Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์6 กุมภาพันธ์ 2549
ฟันธงเศรษฐกิจปี 49 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 4%             
 


   
search resources

อัจนา ไวความดี
Economics




อัจนา ไวความดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2549อยู่ที่ 4.75-5.75% ซึ่งเป็นการปรับประมาณการณ์ครั้งใหม่หลังจากที่เคยคาดเมื่อปีที่ผ่านมาว่าเศรษฐกิจปี 4.5-6%และในปี 2550 อยู่ที่4.5-6% ซึ่ง ธปท. เห็นว่าเศรษฐกิจปี 2549 ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยมีภาคส่งออกเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ ปีนี้จะขยายตัว 10-12 %และปี 2550 แต่ขยายตัวลดลงที่ 6-9%

ทั้งนี้มองว่า เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าขยายตัวมากกว่าที่คาดไว้ทำให้สินค้าส่งออกยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจซึ่งสินค้าส่งออกที่สำคัญยังคงเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

กระนั้นก็ตาม การที่ทุนไหลทะลักเข้าประเทศจนส่งผลต่อค่าบาทแข็งขึ้นมากนั้นจาก 41.04 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อไตรมาส 4 ปี 2548 มาอยู่ที่ 39.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในต้นปีที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องที่น่าวิตกกังวลมากนักเนื่องจากเป็นการแข็งค่าตามเงินสกุลอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ดังนั้น ขีดความสามารถทางการแข่งขันจึงไม่ต่างกัน

ส่วนการนำเข้าคาดว่าจะขยายตัว 8-10% ในปี 2549 และปี 2550 ขยายตัว 7-10% ดุลการค้ายังขาดดุล 7,000-9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้ ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 8,000-10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 2,000-4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากประมาณการเดิม 2,500-4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนปี 2549 จะขาดดุลการค้าเพิ่มเป็น 7,000-10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2550 และดุลบัญชีเดินสะพัดจะขาดดุล 2,000-5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

การลงทุนภาคเอกชนในปี 2549 จะดีกว่าประมาณการเดิม โดยจะขยายตัว 9.5-10.5% เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตใกล้เต็มกำลังการผลิตแล้ว ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นของภาคเอกชนเริ่มดีขึ้น หลังจากลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2547 ส่วนการลงทุนภาครัฐจะลดลง โดยเติบโต12.5-13.5%

ทั้งนี้มองว่า เศรษฐกิจในปีนี้คงได้รับผลบวกจากการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์ไม่มากนัก โดยอัตราการเบิกจ่ายในโครงการเมกะโปรเจกต์ในปี 2549 อยู่ที่ 135,000 ล้านบาท แต่หลังจากเข้าสู่ไตรมาสของ 2 ของปีงบประมาณ 2549 ยังไม่เห็นแผนการใช้จ่ายจากโครงการเมกะโปรเจกต์

ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 49 คาดว่าจะลดลง มาอยู่ที่ 3.5-5 % ซึ่งในปี 2548 อยู่ที่4.5% ในขณะที่ปี2550จะลงมาอยู่ที่ 2-3.5% เนื่องจากราคาน้ำมันยังทรงตัวในระดับใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ปี 2549 จะอยู่ที่ 57.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และจะลดลงเป็น 56.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2548 อยู่ที่ 1.6% ปี 2549 อยู่ที่ 2-3% และปี 2550 อยู่ที่2-3.5%

กระนั้นก็ตาม แรงกดดันจากเงินเฟ้อที่มีอยู่สูงเนื่องจากราคาน้ำมัน แต่อัจนาก็คาดว่าคงไม่เกินราคาที่คาดไว้ ดังนั้น แนวโน้มที่เงินเฟ้อพื้นฐานจะเกินกรอบที่ ธปท. กำหนดไว้ 0-3.5% มีความเป็นไปได้น้อยลง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us