|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ดูเหมือน "ไดเนอร์สคลับ" ตื่นจากผวังค์ได้ไม่นานกับการก้าวเข้ามาเล่นในตลาดบัตรเครดิตที่จ้องเจาะไปในฐานลูกค้าระดับกลาง หลังจาก 37 ปีที่ผ่านมา บริษัทแห่งนี้ มุ่งแต่จะเจาะฐานลูกค้าระดับสูงด้วยหวังสร้าง แบรนด์ของบัตรให้เหมาะสมกับฐานลูกค้าตนที่หรูหราฟูฟ่าและไฮโซ แต่ด้วยกระแสการแข่งขันในธุรกิจบัตรเครดิตที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น การคิดแบบเดิมทำให้ไดเนอร์สคลับตระหนักได้ว่า อาจวิ่งไม่ทันแรงกระแสสังคมด้วยเหตุนี้เองทำไดเนอร์สคลับต้องยอมก้มหัวเหลี่ยวมองตลาดบัตรเครดิตสำหรับรุ่นใหม่ในกลุ่มรายได้ปานกลาง
"เริ่มต้นแต่เดิมทีนั้น ไดเนอร์สคลับ มีเฉพาะบัตรทำเฉพาะบัตรชาร์จการ์ดเป็นบัตรที่ต้องชำระจ่ายเงินคืนแบบ เต็มจำนวน ดังนั้นฐานลูกค้าในส่วนนี้จึงเป็นผู้มีรายได้สูง ค่อนข้างมีอายุ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้บริหารระดับสูง ทำให้เรื่องการชำระหนี้ไม่มีปัญหา แม้ในยามวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมา เราแทบไม่ได้รับผลกระทบจากฐานลูกค้าในบัตรชาร์จการ์ดเลย"ยืนยง เคน ทรงศิริเดช ผู้จัดการทั่วไป ไดเนอร์สคลับ (ประเทศไทย) เล่าให้ฟัง
ยืนยง เล่าอีกว่า กลุ่มลูกค้าที่ใช้บัตรชาร์จการ์ด เวลารูดบัตรแต่ละครั้งจะใช้จ่ายในวงเงินที่สูง แต่ถ้าพูดถึงความถี่ในการใช้บัตรถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับบัตรเครดิตในกลุ่มลูกค้าระดับกลางที่บริษัทได้เริ่มรุกมากขึ้นในปีนี้
ไดเนอร์สคลับ ได้เริ่มออกบัตรเครดิต โดยเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายไปเน้นที่คนรุ่นใหม่ฐานรายได้ระดับกลาง หรือกลุ่มผู้บริหารในวัยหนุ่มสาว โดย ยืนยง อ้างเหตุผลให้ฟังว่าที่ต้องเปลี่ยนเป้าหมายเพื่อให้เป็นไปตามกระแสที่ตอนนี้บัตรเครดิตกำลังบูมสุด ๆ
แนวทางธุรกิจบัตรเครดิตค่อนข้างสดใส แม้แบงก์ชาติจะออกมากำหนดกฎเกณฑ์เข้มงวดแล้วก็ตาม ช่องทางก็ยังมีอยู่เยอะเพราะปัจจุบันก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าบัตรเครดิตนั้นไม่ได้ถือกันหนึ่งใบต่อคน
ยืนยง บอกว่า การที่เพิ่งก้าวเข้ามาในนานในบัตรเครดิตให้ลูกค้าแบบผ่อนชำระหนี้ได้ เป็นจังหวะที่เหมาะสมในยามที่หลายฝ่ายเริ่มกังวลกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ เพราะบัตรที่สามารถผ่อนชำระได้ทำให้ลูกค้าต้องรู้จักบริหารจัดการเงินให้ดี
"บัตรเครดิตที่เราเปิดตัวนั้นเหมาะกับผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการความคล่องตัวด้านการเงิน เพราะแบ่งชำระขั้นต่ำ 10% และดอกเบี้ยคิด 18%ไม่แตกต่างจากที่อื่น"
ซึ่งจะว่าไปก็เหมือนลูกค้าให้มีอากาศหายใจคล่องคอไปกับการหมุนเงินในการผ่อนชำระหนี้
