Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2540








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2540
"อัลเฟรโด พิซซ่าของคนไทยสไตล์ลูกครึ่ง"             
โดย กุสุมา โยธาสมุทร
 


   
search resources

อัลเฟรโด
ศุภกิจ รุ่งโรจน์
Food and Beverage




เส้นทางชีวิตของ ศุภกิจ รุ่งโรจน์ พลิกผันจากความใฝ่ฝันเป็นครูพละ สู่พ่อค้าหัวป่าก์ วันนี้ อัลเฟรโด พิซซ่าลอยฟ้า สูตรของคนไทยสไตล์ผสมผสาน ถึงบทบาทขยายตัวแบบมืออาชีพโดยการร่วมทุนกับกลุ่มอีเทอร์เนล เริ่มด้วยการขยายสาขาเดือนละ 2 แห่งหวังชิงส่วนแบ่งตลาดพิซซ่าฮัท โดยจับตลาดซื้อกลับบ้านและต่างจังหวัดเป็นหลักก่อนลุยต่างแดน พร้อมวาดฝันบุกแข่งขันในตลาดอเมริกา

บนถนนสายธุรกิจที่มีนามว่า "อโศก" ที่ซึ่งสองฟากฝั่งเต็มไปด้วยตึกสูงตระหง่านและผู้คน ถนนสายนี้ไม่เคยมีเวลาหยุดพัก เพราะมันไม่เคยปราศจากยานยนต์และชีวิต

อัลเฟรโด ร้านอาหารไทยสไตล์อิตาลี ได้เปิดตัวขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ บนถนนสายนี้เมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ที่ตั้งของมันคือบ้านไม้ 2 ชั้นท่ามกลางรั้วสูงใหญ่ใกล้อโศก ทาวเวอร โดยมีศุภกิจ รุ่งโรจน์ หนึ่งในหุ้นส่วนเป็นผู้ดูแลจัดการทั้งหมด นับแต่แต่งานพ่อครัว (chef) จนกระทั่งงานบริหาร

"ตอนนั้นพี่สาว พี่เขย และเพื่อนพี่เขยเขาอยากทำร้านอาหาร เราก็มาคุยกันก็สรุปว่ามาได้ที่อโศก ที่เลือกที่นี่เพราะดูแล้วสบายใจดี ตอนเช้า ๆ ผมก็มานั่งนับคนที่เดินผ่านไปมา ก็ดี คนเยอะ ช่วงนั้นตึกศรีมิตร คิวเฮ้าส์ ยังไม่เกิด บ้านหลังนี้เป็นของญาติของหุ้นส่วนคนหนึ่งจึงติดต่อได้ไม่ยาก ช่วงแรกผมทำเองหมดทุกอย่าง เป็นเชฟเอง บริหารเอง แจกใบปลิวเอง" ศุภกิจเท้าความ

แม้จะเหน็ดเหนื่อยต้องออกไปสาธิตพิซซ่าลอยฟ้าตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เพื่อให้คนรู้จักอัลเฟรโดมากขึ้น แต่ศุภกิจก็ไม่เคยท้อ เขายังคงสนุกอยู่กับงาน กับการทำอาหารซึ่งเป็นอาชีพที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อน

ทางชีวิตที่พลิกผัน

ศุภกิจจากบ้านเกิดข้ามน้ำข้ามทะเลไปศึกษาต่อที่อเมริกาตั้งแต่อายุ 10 ขวบพร้อมกับความตั้งใจที่จะเรียนพละศึกษา และฝึกปรือกีฬาจนสามารถยึดเป็นอาชีพได้ เขาฝันอยากเป็นครูสอนพละ!

