฆษณาที่ตัวของบริษัทมากกว่า โดยใช้แคมเปญว่า "Success a smile game" หรือ "ประสานจินตภาพเพื่อความสำเร็จ" ซึ่งจะใช้เหมือนกันทั่วโลก

อย่างไรก็ตามขณะนี้บริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ด้านการโฆษณาใหม่โดยเน้นที่ตัวสินค้ามากขึ้นเป็น 30% และโฆษณาตัวบริษัทแบบเดิมอีก 70% ทั้งนี้เนื่องจากได้มีการทำวิจัยในหลายประเทศแล้วพบว่า มีคนเห็นโฆษณาของแทคฮอยเออร์มาก แต่นาฬิการุ่นใหม่ ๆ บางรุ่นคนกลับไม่เคยเห็น

การทุ่มงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์นี้ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญที่สุดของเแทคฯ โดยเฉพาะการเป็นสปอนเซอร์จัดแข่งขันกีฬา 3 ประเภทคือ สกี เรือใบ และการแข่งขันรถสูตร 1 ทั้งนี้เนื่องจากแทคฮอยเออร์เป็นนาฬิกาเพื่อการกีฬาที่หรูหรา ราคาแพง ภาพลักษณ์ของนาฬิกาและแบรนด์เนมจัดเป็นสิ่งสำคัญมาก

"เราป้องกันคู่แข่งด้วยการเน้นสปอนเซอร์ทางด้านกีฬาเป็นอย่างมาก เพื่อรักษาความเป็นผู้นำสำหรับนาฬิกาเพื่อการกีฬาไว้ เพราะตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นของเรา แทคฮอยเออร์เป็นนาฬิกาเพื่อการกีฬา 100% ขณะที่ยี่ห้ออื่นอาจจะพยายามเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดตรงนี้บ้าง เช่นเขาอาจจะมีนาฬิกาหลาย ๆ ประเภท โดยมีนาฬิกาเพื่อการกีฬาประมาณ 20-30% ดังนั้นคู่แข่งอื่น ๆ จึงจำเป็นต้องมีงบโฆษณาด้านอื่น ๆ ด้วย ขณะที่แทคฮอยเออร์สามารถทุ่มงบทั้งหมดลงมาที่การกีฬาได้" โบชาร์ด อธิบาย

แทคฮอยเออร์พยายามตอกย้ำในเรื่องนี้มาติดต่อกัน 5 ปีแล้ว และยังคงเน้นที่จุดเดิมนี้อยู่ เนื่องจากเล็งเห็นว่านาฬิกาประเภทแฟชั่นนั้น ขึ้นเร็วตกเร็ว ไม่แน่นอน ทำให้มีความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจสูง แต่หากมีจุดเด่นที่ชัดเจนและดำเนินกลยุทธ์อย่างถูกต้อง ทุกวันนี้เมื่อคนนึกถึงนาฬิกาประเภทกีฬาจะต้องนึกถึงแทคฮอยเออร์

ในปีที่ผ่านมาแทคฮอยเออร์มียอดขายทั่วโลกทั้งสิ้น 425 ล้านสวิสฟรังค์หรือประมาณ 9 พันกว่าล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมียอดขายในภูมิภาคเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น เกาหลีและจีนแล้ว ประมาณ 25% จากยอดขายทั่วโลกโดย แบ่งเป็นยอดขายจากประเทศไทย 5% สิงคโปร์ 5% และฮ่องกง 5% ส่วนที่เหลืออีก 10% คือประเทศอื่น ๆ รวมกัน

"ไทยมียอดขายเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาคคือประมาณ 20% เศษ ตามมาด้วยมาเลเซีย 10% สิงคโปร์ 10% ไต้หวัน 10% ส่วนฮ่องกงตลาดไม่ค่อยเติบโตนัก แต่คาดว่าครึ่งปีหลังจะดีขึ้น" โบชาร์ดกล่าว

