Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์6 กุมภาพันธ์ 2549
Closer to The Dragon             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงเทพ

   
search resources

ธนาคารกรุงเทพ, บมจ.
Investment
Banking and Finance




"บัวหลวง" เปิดความสัมพันธ์บนแผ่นดินพญามังกร ล่วงหน้าแบงก์อื่นที่กำลังไล่หลังมาติดๆถึง 20 ปี แต่เวลาที่บุกเบิกมายาวนาน จนมีสาขาถึง 4 แห่ง มากกว่าแบงก์ไทยด้วยกันเอง ก็ยังไม่เพียงพอจะศึกษา เศรษฐกิจที่เติบโตอย่างน่ามหัศจรรย์ของแผ่นดินเกิด "มังกรโพ้นทะเล" ได้ลึกซึ้ง แต่อย่างน้อยฐานรากของสาขาที่กระจายอยู่โดยรอบทั้งในฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน ก็ยังมากพอจะต่อยอด และส่งต่อลูกค้าที่มีอยู่ในมือได้กลับเข้าไป "ขุดทอง" ในแผ่นดินเกิดได้สะดวก

ประสงค์ อุทัยแสงชัย กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ถึงกับมองโอกาสการเข้าไปทำธุรกิจในจีนของค่าย "บัวหลวง" ที่มีศักยภาพด้านเงินทุน บุคลากรและฐานธุรกิจ อาจจะเปิดได้มากถึง 50 สาขา จากที่มีอยู่เดิม โดยเล็งแห่งใหม่ไว้ที่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมและศูนย์กลางไอที ในเมืองหวู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เมืองกว่างเจา มณฑลกวางตุ้ง

ความน่าทึ่งของการเติบโตแผ่นดินพญามังกรพร้อมการเร่งเปิดประตูทางการค้า ได้ชักนำให้ธุรกิจซึ่งส่วนใหญ่เป็น "มังกรโพ้นทะเล" ในประเทศต่างๆ อพยพโยกย้ายเข้าไปลงทุนในดินแดนบ้านเกิดของบรรพบุรุษ

ประสงค์บอกว่า ศักยภาพของจีนมีสูงในแทบจะทุกอุตสาหกรรม ยกเว้นเพียงภาคการเงิน ประกันภัยและโบรกเกอร์ แต่โดยรวมการเปิดประเทศอย่างเป็นระบบและมียุทธศาสตร์ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในแต่ละยุคของผู้นำก็มากพอจะทำให้จีนเป็นมังกรผงาดได้อย่างยาวนาน

" จีนทั้งใหญ่ และขยายตัวรวดเร็ว เห็นความสำเร็จและล้มเหลวของประเทศต่างๆมาแล้ว จีนจึงเป็นประเทศที่คู่แข่งประเทศอื่นๆจะแข่งขันหรือขัดขวางแทบไม่มี ยกเว้นไปไม่รอดหรือขัดขาตัวเองล้มเท่านั้น"

ค่ายบัวหลวงทำความรู้จักกับสังคมคนจีนมานานกว่า 20 ปีเปิดสาขาไปแล้ว 4 แห่ง เริ่มต้นจากซัวเถา เซี่ยงไฮ้ เซียเหมินและปักกิ่ง ซึ่งทั้ง 4 สาขาก็ทำกำไรได้สูงถึง 56% 26% และ 40% ตามลำดับ ส่วนปักกิ่งใน 22 วันแรกทำกำไรถึง 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะหนีไม่พ้นนักธุรกิจโพ้นทะเลจากไทย ฮ่องกง สิงคโปร์และไต้หวัน ซึ่งเป็นฐานลูกค้าเก่าของค่ายบัวหลวง นักธุรกิจกลุ่มนี้เริ่มโยกย้ายโรงงานเข้าไปในจีน โดยมีแบงก์กรุงเทพเป็นผู้ส่งต่อการให้บริการการเงินอย่างครบถ้วน

