|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นักพัฒนารุ่นเก๋า "สงกรานต์ อิสสระ" ปรับแผนธุรกิจ รุกตลาดคอนโดฯ 2 ทำเล โซนรัชดาภิเษก-พระราม 9 และชะอำ รวมมูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท ระบุนักธุรกิจแดนโรตีสนใจร่วมทุนพัฒนาโครงการในโครงการศรีพันวา ภูเก็ต แต่ย้ำเจตนารมณ์เดิมพัฒนา เองยึดหลักคุณภาพเป็นหลัก เสริม แง่คิดรัฐบาลปล่อยทุนสิงคโปร์เข้ามากเกินระวังถูกฮุบทั้งระบบ ระบุรายได้รวมสิ้นปี 1,000 ล้านบาท
นายสงกรานต์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทฯมีแผน เปิดตัวโครงการประเภทคอนโด มิเนียม 2 โครงการ คือ ที่ดินบริเวณ ถนนรัชดาภิเษก-พระราม 9 ซึ่งซื้อมาจากเจ้าของเดิม บนพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ ที่อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า มีแผนจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 20-30 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มูลค่าโครงการประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ คาดว่าจะสามารถเปิดการขายได้ประมาณกลางปี 49 นี้
อีกโครงการเป็นการนำพื้นที่ที่เหลือบริเวณโครงการบ้านเพลินทะเล อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ประมาณ 4 ไร่ มาพัฒนาเป็นอาคารสูง 12-15 ชั้น โดยให้ระยะถอยร่นจากทะเลเข้ามาประมาณ 300 เมตรจำนวน 1 อาคาร และอาคารโลว์ไรส์ สูง 2 ชั้นอีก 2 อาคาร รวมจำนวน 160 ยูนิต ยูนิตละ 36 ตารางเมตร ราคา 1-2 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการประมาณ 300-400 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวได้ใน เดือน เม.ย.นี้
"ที่ตัดสินใจพัฒนาคอนโดฯใจกลางเมือง เนื่องจากเห็นว่าที่ดินที่ซื้อมานั้นเป็นทำเลที่ดีใกล้แนวรถไฟฟ้า และราคาขายก็จะขายไม่แพงมากนัก จึงมั่นใจว่าหากพัฒนาขึ้นมาแล้วน่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เพราะแต่ละโครงการที่เราพัฒนาขึ้นมา จะต้องฉีกแนวและสร้างกระแสในตลาดได้เป็นอย่างดี เหมือนกับที่ เราเคยพัฒนาโครงการบ้านพระราม 9 และที่ศรีพันวา มาแล้ว"
สำหรับความคืบหน้าการขายโครงการบ้านเพลินทะเลว่า ขณะนี้ได้ ปิดการขายไปแล้ว และอยู่ระหว่างการโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้า คาดว่าจะโอนได้ทั้งหมดในปลายเดือน ก.พ.49 นี้ ขณะที่โครงการบ้านอิสสระ พระราม 9 นั้น เหลือขายอีกเพียงประมาณ 20% เท่านั้น
โครงการศรีพันวา ภูเก็ต นั้นได้ปิดการขายและก่อสร้างเสร็จเรียบ ร้อยแล้ว และขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างเฟสที่ 2 ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมจำนวน 20 วิลลา บ้านหลังใหญ่ 9 หลัง ขณะนี้มียอดขายแล้ว 5 หลัง ซึ่งจะแล้วเสร็จทั้งหมดประมาณกลางปี 50 และในเฟสที่ 3 จะเป็นโรงแรมทั้งหมด 60 ห้อง ใช้งบฯ ลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท คาดว่า จะเริ่มต้นก่อสร้างได้ประมาณต้นปี 50
"ทำเลของศรีพันวา ภูเก็ต ถือ ว่าเป็นทำเลที่มีฮวงจุ้ยดีแห่งหนึ่งและสวยที่สุดของภูเก็ต ส่งผลให้นักลงทุนชาวอินเดียที่มีธุรกิจโรงแรม ระดับ 5 ดาวอยู่ทั่วโลก สนใจที่จะเข้า มาร่วมทุนบริหารโครงการดังกล่าวด้วย แต่ผมไม่ต้องการที่จะร่วมทุนกับใคร เพราะสามารถดำเนินการเองได้"
อย่างไรก็ตาม นายสงกรานต์ยอมรับว่า หลังจากเกิดเหตุการคลื่น ยักษ์สึนามิครบรอบ 1 ปี ส่งผลให้ธุรกิจในภูเก็ตและ สมุย กลับมาขยายถึง 80% แต่ก็ต้องขอเตือนนักลงทุนรายใหม่ที่เข้ามาว่าการทำตลาด วิลลาราคาแพงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อ เทียบกับตลาดในกรุงเทพฯ ต้องมีเทคนิคด้านการก่อสร้างและการขาย ที่ดีจึงจะสามารถอยู่ได้ ประกอบกับปัจจุบันทำเลดีๆ ในภูเก็ตก็ค่อนข้างหายากแล้ว ต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนก็ไม่ใช่มืออาชีพ ที่ทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จก็มากมาย หรือประเภทฝรั่งหลอกขายฝรั่งด้วยกันเองก็มีมาก ส่วนตลาดสมุยนั้นต้องยอมรับว่าการแข่งขันจะร้อนแรง กว่าภูเก็ต เพราะยังมีที่ดินให้พัฒนาอีกมาก มีรายย่อยเข้าไปลงทุนเยอะ ทำให้ยิ่งน่ากลัวกว่าภูเก็ต
"ปัจจุบันมีกลุ่มทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสิงคโปร์ เป็น กลุ่มทุนที่มีความพร้อมด้านเงินลงทุน ในขณะที่ประเทศเขาขาดทรัพยากร และมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพมากเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆในแถบ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ในอนาคต ถ้าภาครัฐยังไม่มีกฎเกณฑ์ออกมาเข้มงวด ตนก็เชื่อว่าต่อไปกลุ่มทุนเหล่านี้ จะต้องมามีบทบาทมีการควบคุมการท่องเที่ยวในประเทศ"
ทั้งนี้ บริษัทสิงคโปร์ที่เข้ามาลงทุน จะมีความถนัดการก่อสร้างและพัฒนาโครงการอาคารสูงมากกว่า แนวราบ หรือการเข้าไปประมูลที่ดิน ที่มีราคาแพงและมีคนไทยเข้าไปประมูลน้อย เพราะสู้ราคาไม่ไหว เพื่อ ที่จะได้ไม่ต้องมีการแข่งขันมาก เช่น ที่ดินบริเวณสถานทูตอังกฤษ ที่สร้าง ความฮือฮาเป็นอย่างมากโดยที่ดินราคาพุ่งถึง 1 ล้านบาทต่อตารางวาก็มีกลุ่มทุนสิงคโปร์สนใจเข้าไปประมูลกันมาก
อย่างไรก็ตาม ในปี 49 นี้บริษัท คาดว่าจะมีรายได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยจะมาจากโครงการ บ้านอิสสระ พระราม 9 ประมาณ 50% โครงการศรีพันวา ภูเก็ต 30% และที่เหลือจะมาจากโครงการให้เช่าและจากโครงการใหม่ที่ชะอำบางส่วน
|
|
|
|
|