Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 กุมภาพันธ์ 2549
ตลาดหุ้นทรุดดัชนีรูด15จุด นักลงทุนตื่นเทขายหวั่น4ก.พ.เดือด             
 


   
search resources

Stock Exchange




ตลาดหุ้นไทยทรุดฮวบ 15.82 จุด นักลงทุนหวั่นปัญหาการเมือง การชุมนุม 4 ก.พ.จะรุนแรง มีกระแสข่าวลือในห้องค้า ทหารแบ่งฝ่ายอาจมีปัญหารุนแรง บล.กรุงศรีฯ ระบุประเมินสถานการณ์ยากจะสิ้นสุดอย่างไร บล.แอ๊ดคินซัน เผยหุ้น TPI รูดต่อเนื่องแค่ขายทำกำไรเท่านั้นไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับประเด็นศาลล้มละลายฯเลื่อนพิจารณาให้บริษัทออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ ขณะที่ "ประเสริฐ-บิ๊ก ปตท." เชื่อสัปดาห์หน้าตลาดหุ้นดีขึ้น

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (2 ก.พ.) ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดในช่วงเช้า เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มีความมั่นใจว่าในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่มีการนัดชุมนุมครั้งใหญ่ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการจะเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงขึ้นหรือไม่ โดยดัชนีปิดที่ 744.54 จุด ลดลง 15.82 จุด หรือ 2.08% ซึ่งระหว่างวันดัชนีปรับตัวลดลงไปต่ำสุดที่ 741.84 จุด และสูงสุดที่ 756.91จุด มูลค่าการ ซื้อขายโดยรวมอยู่ที่ระดับ 25,877.13 ล้านบาท

การซื้อขายของนักลงทุนรายกลุ่ม ปรากฏว่านักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,546.57 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 726.48 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,820.09 ล้านบาท

ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุด คือ กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ โดยดัชนีกลุ่มปิดที่ 1,111.18 จุด ลดลง 47.77 จุด หรือ 4.12% มูลค่าการซื้อขาย 1,595.94 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน และสาธารณูปโภค โดยดัชนีกลุ่มปิดที่ 15,630.38 จุด ลดลง 490.55 จุด หรือ 3.04% มูลค่าการซื้อขาย 4,771.05 ล้านบาท

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด กล่าวว่าวานนี้ตลาดหุ้นปรับตัวค่อนข้างแรง โดยประเด็นหลักนักลงทุนกังวลเรื่องการชุมนุมในวันที่ 4 ก.พ.นี้ ซึ่งยังไม่มีใครสามารถประเมินสถานการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และจะมีเหตุร้ายรุนแรงจนบานปลายไปมากเท่าใด ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมาในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2548 ตลาดหุ้นไทยก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางด้านการเมืองมาแล้วครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ แรงขายที่เกิดขึ้น เนื่องจากนักลงทุนต้องการถือครองเงินสดเพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ประเด็นในเรื่องราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงก็ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นบ้าง สำหรับความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติต่อความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทย เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าจะส่งผล กระทบความเชื่อมั่นทั้งในเรื่องการขายหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SHIN รวมถึงการชุมนุมประท้วงที่จะเกิดขึ้น โดยทั้ง 2 เรื่องคงเป็นเพียงปัจจัยเสี่ยงของการลงทุน ทำให้นักลงทุนกลุ่มหนึ่งต้องการลดความเสี่ยงด้วยการขายหุ้นออกมา

ด้านการลงทุนในวันนี้ คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวในแดนลบ ซึ่งทางเทคนิคหากดัชนีปรับลดลงหลุดกรอบแนวรับที่ 735-738 จุด อาจจะส่งผลให้ดัชนีน่าจะปรับลดลงได้อีก

แหล่งข่าวนักวิเคราะห์ กล่าวว่า ในช่วงระหว่างการซื้อขายของวานนี้มีข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองหลายเรื่องทั้งเรื่องการเตรียมตัวออกนอกประเทศของนายกรัฐมนตรี และการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงขึ้นในวันเสาร์นี้ ซึ่งเป็นวันที่จะมีการชุมนุมครั้งใหญ่และคาดว่าจะคนเข้ามาร่วมชุมนุมมากกว่าแสนคน โดยมีข่าวลือเข้ามาอย่างต่อเนื่องว่าในฝ่ายของทหาร อาจจะมีการแบ่งฝ่ายกันและอาจจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นในระหว่างวัน และอาจจะส่งผลให้เกิดเหตุการณ์บานปลายจนเกินการควบคุมได้

ทั้งนี้ นักลงทุนในประเทศค่อนข้างหวั่นไหวกับกระแสข่าวทั้งข่าวลือและข่าวจริงค่อนข้างมากจึงทำให้มีการเทขายหุ้นออกมาอย่างมาก ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลดลงรุนแรงเพื่อรอประเมินสถานการณ์ความรุนแรงอีกครั้ง ซึ่งหากการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นไม่มีความรุนแรง ก็อาจจะทำให้การกลับมาซื้อขายหุ้นอีกครั้งในวันจันทร์กลับมาสดใสอีกครั้งก็ได้ TPI วูบต่อ 5%

สำหรับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด คือ หุ้น บมจ.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย หรือ TPI ราคาปิดที่ 7.40 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ 5.13% มูลค่าการซื้อขาย 2,595.27 ล้านบาท, หุ้น บมจ.ปตท. หรือ PTT ราคาปิดที่ 256 บาท ลดลง 8 บาท หรือ 3.03% มูลค่าการซื้อขาย 1,756.18 ล้านบาท, หุ้น บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP ราคาปิดที่ 540 บาท ลดลง 20 บาท หรือ 3.57% มูลค่าการซื้อขาย 1,304.67 ล้านบาท

นายอมเรศ สิงห์ณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด กล่าวว่า การปรับลดลงของราคหุ้น TPI ค่อนข้างรุนแรงคงไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ศาลล้มละลายกลางเลื่อนการพิจารณาให้บริษัทออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากประเด็นในเรื่องดังกล่าวน่าจะสะท้อนในแง่ของราคาหุ้นไปแล้ว

ทั้งนี้ สาเหตุที่สำคัญน่าจะเกี่ยวข้องกับความกังวลในเรื่องความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ในวันที่ 4 ก.พ.นี้ ด้านสัญญาณทางเทคนิคของราคาหุ้น TPI แนวรับแรกอยู่ที่ 7.40 บาท แนวรับถัดไปอยู่ที่ 7.00 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 7.75 บาท ทั้งนี้นักลงทุนควรจะต้องพิจารณาสถานการณ์ที่อาจจะกระทบก่อนตัดสินลงทุน บิ๊ก ปตท.เชื่อตลาดหุ้นวูบช่วงสั้น

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า สาเหตุที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงแรงวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลประเด็นทางการเมือง ประกอบกับนักลงทุนบางส่วนเริ่มมีการเทขายทำกำไรหุ้นออกมาเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับขึ้นไปค่อนข้างมาก

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าภาวะตลาดหุ้นเช่นนี้จะเกิดขึ้นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของประเทศไทยยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่นักลงทุนไทยอาจจะอ่อนไหวกับปัจจัยลบที่เข้ามากระทบบ้าง ทั้งนี้เชื่อว่าในต้นสัปดาห์หน้า ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นน่าจะดีขึ้น หลังจากที่ปัจจัยลบต่างๆ คลี่คลายลงไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us