Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2540








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2540
"ดร. กนกวรรณ ว่องวัฒนะสิน LEARNING BY DOING"             
 


   
search resources

กนกวรรณ ว่องวัฒนะสิน
Networking and Internet




ความคลี่คลายของเหตุการณ์มักจะทำให้มนุษย์แสดงภูมิปัญญาได้ในแบบฉลาดเท่า ๆ กัน แต่ก่อนเกิดเหตุการณ์มนุษย์ก็มักจะมืดแปดด้านไปหมด เรื่องเช่นนี้เป็นจริง ไม่ว่าจะในกรณีเงินบาทลอยตัว และอินเตอร์เน็ต

ในกรณีอินเตอร์เน็ต สังคมไทยมักจะได้ยินคำพูดในทำนองค่าบริการแพง แต่พอถามว่า แพงอย่างไร? น้อยคนนักที่จะตอบได้ เดือดร้อนถึงสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ต้องตั้งคณะวิจัยกันอย่างจริงจัง

การเปรียบเทียบค่าบริการอินเตอร์เน็ตว่า ถูกหรือแพง ไม่ง่ายเหมือนเปรียบเทียบค่าแท็กซี่แน่ ๆ แต่ระยะหลัง ดร. กนกวรรณ ว่องวัฒนะสิน ก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ และเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตได้อย่างน่าสนใจ

อย่างน้อยเธอก็พูดด้วยน้ำใสใจจริงมิใช่หรือ?

วงการไอทีมีผู้หญิงเก่งอยู่ไม่น้อย ดร. กนกวรรณก็เป็นคนหนึ่งที่ทั้งเก่งและทั้งสวยทีเดียว

สองปีกว่ามาแล้วที่เธออยู่ในฐานะผู้บริหารของบริษัท เคเอสซี คอมเมอร์เชี่ยล อินเตอร์เน็ต จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ไอเอสพี) ชั้นแนวหน้า ในชื่อบริการว่า "เคเอสซี คอมเน็ต" มีผู้ร่วมผลักดันงานคือ ศาสตราจารย์ ดร. ศรีศักดิ์ จามรมาน รั้งตำแหน่งประธานกรรมการ

แต่แรก ดร. กนกวรรณ ค่อนข้างจะถูกมองว่าเป็นพระอันดับแบบสวย ๆ งาม ๆ มี ดร. ศรีศักดิ์คอยฝึกปรือประคับประคองอยู่เคียงข้าง แต่เดี๋ยวนี้สายตาที่ทอดไปยังเธอเปลี่ยนไปในเชิงยอมรับ

ผู้บริหารวัยสามสิบกว่า ๆ ท่านนี้มีฝีมือและฝีปากคมคายขึ้นทุกวัน เนื่องจากการเป็นไอเอสพีมิใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด แต่ละปัญหามิใช่จะแก้ง่าย ๆ เช่น ปัญหาค่าเช่าวงจรแพงก็ต้องคุยกับการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ซึ่งเป็นหุ้นส่วนประเภทหุ้นลม ปัญหาสายโทรศัพท์ใช้ได้ไม่เต็มศักยภาพ หรือใช้ได้เพียง 25% ของจำนวนหมายเลขที่ทำสัญญาเช่าก็ต้องคุยกับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) สองหน่วยงานนี้ออกจะยิ่งใหญ่คับฟ้า ยากที่ใครจะแตะต้องได้

ปัญหาคุณภาพบริการ ผู้ใช้ก็โยนบาปให้กับไอเอสพีเพราะไม่เข้าใจเนื้อแท้ของปัญหาว่า เกิดจากหน่วยราชการที่ประพฤติเยี่ยงเจ้าใหญ่นายโต ในภาวะเช่นนี้ ทางเลือกของ ดร. กนกวรรณ คือ ถ้าไม่คิดเป็นหญิงแกร่ง ก็ต้องกลายเป็น "หญิงกรอบ" นั่นเอง

