Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 กุมภาพันธ์ 2549
PRANDAตั้งเป้ายอดขายโต12% หลังปี48เจอพิษราคาน้ำมัน-ทองพุ่งฉุดกำไร             
 


   
www resources

โฮมเพจบริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

แพรนด้า จิวเวลรี่, บจก.
สุนันทา เตียสุวรรณ์
Jewelry and Gold




แพรนด้า จิวเวลรี่ มั่นใจยอดขายปี 49 โต 12% ไม่หวั่นปี 48 พลาดเป้าเติบโตเพียง 7% เหตุราคาน้ำมันและทองคำพุ่ง ส่งผลให้ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อสินค้า ปีนี้เดินหน้าอัดงบ 70 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตและซื้อเครื่องจักรใหม่สร้าง VALLUE ADD ให้สินค้า ยันจะรักษาระดับกรอสมาร์จินไว้ไม่ต่ำกว่า 35% แม้ราคาต้นทุนทะยานแต่ผลักภาระให้ลูกค้าได้

นางสุนันทา เตียสุวรรณ์ ประธานบริหารการเงิน กลุ่มบริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด(มหาชน) (PRANDA) เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 12% หรือประมาณ 3,800 ล้านบาท โดยปี 48 บริษัทมียอดขายประมาณ 3,500 ล้านบาท หรือเติบโตจากปี 47 เพียง 7% เนื่องจากผลกระทบที่เกิดจากภาวะ ราคาน้ำมันพุ่ง ราคาทองคำในตลาด โลกปรับเพิ่มต่อเนื่อง รวมทั้งอัตราดอกเบี้ย ส่งผลต่อออเดอร์ของลูกค้า ที่สั่งซื้อสินค้าเพื่อไปจำหน่าย เพราะประชาชนก็รอดูทิศทางของปัจจัยที่มา กระทบทั่วโลกเช่นกัน

"ปกติเราจะเติบโตปีละ 10% แต่ ด้วยภาวะที่กล่าวมาแล้วทำให้เราต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย เพราะเป็นจากการชะลอการซื้อสินค้า ซึ่งเวลาที่ราคาทองคำแกว่งตัว ลูกค้าก็จะรอดูสถานการณ์"นางสุนันทากล่าว

อย่างไรก็ตาม ปีนี้การเติบโตในระดับดังกล่าว PRANDA จะสามารถ ทำได้ตามเป้าหมาย เพราะแม้ว่าผลงาน ของบริษัทไตรมาส 3 ปี 48 จะลดลง เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง แต่ไตรมาส 4 รายได้โตขึ้น และจากออเดอร์ที่เข้า มายังบริษัทเพียงไตรมาสแรกปี 49 คิด เป็น 20% ของยอดขายโดยรวมของบริษัทแล้ว

ขณะที่บริษัทมีกรอสมาร์จินประมาณ 35% และจะรักษาตัวเลขนี้ไว้ แม้ว่าราคาวัสดุจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯผลิตสินค้าตามออเดอร์ของลูกค้า โดยที่ไม่ได้มีการผลิต ล่วงหน้า อีกทั้งสามารถผลักภาระให้แก่ลูกค้าได้หากต้นทุนปรับเพิ่มขึ้น สำหรับ PRANDA มียอดการส่งออก เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

โดยเฉลี่ยปีละมากกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งยอดขายในระดับนี้ การ เติบโตของบริษัทจะไม่ทะยานเหมือนธุรกิจอื่น ซึ่งการเติบโตของบริษัทใน ปีนี้ก็เช่นกัน จะเป็นผลต่อเนื่องจากผลของการลงทุนเมื่อปี 48 ที่บริษัทได้ขยายฐานการตลาดเพิ่มขึ้น ทั้ง สหรัฐฯ ละตินอเมริกา ยุโรป ฝรั่งเศส อิตาลี และประเทศในทวีปเอเชียอย่างทั่วถึง พร้อมกับบริษัทได้เจาะตลาดไปยังประเทศที่เป็นตลาดใหม่ในประเทศที่มีศักยภาพ ทั้งกลุ่มยุโรปตะวันออก เยอรมนี รัสเซีย โรมาเนีย เป็นต้น ลงทุนใน PRANDA & KROLL GMB H & CO.,KG เพื่อเป็นฐานการจำหน่ายในเยอรมนี รวมทั้งตลาดในแถบยุโรปตะวันออกและเพิ่มการจำหน่ายเครื่องประดับ Prima Gold, Prima Daimond Century Gold, Esse ทั้งในและต่างประเทศ โดยในปี 2549 ทาง บริษัทฯ ก็จะมีทิศทางที่จะจำหน่ายเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ของ บริษัทฯ เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ การที่บริษัทได้ไปสร้างฐานการผลิตที่เมืองกวางโจวในจีน พร้อมกับเจาะตลาดในประเทศดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีกจะเป็นการสร้างรายได้เข้าบริษัทเพิ่มขึ้น ขณะที่อินเดีย ที่ก่อนหน้านี้ PRANDA ตั้งใจที่จะเข้า ไปสร้างโรงงาน เพื่อผลิตอัญมณีจำหน่าย เพราะประเทศดังกล่าวประชากรมีจำนวนมากและกลุ่มลูกค้า เป้าหมายตอบรับสินค้าของบริษัทมีพอสมควร แต่หลังจากที่มีการเจรจาของ FTA จะไม่ต้องเสียภาษีในการส่งออกหรือนำเข้า เพราะจะทำให้ความ สามารถในการทำการค้าขายได้อย่างเสรีมากขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องสร้างโรงงาน แต่จะทำในส่วนของการตั้ง shop เพื่อจำหน่ายสินค้าแทน ซึ่งปัจจุบัน PRANDA มีตลาดหลักอยู่ที่ สหรัฐฯ 40% ยุโรป 35% และตลาดในประเทศ

นางสุนันทากล่าวต่อว่า แผนงาน ปี 49 นั้น เป็นการลงทุนต่อเนื่องจากปี 48 ที่บริษัทได้เตรียมลงทุนที่จะขยายการผลิตเครื่องประดับอัญมณี ด้วยงบ 70 ล้านบาท โดย 40 ล้านบาท เป็นการรองรับการฐานการผลิตของ บริษัท คริสตัลไลน์ จำกัด ทั้งในกรุงเทพฯและโรงงานที่นครราชสีมา หากมีออเดอร์เข้ามาก็จะทำให้เพิ่มการ ผลิตได้ทันที ส่วนอีก 30 ล้านบาท เป็นการลงทุนในการปรับปรุงเครื่องจักรของโรงงาน PRANDA เพื่อ ทดแทนเครื่องจักรเก่า ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้แกˆสินค้าที่ผลิตด้วย

สำหรับการจ่ายเงินปันผลนั้น PRANDA ยังจะจ่ายปันผลต่อเนื่อง โดยปี 47 บริษัทจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือ หุ้นอัตรา 65 สตางค์ต่อหุ้น ซึ่งกำหนด จ่ายไม่ต่ำกว่า 60% ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน และต้องได้รับการอนุมัติจากมติคณะกรรมการบริษัทด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us