|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“เป๊ปซี่-โคล่า” ฉวยชาเขียวขาลง เท 200 ล้านบาท ปลุกลิปตันคืนสังเวียนตลาดชาพร้อมดื่ม เปิดฉากรีโพซิชั่นใหม่ โละภาพเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่น ชูความเป็นธรรมชาติคอนเซปต์ระดับโกลเบิ้ล "ชาทำได้” พร้อมปั๊มขวดเพ็ทขยายฐานกลุ่มวัยรุ่น สิ้นปีแชร์ขยับ20%
นายชาลี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตชาดำพร้อมดื่มลิปตัน เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับตำแหน่งทางการตลาดชาดำพร้อมดื่ม “ลิปตัน” ใหม่จากเครื่องดื่มที่ขายความสดชื่นภายใต้แนวคิด “สดชื่น อย่างแรง” มาสู่การเป็นเครื่องดื่มจากธรรมชาติ ภายใต้แนวคิดระดับโกลเบิ้ล “ชาดำได้” ซึ่งการปรับดังกล่าวจะเชื่อมโยงสอดคล้องรับกระแสสุขภาพ โดยได้ทยอยลงสื่อโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้ว ทั้งนี้ผลจากการปรับตัวดังกล่าว ส่งผลให้ลิปตันยอดขายทรงตัวในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากในช่วงครึ่งปีแรก ได้รับผลกระทบจากกระแสชาเขียวพร้อมดื่ม
“ตำแหน่งการตลาดของลิปตันเดิม คือ การขายความสดชื่น ทำให้ลิปตันถูกน้ำอัดลมแชร์กลุ่มผู้ดื่มไป เพราะตำแหน่งน้ำอัดลมก็ขายความสดชื่นเช่นเดียวกัน นอกจากนี้การมีบรรจุภัณฑ์กระป๋องยิ่งทำให้ดูเหมือนน้ำอัดลมเข้าไปอีก ส่งผลให้แนวโน้มบรรจุภัณฑ์กระป๋องนับวันจะมีอัตราการเติบโตที่น้อยลง”
สำหรับการรุกตลาดลิปตันในครั้งนี้ เนื่องจากสภาพตลาดชาเขียวเริ่มตกลง หลังจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาตลาดโต 100 % ทุกปี แต่ปีที่แล้วเติบโตเพียง 20% หรือมีมูลค่า 4,000 ล้านบาท โดยช่วงที่ชาเขียวมีอัตราการเติบโตสูง คือ ช่วงที่โออิชิเปิดตัวแคมเปญระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน ปี2548 โต 6 เท่าตัว แต่หลังจากนั้นมาตลาดตกลงมาโดยตลอด โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่หันไปดื่มเครื่องดื่ม ประกอบด้วย น้ำเปล่า ส่งผลให้ตลาดโต 10% น้ำผลไม้โต10-20% น้ำอัดลมโต 6-7% และปีนี้มีแนวโน้มว่ากลุ่มเครื่องดื่มทั้งหมดนี้จะเติบโต 10-20%
“ตลาดชาเขียวตกเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ สังเกตุได้ว่าขณะนี้เริ่มเกิดสงครามราคาแล้ว แต่ในช่วง 2-3 ปีตลาดบูมมาก ทำให้ลิปตันไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวทางการตลาดมากนัก เนื่องจากตั้งรับไม่ทัน แต่พอเมื่อปี 2548 ดูว่าสภาพตลาดชาเขียวตกลงแน่ เราจึงได้เตรียมศึกษาตลาดเพื่อกลับมาอีกครั้ง”
สำหรับปีนี้คาดว่าสภาพตลาดชาเขียวอย่างดีก็อยู่ในภาวะทรงตัวเท่านั้น หรือมีมูลค่า 4,000 ล้านบาท ส่วนตลาดชาดำปัจจุบันมีมูลค่า 800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15 % ของตลาดชาพร้อมดื่ม เนื่องจากในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบกระแสชาเขียว สัดส่วนตลาดเหลือเพียง 9 %เท่านั้น จากเดิมตลาดชาดำมีสัดส่วนถึง 80% ของตลาด อย่างไรก็ตามเพื่อปลุกตลาดชาดำในครั้งนี้บริษัทใช้งบราว 100 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 30 ล้านบาทในช่วง 3-4 เดือน ผ่านการใช้สื่ออย่างครบวงจร
พร้อมกันนี้บริษัทฯได้ทุ่มงบเครื่องจักรกว่า 100 ล้านบาท เพื่อผลิตลิปตันบรรจุภัณฑ์ใหม่ขวดเพ็ท เนื่องจากพบว่าเทรนด์ของขวดเพ็ทสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย ทำให้ยอดขายจากชาเขียวที่มาจากขวดเพ็ทมีถึง 60% ของตลาดรวม ขณะเดียวบรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ทยังสามารถขยายฐานกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นเพิ่มขึ้น จากที่ผ่านมาชาดำจะมีกลุ่มเป้าหมายค่อนข้างมีอายุกว่าชาเขียวซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น
|
|
|
|
|