" กว่า 75% ของลูกค้าแบงก์กรุงเทพเป็นนักธุรกิจไต้หวัน ที่แบงก์มีสาขาถึง 3 แห่ง รองลงมาคือฮ่องกง ข้อได้เปรียบของสาขาคือ รู้ข้อมูล และตามประกบลูกค้าได้"

ในเขตเมืองหวู่ฮั่น และชิงเต่า มีโรงงานผลิตน้ำมันพืช โรงงานทำบะหมี่ โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์จากไก่และมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นลูกค้าของสาขาทางเหนือหรือปักกิ่ง รวมถึงลูกค้าเดิมจากเครือสาขาต่างประเทศด้วย

" ที่ปักกิ่งจะทำกำไรได้มากเป็นอันดับสองรองจากเซี่ยงไฮ้" ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจระดับที่คาดว่าปีนี้จะกระโดดมาที่ 8% จึงน่าสนใจสำหรับธุรกิจข้ามชาติไม่น้อย

ประสงค์บอกว่า สินเชื่อในจีนขยายตัวสูงมาก เพิ่มถึง 60% เพราะการลงทุนในจีนมีสูง หากจะลงทุนเพิ่มอีกก็คงไม่ยาก

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สวยหรูก็ไม่ช่วยให้สาขาใหม่ของค่ายบัวหลวงเกิดได้เร็วอย่างที่คิดไว้ เพราะทางการจีนอนุญาตให้เปิดได้ทีละสาขา ที่ผ่านมา ในขณะที่ปีหนึ่งๆมีแบงก์จากต่างประเทศขอเปิดสาขามากถึง 200-300 แห่ง แต่จีนไฟเขียวได้ปีละ 5 แห่งเท่านั้น

การค่อยๆเปิดประตูภาคการเงินของจีน ส่วนสำคัญมาจากเป็นอุตสาหกรรมที่ล้าหลัง จึงเสียเปรียบ แต่เพราะการเร่งพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็ว จึงทำให้การอ้าแขนรับผู้มาใหม่เป็นไปอย่างเร็วขึ้น ตั้งแต่เริ่มสละขายสาขาธนาคารให้ต่างประเทศ โดยยอมให้ถือหุ้นไม่เกิน 25% หรือกรณีพิเศษให้ถือได้ถึง 80%

" จีนยอมเปิดให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้น เพื่อเอาเงินเข้ามาลงทุน เอาคนมาฝึกงาน ดึงเอาเทคโนโลยี ธนาคารที่คอยซัพพอร์ตผู้คนจนอ่อนแอ ในช่วง 5-10 ปี จึงเริ่มเปลี่ยนโฉมหน้าไปมาก"

แต่การซื้อธนาคารขนาดใหญ่ในจีนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย นักลงทุนต้องเงินถึงขนาดควักจ่ายได้ระดับ 1-3 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่แบงก์ขนาดกลางหรือระดับมณฑล ก็ไม่แพ้บ้านเรา

" ภาพรวมจีนยังจะใหญ่ไปถึง 5-10 ปี เพราะมีศักยภาพสูง เศรษฐกิจขยายตัวดีมาก แต่เราก็ต้องมองว่าลึกๆลงไปเราเข้าใจเขามากแค่ไหน"

ประสงค์บอกว่า นอกจากแบงก์กรุงเทพจะเข้าไปเปิดสาขาในจีน 4 แห่ง ก็ยังมีการลงทุนระดับ 5-10% ในธุรกิจประกันภัยที่ร่วมทุนกับพันธมิตรจีน ซึ่งการลงทุนขนาดนี้ถือเป็นการศึกษาหาความรู้มากกว่า ขณะเดียวกันก็ไม่มีศักยภาพพอจะเข้าไปเทคโอเวอร์

" ประกันภัย ประกันชีวิต ขายดีมากในประเทศจีน บริษัทฝรั่งแย่งกันเข้าไปทำธุรกิจไม่น้อย แค่ทำประกันภัยบ้าน รถยนต์ก็มากเกินพอแล้ว"

