Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 กุมภาพันธ์ 2549
KCชี้รายได้ปี49เติบโต15%             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้, บมจ.
Real Estate




เค.ซี.โชว์ปี 49 รายได้เติบโตประมาณ 15% เหตุยอดรอรับรู้เพิ่มขึ้นเป็น 800 ล้านบาท ทุ่มเปิดโปรเจกต์ใหม่ 4,000 ล้านบาท จับตาผู้ถือหุ้นแฮปปี้รับเงินปันผล พร้อมเดินหน้าโครงการลองสเตย์ คาดเกื้อหนุนฐานรายได้ระยะยาว

นายอภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะกุล กรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC เปิดเผยถึงแนวโน้มของผลประกอบการในปีที่ผ่านมาว่า รายได้จะมีอัตราเติบโตประมาณ 15% จากปี 2547 ซึ่งถือว่าต่ำกว่าที่ประมาณการไว้เล็กน้อย โดยเดิมคาดว่ารายได้จะมีการเติบโตประมาณ 15-20% ทั้งนี้ เป็นผลมาจากบางโครงการไม่สามารถสร้างเสร็จได้ทันโอน สาเหตุมาจากในช่วงเวลาดังกล่าวมีฝนตกบ่อยมาก ทำให้การก่อสร้างล่าช้ากว่าแผนงานที่วางไว้ ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น กระทบต่อกำลังผู้ซื้อของลูกค้าให้ชะลอลงไป

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ บริษัทฯมีความมั่นใจว่ารายได้จะมีการขยายตัวประมาณ 15% จากปี 2548 เป็นผลมาจากจะมีการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือบางส่วนที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งได้ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอยู่ที่ 600 ล้านบาท นอกจากนี้ จะมีการเปิดโครงการใหม่อีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,000 ล้านบาท ที่จะมีการรับรู้รายได้บางส่วนในช่วงปลายปีนี้

สำหรับแนวโน้มการจ่ายปันผลนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าว คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2548 ให้แก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างแน่นอน โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับผลการประชุมของคณะกรรมการ รวมทั้งมติการประชุมผู้ถือหุ้นประมาณช่วงเดือนเมษายนนี้

นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ที่บริษัทจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 225 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในกลางปี 2549 นั้น ในขณะนี้บริษัทยังไม่ได้สรุปในเรื่องของการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด เพียงแต่ได้มีการพูดคุยกับทาง บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งบริษัทยังคงมีเม็ดเงินเพียงพอในการพัฒนาโครงการในอนาคต ทั้งจากในส่วนของรายได้ที่มีการหมุนเวียนมาจากโครงการเก่า อีกทั้งยังมีวงเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารในวงเงินไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท

"เดิมตอนที่นำหุ้นกลับเข้าเทรดนั้น ทางที่ปรึกษาทางการเงินก็มองว่า น่าจะมีการเพิ่มทุนเพื่อให้หุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น ซึ่งก็ได้รับอนุมัติจาก ก.ล.ต.ให้ออกหุ้นเพิ่มทุน 225 ล้านหุ้น โดยเดิมจะมีการออกหุ้น PO แต่หากราคาหุ้นไม่มีพรีเมียมก็ไม่อยากขาย เพราะจะกระทบกับราคาหุ้นในกระดาน ซึ่งก็ได้มีการคุยกันว่าจะมีการออกหุ้น PP ดีมั้ย แต่ก็เป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นซึ่งยังไม่มีข้อสรุปใดๆ เพราะเรายังมีเม็ดเงินเพียงพอในการขยายโครงการ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ก่อนหน้านี้ บริษัท เค.ซี.บริษัทได้เซ็นสัญญากับบริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด (TLM) เข้าพัฒนาโครงการบ้านพักอาศัยในลักษณะของที่พำนักระยะยาว หรือลองสเตย์ โดยตามแผนจะก่อสร้างทั่วประเทศ จำนวน 1 แสนยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 2 แสนล้านบาท ภายในระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่ปี 2549-2550 โดยบริษัทเป็นดีเวลอปเปอร์รายแรกที่เจรจาและบรรลุข้อตกลงกับบริษัทไทยจัดการลองสเตย์ เป้าหมายเพื่อก่อสร้างที่พักอาศัยสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้เกษียณอายุที่ต้องการเข้ามาพักในประเทศไทย ถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับบริษัทอีกทางหนึ่งนอกเหนือจากพัฒนาโครงการจัดสรรเพื่อขายเพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถรับงานก่อสร้างบ้านในโครงการนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งการเข้าไปรับงานในครั้งนี้ มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องแรงงานก่อสร้าง เนื่องจากการก่อสร้างโครงการจะกระจายไปตามเมืองในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ 12 แห่งทั่วประเทศ บริษัทจึงมีแผนจะใช้แรงงานในท้องถิ่นช่วยในการก่อสร้าง ถือเป็นการส่งเสริมอาชีพคนในท้องถิ่นให้มีงานทำอีกทางหนึ่งด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us