อีกประการที่สำคัญลูกค้ากลุ่มนี้ต่างจากสมาชิกบัตรชาร์จการ์ดตรงที่ความถี่ในการรูดบัตรที่ใช้บ่อยครั้งกว่า ถึงแม้วงเงินที่รูดแต่ละครั้งไม่ถึงกับทุ่มทุนเท่ากลุ่มชาร์จการ์ดก็ตาม
ยืนยง เล่าว่า ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ที่บริษัทเพิ่มเริ่มเริ่มออกบัตรเครดิตประเภทนี้มา ในเวลาดังกล่าวจะเน้นไปที่การสร้างความรู้จักในตัวสินค้าก่อน เพราะเป็นสิ่งที่ ไดเนอร์สคลับ ต้องสื่อให้รู้เป็นอันดับแรกว่าต่อไปนี้ไม่ได้มีแค่ชาร์จการ์ดเท่านั้น แต่ในปี 49 จะเน้นถึงการประชาสัมพันธ์สร้างแบรนด์บริษัทให้เป็นที่รูจักในวงกว้างมากขึ้นโดยผ่านสื่อประเภทต่าง ๆ
พร้อมยังเล่าถึงจุดแข็งที่ถือว่าเป็นความได้เปรียบคู่แข่งและเป็นแคมเปญมอบให้ที่ตรงใจกลุ่มลูกค้า เพราะบัตรเครดิตไดเนอร์สคลับมีจุดเด่นในสิทธิประโยชน์ในด้านการเดินทาง และการผักผ่อน อย่างบริการรถเช่า บริการด้านสายการบินทั่วประเทศ เป็นต้น และเมื่อยอดจ่ายเฉลี่ยอย่าต่ำเกิน 10,000บาทต่อเดือนตลอดปี จะได้รับส่วนลดสูงสุดถึง50% จากร้านอาหรชั้นนำ สปา โรงแรม หรือแม้แต่การตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาล
ด้วยจุดแข็งและการเข้าสู่เกมที่รุกมากขึ้นทำให้ไดเนอร์สคลับ คาดว่าอย่างน้อยสิ้นไตรมาสแรกปีนี้จำนวนบัตรเครดิตไดเนอร์สคลับ ก็น่าจะเหยียบตัวเลข 30,000 ใบ ซึ่งเป็นการโตแบบเท่าตัวในขณะที่ปัจจุบันมีอยู่ 20,000 ใบ
สำหรับในปีนี้เอง ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบ 38 ปี ในการเข้ามาตั้งถิ่นฐานของไดเนอร์สคลับ ในประเทศไทย บริษัทหวังกระตุ้นยอดขายด้วยการส่งแคมเปญประเดิมต้นปี ชวนสมาชิกบัตรไดเนอร์สคลับ และบัตรเครดิต ไดเนอร์สคลับ 38 คนแรกของแต่ละสัปดาห์ ลุ้นโชค 3 ชั้น เพียงตรวจดูรหัสอัตโนมัติบนเซลล์สลิป ลงท้ายด้วยเลข 38 รับช็อปฟรีสูงสุด 10,000 บาทต่อเซลล์สลิป ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เมษายน 2549 รวมมูลค่า 6 ล้านบาท
ไดเนอร์สคลับ เข้ามาตั้งหลักปักฐานในไทยเป็นปีที่ 38 แล้ว แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยเห็นกิจกรรมของบริษัทแห่งนี้สร้างความตื่นเต้นหวือหวาได้เท่าใดนัก จะว่าไปก็คงเพราะความทะนงในตนที่ไม่จำเป็นต้องง้อใครเพราะที่ผ่านมาเน้นแต่กลุ่มลูกค้ามีอันจะกิน
แต่ในกระแสลมกรรโฉกในเกมการแข่งขันของธุรกิจบัตรเครดิตนี่เองที่ทำให้ไดเนอร์สคลับ ต้องตื่นจากฝัน พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่และปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่คู่แข่งเดินนำหน้าไปหลายขุมแล้ว แต่กระนั้นก็ตาม ไดเนอร์สคลับ ก็พร้อมสู้แม้จะต้องตากแดดอาบเหงื่อเพียงใดก็ตาม
|
|
|
|
|