"4 ปีที่ไฮสคูล ผมเล่นกีฬาหลายอย่าง ที่ถนัดที่สุดก็คือเบสบอล ผมเล่นจนเข่าพัง ช่วงนั้นผมทำงานพิเศษอยู่ในร้านอาหารอิตาลี ก็มีพิซซ่าลอยฟ้าขายตอนนั้นเชฟก็บอกผมว่าทางด้านกีฬาผมคงไปไม่ได้ไกลเพราะเข่าพังแล้ว และแนะนำให้ผมไปศึกษาในเรื่องการโรงแรมและร้านอาหารจะดีกว่า" ศุภกิจย้อนอดีต

หลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจทำตามที่เชฟแนะนำ โดยเข้าศึกษาต่อที่ Culinong Institute of America (CIA) สถาบันที่มีชื่อเสียงที่สุดในด้านการผลิตพ่อครัว ทันทีที่จบการศึกษาก็เริ่มหาประสบการณ์ด้านการทำอาหารจากร้านอาหารและโรงแรมชื่อดังอย่าง Four Season

สิ่งที่ศุภกิจถนัดคือการปรับปรุงสูตรการทำอาหารใหม่ ๆ โดยนำอาหารตะวันตกและตะวันออกมาผสมกัน และครั้งหนึ่งเมื่อโรแนลด์ เรแกน ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของอเมริกาได้มาพักที่โรงแรม Four Season ศุภกิจคือผู้รับหน้าที่ทำอาหารให้แก่เรแกนรับประทาน

22 ปีในต่างแดนได้จบสิ้นลง ศุภกิจเดินทางกลับเมืองไทยเมื่อ 7 ปีก่อนและเข้าทำงานในโรงแรมพาวิลเลจ ที่ภูเก็ต ช่วงนั้นเขาเริ่มมีชื่อเสียงในด้านการทำอาหารมากขึ้นจนได้รับรางวัลจากต่างประเทศ

ชีวิตพลิกผันอีกครั้ง เมื่อพี่สาวและพี่เขยชวนมาเปิดร้านทำอาหาร ศุภกิจรับปากอย่างไม่ลังเล งานใหม่ ๆ ที่ท้าทายอย่างนี้ยากที่จะปฏิเสธ ศุภกิจลาออกจากการเป็นลูกจ้างและเดินหน้าเริ่มต้นกิจการของตัวเองอย่างจริงจังในตำแหน่ง ผู้จัดการร้านอาหารอัลเฟรโด เขาเริ่มต้นด้วยการบุกเบิกให้คนรู้จักพิซซ่าลอยฟ้ามากขึ้น โดยการไปแสดงสาธิตตามห้างสรรพสินค้า

"ผมไปสาธิตวิธีลอยฟ้าตามห้าง แล้วก็ให้คนชิมเพื่อถามเขาว่าดีไหม ก็ปรับเปลี่ยนกันมาเรื่อย ช่วงแรก จะรสจืด ตอนหลังผมจับได้ว่าคนไทยชอบรสจัด กลับมาปุ๊บผมก็ทำซอสสูตรพิเศษขึ้นมา ปรับมา 3 หน พอหนที่ 4 ก็ติดตลาด เริ่มมีการออกงานที่ต่าง ๆ ออกรายการทีวี" ศุภกิจกล่าว

พิซซ่าของเขาโรยหน้าด้วยไส้กรอกอีสานรสเด็ด สปาเกตตี้ขี้เมารสจัดถูกปากคนไทย ทริสเตอร์ ฮ็อตด็อกสูตรผสมแบบลูกครึ่งไทยตะวันตก ศุภกิจเป็นผู้คิดค้นสูตรการทำแป้งพิซซ่า ซอสปรุงรส และอาหารทุกอย่างที่วางขายเองทั้งหมด

"อย่างแป้งนี้เราคิดค้นกันนาน เพราะแป้งไทยกับแป้งต่างประเทศมันไม่เหมือนกัน ก็ลองกันหลายยี่ห้อ ผสมกันหลายแบบ ใช้เวลา 9 เดือนกว่าจึงมาลงตัวตรงนี้" ศุภกิจกล่าว

อัลเฟรโดเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเริ่มทำไม่ทันขาย ต้องมีการสั่งซื้อเครื่องมือและเพิ่มพนักงาน ถึงจังหวะนี้ศุภกิจบอกกับตัวเองว่ามันหยุดไม่ได้แล้ว เขาเริ่มสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองและอัลเฟรโดมากขึ้น โดยการเดินทางไปแข่งขัน World Pizza Game ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกาในปี 2539 งานนี้มีผู้ร่วมแข่งขันจำนวนมากจากสารพัดประเทศ แต่ศุภกิจก็สามารถคว้าตำแหน่งรองแชมเปี้ยนโลกพิซซ่าลอยฟ้าได้สำเร็จ นับเป็นคนเอเชียคนแรกที่ได้ตำแหน่งนี้

ขยายตัวอย่างมืออาชีพ

ศุภกิจตั้งใจที่จะขยายสาขาของอัลเฟรโดให้มากขึ้น แต่ยังติดปัญหาเรื่องเงินทุนและการบริหารงานอย่างเป็นระบบ นับเป็นจังหวะเดียวกับที่บริษัทอีเทอร์เนล กรุ๊ปติดต่อขอร่วมทุนเข้ามา การขยายตัวอย่างมืออาชีพจึงเริ่มขึ้น

วิวัฒน์ คุณารัตนอังกูร เข้ามานั่งในตำแหน่งประธานบริษัทใหม่นาม อัลเฟรโด เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด โดยมีศุภกิจรั้งตำแหน่งรองประธานฝ่ายการตลาด การขยายตัวของอัลเฟรโดเริ่มขึ้นด้วยการประชาสัมพันธ์พิซซ่าลอยฟ้าให้เป็นที่รู้จัก พร้อม ๆ กับการขยายสาขาในลักษณะ Kiosk (ป้อม) ไปตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ โดยเลือกทำเลหน้าซูปเปอร์มาร์เก็ตเป็นหลัก กลุ่มเป้าหมายของอัลเฟรโดคือแม่บ้าน และเด็ก ๆ

ตลาดพิซซ่าแบ่งออกเป็น 3 ตลาดใหญ่ ๆ คือ 1. ร้านอาหารเต็มรูปแบบ (Full restaurant) ใช้เนื้อที่ประมาณ 250-350 ตร.ม. ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 10-20 ล้านบาทต่อหนึ่งสาขา ยอดขายแต่ละเดือนประมาณ 1-3 ล้านบาท ตลาดนี้จะเป็นการแข่งขันระหว่างพิซซ่าฮัท และนารายณ์พิซซาเรีย กลุ่มลูกค้าคือวันรุ่น 2. ตลาดส่งถึงที่ (Delivery) ใช้พื้นที่ประมาณ 50-100 ตร.ม.เงินลงทุน 3-5 ล้านบาท ยอดขายเดือนละ 0.5-1 ล้านบาท เป็นการต่อสู้ระหว่างพิซซ่าฮัทกับ โดมิโน่พิซซ่า กลุ่มลูกค้าคือคนทำงาน 3. ซื้อกลับบ้าน (Take Home) ใช้พื้นที่ประมาณ 12-15 ตร.ม. เงินลงทุน 1 ล้านบาท ยอดขายเดือนละ 2-5 แสนบาท กลุ่มนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างพิซซ่าฮัทกับอัลเฟรโด

"ที่เลือกตลาด Take Home เพราะคู่แข่งอย่างพิซซ่าฮัทจะไม่ทำตลาดนี้แล้ว เมื่อก่อนเขามี 9 สาขา ยุบทิ้งไป 4 สาขา เหลือแค่ 5 สาขา พิซซ่าฮัทประกาศว่าจะไม่เปิดเพิ่มอีกแล้วเพราะถ้าเปิด Take home แล้วคนจะไม่มากินร้านใหญ่ของเขา ส่วนโดมิโน่ก็ไม่เปิด เพราะบริษัทแม่ไม่ให้เปิด ฉะนั้นอัลเฟรโดมีโอกาสที่จะเป็นผู้นำในตลาดนี้" วิรัตน์แจง