นอกจากนั้นศักยภาพที่เหนือกว่าทั้งเงินทุน เทคโนโลยี และความรู้ความชำนาญจึงทำให้เห็นว่า โอกาสที่ธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนจะทำกำไรได้ยากกว่า ขณะที่จีนเข้ามาลงทุนในไทยหรือแค่เปิดการค้าเสรี FTA ไทยก็เสียเปรียบจีนทั้งขึ้นทั้งล่อง หรือแม้กระทั่งโครงการเมกะโปรเจ็กต์ หากเทียบกับบริษัทก่อสร้างของฝรั่งที่จะเข้ามาประมูลงานในบ้านเรา เงื่อนไขของจีนดีกว่าทั้งราคาที่เหมาะสม และประสบการณ์ มากมาย เพราะกว่า 48 หัวเมือง มีรถไฟฟ้าใต้ดินใช้มานานกว่าบ้านเรา

ขณะเดียวกัน บริษัทจีนก็เข้าไปประมูลงานและรับงานทั่วโลก ทั้งในตะวันออกกลาง เอเชียและแอฟริกา โดยการแข่งขันต้องถูกกว่าและคุณภาพไม่ด้อยกว่า

" เขามีศักยภาพสูงกว่าเรา ถ้าศึกษาจะพบว่าเราเสียเปรียบเขามาก และยากมากที่จะแข่งขันได้ ซึ่งถ้าเรายังไม่พัฒนาตัวเองให้สูงมากขึ้น เราก็คงเสียเปรียบจีนไปเรื่อยๆ"

หากมองย้อนหลังไป 25 ปี การพัฒนาประเทศที่รับรู้กันว่าผลัดเปลี่ยนมือผู้นำมาหลายยุค นับตั้งแต่ เติ้งเสี่ยวผิง ซึ่งทีมบริหารประเทศมีอายุ 70-80 ปี จนมาถึงยุคเจียงเจ๋อหมิน ที่มีอายุเฉลี่ย 60-70 ปี กระทั่งผู้นำรุ่นใหม่ หูจิ่นเทา ที่มีอายุเฉลี่ย 40-50 ปี และจบการศึกษาจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ จะพบว่าผู้นำจีนมีสายตาเปิดกว้าง ใจกว้าง มองทะลุ และการเมืองมั่นคง

" ผู้ว่ามณฑลถูกบังคับให้บริหารแข่งขันกัน จึงทำให้ต่ละมณฑลแต่ละเมืองในจีนมีเศรษฐกิจที่ขยายตัวเร็วมาก แต่ละมณฑลถูกสร้างขึ้นมาเหมือนประเทศหนึ่งๆ"

หัวเมืองริมทะเล และมณฑลติดพรมแดนประเทศอื่นจึงจัดเป็นเขตที่มีความเจริญสูงสุด ขณะที่ใจกลางแผ่นดินใหญ่การคมนาคมไปไม่ถึง รัฐบาลปักกิ่งได้ออกกฎหมายดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยให้สิทธิพิเศษด้านภาษี ทั้งหมดนี้ประสงค์มองว่าเป็นจุดเด่นของจีน

ประชากรจีนกว่า 1.3 พันล้านคน จึงมีงานทำค่อนข้างแน่นอน เพราะการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ มีการจัดระเบียบแบ่งโซนอุตสาหกรรมในแต่ละเมืองแยกกันเด็ดขาด และแต่ละโรงงานก็มีแรงงานระดับ 4-5 พันคน ไปจนถึง 3-4 หมื่นคน

ประสงค์บอกว่า การใช้ชีวิตร่วมกับคนจีนยุคใหม่ถึง 20 ปี ตองรู้จักคู่ค้า ในท้องถิ่นให้ดี และลูกค้าแบงก์ซึ่งเป็นชาวไทยเชื้อสายจีน คนสิงคโปร์ ไต้หวันหรือแม้แต่ฮ่องกง ที่ย้ายการลงทุนเข้าไปในจีน จึงเหมือนกลับบ้านเกิด เพราะหลายรายยังมีญาติ พี่น้องอยู่ที่นั่นด้วย

การละเลยหรือ มองข้ามพญามังกร จึงแทบไม่ได้อยู่ในหัวของนักธุรกิจประเทศใดเลย....   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us