ดูเหมือนเธอจะเลือกอย่างแรก "ผู้ที่ทำอินเตอร์เน็ตขาดทุนกันทุกราย แต่คนก็มักจะตั้งคำถามว่า ขาดทุนแล้วทำไมถึงทำล่ะ ดิฉันก็ขอตอบว่า ที่เราทำก็เพราะยังมีความหวังว่าระบบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ มันจะดีขึ้น คราวนี้ถ้าถามว่าขาดทุนแล้วยังอยู่ได้อย่างไร ก็คงต้องตอบว่า อาศัยสายป่านยาว" ดร. กนกวรรณกล่าว

ในความเข้าใจของเธอ ไอเอสพีทั้งสิบสองราย ต่างเข้าสู่ธุรกิจนี้ด้วยการ "learning By Doing" มิใช่รู้ตื้นลึกหนาบางไปเสียทุกเรื่อง เพียงแค่เห็นว่าเป็นธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มน่าสนใจ ก็โดดเข้ามาทำ เข้าทำนองจะตกรถไฟขบวนนี้ไม่ได้ แต่ยิ่งทำก็ยิ่งพบปัญหา

ดร. กนกวรรณไม่เห็นด้วยที่จะนำบริการอินเตอร์เน็ตไปเปรียบเทียบกับ บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการเพจเจอร์ เพราะถือว่า อินเตอร์เน็ตเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญสูงสุด ก่อให้เกิดธุรกิจตามมาอีกมากมาย นอกจากนี้เธอยังเน้นเป็นพิเศษว่า "โทรศัพท์และเพจเจอร์ถือได้ว่า เป็นธุรกิจที่ได้สัมปทานจึงมีมาร์จินที่จะเอาไปจ่ายแก่หน่วยงานของรัฐได้ในขณะที่อินเตอร์เน็ตนั้นเข้าข่ายเปิดเสรีไปแล้ว มีการแข่งขันสูง จึงยากที่จะมีผลกำไรไปจ่ายให้แก่หน่วยงานของรัฐ"

เดิมทีดูเหมือน กสท. หวังคุมกำเนิดอินเตอร์เน็ต โดยจะให้มีไอเอสพีแค่ 2-3 รายและเคเอสซี ก็หลงเชื่อ แต่แล้ว กสท. ก็ทานกระแสคัดค้านไม่ไหว อนุมัติให้มีไอเอสพีไปแล้วถึง 12 ราย เคเอสซีจึงพบการแข่งขันหนักหน่วงถึงขั้นตัดราคา

ดร. กนกวรรณจึงดูจะเงียบต่อไปไม่ได้แล้ว จึงกล้าแสดงความเห็นสวนทาง กสท. โดยไม่คร้ามเกรง ก็ใช่ว่า กสท. จะพอใจหรอกเพราะท่าทีเช่นนี้เป็นการสะท้อนความขัดแย้งระหว่างไอเอสพีกับ กสท. หลังจากถ้อยทีถ้อยอาศัยในแบบไอเอสพีต้องอัดอั้นมาโดยตลอด

เมื่อไม่นานมานี้ ดร. พานิช เหล่าศิริรัตน์นักวิชาการแห่งสำนักเลขานุการคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ (NTC) ก็เคยวิจารณ์ กสท. ในงานสัมมนาครั้งหนึ่งว่า "ถ้าอยากให้การบริการอินเตอร์เน็ตมีคุณภาพก็ต้องเลิกการผูกขาดของ กสท." ทำให้ผู้บริหารบางระดับของ กสท. ไม่พอใจมาก

"เขาคงไม่รู้สินะว่าในการสัมมนาวันนั้น ก็มีคนของ กสท. เข้าไปฟังอยู่ด้วย เขาวิจารณ์ กสท. อย่างไม่มีเหตุผล ต่างก็เป็นหน่วยงานราชการด้วยกันแล้วมาด่ากันทำไม" แหล่งข่าวใน กสท. กล่าวกับ "ผู้จัดการรายเดือน"

ปัญหาเฉพาะหน้าของ ดร. กนกวรรณในเวลานี้ ก็คงจะเป็นเรื่องพิษเงินบาทลอยตัว ส่งผลกระทบไอเอสพีและวงการไอทีหนักหน่วง เพราะย่อมทำให้ต้นทุนสูงขึ้นและยูสเซอร์ก็คงชะลอการใช้บริการ