ปัจจุบันอัลเฟรโดมีอยู่ 13 สาขา และกำลังจะเปิดเพิ่มในเดือนสิงหาคมนี้อีก 2 สาขา บริษัทมีนโยบายจะเปิดเพิ่มทุกเดือน เดือนละ 2 สาขา โดยส่วนหนึ่งเป็นการลงทุนของบริษัทเอง และอีกส่วนหนึ่งเป็นการขายแฟรนไชส์ เมื่อถึงสิ้นปีอัลเฟรโดจะมี 30 สาขา

แต่ละสาขาใช้เงินลงทุนประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับยอดขายเฉลี่ยเดือนละ 3 แสนบาท ทำให้มีผู้สนใจติดต่อขอแฟรนไชส์กันเข้ามามาก การขยายสาขาจึงเป็นไปตามเป้าหมาย

ปัจจุบันตลาดพิซซ่าในเมืองไทยมีมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท พิซซ่าฮัทนับเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งถึง 85% อัลเฟรโดมีส่วนแบ่ง 1.5% ที่เหลือคือนารายณ์พิซซาเรีย โดมิโนพิซซ่า และอื่น ๆ รวมกัน หากอัลเฟรโดสามารถขยายสาขาได้ตามเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้ บริษัทจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 5% และในปีหน้าจะเริ่มเข้าสู่ตลาด Delivery หลังจากนั้นอีกปีหนึ่งจะเข้าสู่ร้านอาหารเต็มรูปแบบ โดยจะเริ่มต้นที่ต่างจังหวัดก่อน

วิรัตน์มองว่า การเปิดร้านอาหารเต็มรูปแบบนั้น จำเป็นต้องลงทุนสูง คืนทุนช้า ซึ่งหากเปิดในกรุงเทพฯ จะเสียเปรียบยักษ์ใหญ่อย่างพิซซ่าฮัทมาก เนื่องจากพิซซ่าฮัทมีสาขาจำนวนมาก และเป็นที่รู้จักของคนกรุงเทพฯ ดีอยู่แล้ว แต่สำหรับตลาดต่างจังหวัดพิซซ่าฮัทเพิ่งขยายตัวออกไป หากอัลเฟรโดจะไปแข่งขันในตลาดนี้บ้างย่อมมีความเป็นไปได้

นอกจากนี้วิรัตน์ยังมีแผนขยายสาขาไปยังประเทศพม่า อินโดนีเซีย และจีนด้วย เนื่องจากประเทศเหล่านี้ยังไม่มีตลาดพิซซ่า หากอัลเฟรโดเข้าไปทำตลาดได้ก่อนก็จะมีความได้เปรียบ ปัจจุบันอัลเฟรโดกำลังดูทำเลในเมืองร่างกุ้งแล้ว อยู่ระหว่างสรุปกับรัฐบาลพม่า ถ้าสำเร็จพม่าจะเป็นประเทศแรกที่เข้าไป

อย่างไรก็ตามศุภกิจฝันไกลไปถึงตลาดอเมริกา เขาหวังจะเข้าไปแข่งขันที่นั่น ด้วยสินค้าที่แตกต่างโดยใช้ชื่อว่า "ไทยพิซซ่า" ปัจจุบันตลาดพิซซ่ารวมในอเมริกามีมูลค่าสูงนับแสนล้านบาท ปีนี้ศุภกิจเตรียมทีมไปแข่งขัน World Pizza Game อีกครั้ง เขาหวังที่จะคว้าตำแหน่งแชมเปี้ยนโลกกลับมา ซึ่งหากเป็นไปได้คนไทยจะได้สร้างชื่อในอเมริกาอีกครั้ง และความฝันของศุภกิจจะส่อแววความจริงมากยิ่งขึ้น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us