|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นกแอร์ ร่วมโค้ดแชร์การบินไทย ประเดิมเส้นทาง กรุงเทพเชียงใหม่ หวังเพิ่มศักยภาพด้านการให้บริการผู้โดยสาร เผยเป็นโครงการนำร่องก่อน ขยายเป็นเส้นทางอื่นๆ “พาที” ยอมรับ เป็นการเริ่มเดินตามรอยนโยบายแบ่งเส้นทาง โดยการบินไทยต้องดำเนินธุรกิจที่มีกำไรเท่านั้น หากเส้นทางบินไหนไม่คุ้มส่งนกแอร์เสียบแทน ด้านผลประกอบการปี 48 กำไร 80 ล้าน ประกาศกลางปีนี้ถึงจุดคุ้มทุน พร้อมวางเป้าเติบโต 20%
นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับการบินไทย เพื่อให้บริการเที่ยวบินร่วม(โค้ดแชร์)ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โดยผู้โดยสารของนกแอร์จะสามารถใช้บริการที่นั่งของสายการบินไทยได้ 10 ที่ ต่อไฟล์ท ในเส้นทางดังกล่าว โดย การบินไทยจะบินอยู่ 10 ไฟล์ทต่อวัน ขณะที่นกแอร์บิน 4 ไฟล์ทต่อวัน ดังนั้นเมื่อร่วมมือกันตรงนี้ จะทำให้นกแอร์ สามารถให้บริการผู้โดยสารในเส้นทางนี้ได้ถึง 14 ไฟล์ทต่อวัน ถือเป็นบริการที่เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าของนกแอร์ และจะถือเป็นเส้นทางนำร่อง โดยใช้เวลา 3 เดือนเพื่อประเมินผลลัพธ์ ก่อนขยายไปในเส้นทางอื่นๆในประเทศไทย ที่การบินไทยและนกแอร์มีเส้นทางบิน
“ยอมรับว่า นี่คือแนวทางหนึ่งของนโยบายระหว่างการบินไทยกับนกแอร์ที่จะทำร่วมกัน โดยการบินไทยเป็นบริษัท มหาชน ซึ่งจะต้องทำธุรกิจให้มีผลกำไร ส่วนนกแอร์ มีความคล่องตัวสูง และมีการบริหารจัดการที่คุมต้นทุนได้ดี ดังนั้นหากเส้นทางไหนที่แข่งขันสูง หรือการบินไทยขาดทุน ก็เป็นไปได้ที่นกแอร์จะเข้าไปบินแทน เพราะในส่วนของบริการลูกค้าเรามั่นใจว่าลูกค้ามีความพอใจ วันนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินงานตามแผน ส่วนในเส้นทาง เชียงใหม่ –แม่ฮ่องสอน ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาข้อสรุปคาดว่าจะเสร็จเร็วๆนี้ ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่านกแอร์จะบินในเส้นทางนี้หรือไม่”
ปี 48’กำไร80ล้านบาท
ทั้งนี้ผลประกอบการปี 2548 บริษัทมีกำไร 80 ล้านบาท มีอัตราผู้โดยสารเฉลี่ย 86% โดยนกแอร์ขนส่งผู้โดยสารทั้งปีรวม กว่า 2 ล้านคน สำหรับปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% และมีผลกำไรเติบโต 20% โดยอัตราผู้โดยสารเฉลี่ยทั้งปีไม่น่าจะน้อยกว่า 80% และน่าจะขนส่งผู้โดยสารได้ทั้งปีถึง 6 ล้านคน ทั้งนี้เพราะปีนี้นกแอร์จะเพิ่มเครื่องบินเป็น 7 ลำ จากปีก่อนที่มี 4 ลำ และมั่นใจว่าภายในกลางปีนี้บริษัทจะถึงจุดคุ้มทุน
“ธุรกิจโลว์คอสต์ในประเทศไทยยังเติบโตได้สูง มองว่าความต้องการของผู้ใช้บริการยังมีจำนวนมาก และยังเปิดเส้นทางใหม่ได้อีกหลายเส้นทาง ซึ่งในปี 2548 ธุรกิจโลวคอสต์ของไทยเติบโต 20% โดยนกแอร์เป็นผู้นำตลาดด้วยมาร์เก็ตแชร์ที่ 39% “
เล็งเปิดเส้นทางอินเดียกลางปีนี้
สำหรับแผนธุรกิจปีนี้ จะยังไม่เพิ่มจำนวนเที่ยวบินในประเทศ แต่มีการศึกษาที่จะเพิ่มเส้นทางบินใหม่ เช่น เชียงราย สุราษฎร์ธานี ส่วนเส้นทางต่างประเทศ ได้ศึกษาที่จะเปิดเที่ยวบินไป มาเก๊า และอินเดีย คาดว่า กลางปีจะเปิดเส้นทางกรุงเทพ-อินเดีย ได้แน่ ส่วนมาเก๊าอยู่ระหว่างการศึกษา เพราะภายในปี 2550 มาเก๊าจะเป็นลาสเวกัสในภูมิภาคเอเชีย จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ประกอบกับมาเก๊าก็เริ่มที่จะส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น ขณะที่การบินไทยเองก็ไม่ได้บินในเส้นทางนี้
นายพาที กล่าวถึง ข่าวเรื่องการบินไทย จะเปิดสายการบินโลว์คอสต์ใหม่ ชื่อ “เอื้องหลวง” นั้น เป็นสิทธิที่ การบินไทยสามารถทำได้ เพราะการบินไทยเป็นเพียงผู้ถือหุ้นในบริษัทสายการบินนกแอร์ ในสัดส่วน 39% ซึ่งตรงนี้ ตนเองยังไม่ทราบในรายละเอียด แต่เชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเพียงแนวคิดเฉยๆ มากกว่า จึงยังไม่ขอออกความเห็นใดๆ
สายการบินนกแอร์ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2547 ปัจจุบัน บินจากกรุงเทพไป 6 เส้นทางหลัก คือ เชียงใหม่ อุดรธานี หาดใหญ่ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และตรัง และยังได้ และ ยังมีเที่ยวบิน เชียงใหม่-อุดรธานี-เชียงใหม่ อีก 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
|
|
|
|
|