ทั้งนี้สมชัย ตัณมานะศิริ ประธานบริษัท เอ.ซี.ไอ (ไทยแลนด์) จำกัด ตัวแทนนำเข้านาฬิกาแทคฮอยเออร์ เปิดเผยว่า แม้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจไทยซบเซาเช่นนี้ แต่ยอดขายของแทคฮอยเออร์ก็ยังไม่ตกลงเลยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และคาดว่าสามารถรักษาอัตราการเติบโตที่ประมาณ 20% ไว้ได้ หากว่าสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังเป็นไปตามที่คาดเอาไว้

อย่างไรก็ตาม จากการที่ประเทศไทยมีนโยบายลอยตัวค่าเงินบาทออกมา ทำให้ต้นทุนสินค้านำเข้าแพงขึ้นประมาณ 20% ประกอบกับมีนโยบายที่จะเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 10% อีก สิ่งเหล่านี้ทำให้บริษัทต้องพยายามตรึงราคาเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้

"เรากำลังเจรจากับทางบริษัทแม่อยู่ โดยจะขอให้เขาช่วยเหลือเช่นลดราคาสินค้าลงบางส่วน เพื่อช่วยในเรื่องต้นทุนของเรา นอกจากนี้ก็จะนำเงินกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงต้นปีมาชดเชยกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพื่อที่จะตรึงราคาเอาไว้ให้ได้ถึงสิ้นปีเพราะไม่อยากเสียฐานลูกค้า แต่หากรับภาระไม่ไหวจริง ๆ ก็อาจจะมีการปรับราคาบ้างประมาณ 10-15% เพื่อให้อยู่ได้" สมชัยกล่าว

ปกติบริษัทจะมีสต็อกสินค้าไว้ประมาณ 3 เดือน ซึ่งขณะนี้ก็ได้ยืนราคาเดิมมา 1 เดือนเศษแล้ว สมชัยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้คงจะตรึงราคาอยู่ได้ เนื่องจากได้เจรจากับทางบริษัทแม่ไปบ้างแล้ว และทางบริษัทแม่เข้าใจดี

สำหรับแนวโน้มตลาดนาฬิการะดับบนของเมืองไทยในขณะนี้ เชื่อว่าตลาดยังมีความต้องการซื้ออยู่ เพียงแต่ต้องกระตุ้นมากขึ้น แผนการด้านการตลาดเช่นการปรับปรุงจุดขายของดีลเลอร์ทั่วประเทศก็ยังคงมีต่อไป

"ขณะนี้เรายังไม่มีการชะลอแผนใด ๆ ทั้งสิ้น อาจจะมีการลดงบประมาณการโฆษณาลงมาบ้างให้เหลือสัก 20-30% คือโฆษณาเพื่อให้รู้ว่าแทคฮอยเออร์ยังอยู่นะ เชื่อว่านาฬิกายี่ห้ออื่น ๆ ก็คงไม่โหมโฆษณามากมายเหมือนช่วงที่เศรษฐกิจดีเช่นกัน" สมชัยกล่าว

ปัจจุบันบริษัทมีดีลเลอร์ทั่วประเทศประมาณ 100 ราย แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 50 รายและต่างจังหวัดอีก 50 ราย ขณะนี้ยังไม่มีแผนในการเพิ่มดีลเลอร์เนื่องจากเกรงว่าจะมีการขายตัดราคากันในหมู่ดีลเลอร์

อย่างไรก็ดีสมชัยมีแผนที่จะจัดตั้งสาขาของบริษัทเองให้มากขึ้น โดยปัจจุบันมีอยู่ 3 สาขาคือที่ตึกอัมรินทร์ทาวเวอร์ สีลมคอมเพล็กซ์ และสยามเซ็นเตอร์ ส่วนที่เสรีเซ็นเตอร์นั้นเพิ่งยกเลิกไปเพราะไม่คุ้มกับการลงทุน ขณะนี้กำลังมองหาทำเลใหม่โดยแต่ละสาขาจะลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 3-4 ล้านบาทไม่รวมค่าสต็อกสินค้า

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us