อย่าว่าแต่เป็นสมาชิกอินเตอร์เน็ตเลย เอาแค่จะซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่มาทำฉุยฉาย ก็คงต้องชะลอการซื้อออกไปก่อน แนวโน้มรายได้ของไอเอสพีในปีนี้จะลดลง และแอพพลิเคชั่นด้านบริการที่ไม่สำคัญ ก็ย่อมจะถูกตัดไป

นี่เป็นเรื่องที่ ดร. กนกวรรณพอทำใจได้ เพราะเป็นวงจรขึ้นลงของเศรษฐกิจ อีกทั้งในระยะที่ผ่านมา ก็มีเรื่องที่ทำให้เธอมีความสุขใจจนพอจะหักลบกันได้คือ การได้รับดุษฎีบัณฑิตด้านอินเตอร์เน็ต เป็นคนแรกของประเทศไทย โดยที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) จัดพิธีประสาทปริญญาให้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

วิทยานิพนธ์ชิ้นสำคัญของ ดร. กนกวรรณ คือ "รหัสลับอินเตอร์เน็ต" มีศาสตราจารย์ ดร. ศรีศักดิ์ จามรมานเป็นที่ปรึกษา ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในเอกสารการประชุมประจำปีครั้งที่ 13 ของสมาคมนานาชาติด้านการจัดการ ซึ่งจัดประชุมที่ประเทศแคนาดา นอกจากนี้ยังได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในเอกสารการประชุมของสมาคมนานาชาติด้านการประมวลข้อมูล ซึ่งจัดประชุมที่สหรัฐอเมริกา

เปรียบเทียบกันแล้ว ปัญหาเงินบาทลอยตัวกับปัญหาจากหน่วยงานรัฐ เช่น กสท. และ ทศท. ประการหลังดูเหมือนจะทำให้เธอรู้สึก "คาใจ" มากกว่า เพราะค่าบริการที่แพง ตลอดจนสายโทรศัพท์ที่เต็มไปด้วยความคับคั่งก็อาจทำให้ลูกค้าหันไปตั้งเว็บไซต์ที่ต่างประเทศ ทำให้ไอเอสพีไทยเสียโอกาสในการแข่งขัน แต่การที่จะทำให้บริการอินเตอร์เน็ตในไทยมีราคาถูกเหมือนในสหรัฐอเมริกา ดร.กนกวรรณก็เชื่อว่ามิใช่เรื่องที่จะทำได้ง่าย ๆ

อันที่จริงการที่จะมีคนไปใช้เว็บไซต์ที่ต่างประเทศป้องกันไม่ได้ เพราะการใช้งานของแต่ละคนต่างกัน บริษัทที่ติดต่อกับต่างประเทศจะไม่ตั้งเว็บไซต์ในไทย เหตุผลคือลูกค้าอยู่ที่อเมริกา ติดต่อไปที่นั่นจะคุ้มกว่า

"อเมริกาเป็นศูนย์รวมของอินเตอร์เน็ต ไม่ต้องเสียค่า leased line (สายเช่า) มาถึงไทย ค่าบริการจึงถูกกว่า ทำอย่างไรเมืองไทยก็มีค่าบริการถูกกว่าไม่ได้แน่ แต่ถ้าเมืองไทยเป็นศูนย์กลางของอินเตอร์เน็ต อเมริกาต้องต่อเข้ามาที่ไทยบ้าง ถ้าราคายังไม่ลด อันนี้มาว่ากันได้เลย"

ยามว่างจากงานบริหาร ดร. กนกวรรณก็จะหย่อนใจอยู่กับการจัดดอกไม้ จนสิ่งนี้กลายเป็นนิสัยประจำตัวไปแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้การสะสมแจกันจึงเป็นงานอดิเรกที่เกิดขึ้นอย่างสอดคล้องกัน

วันนี้ ดร. กนกวรรณสามารถพูดคุยถึงเรื่องเหล่านี้ได้อย่างอ่อนโยนและมีสีสันต่างจากการพูดถึงอินเตอร์เน็ตในลีลาเร้าใจมากขึ้นทุกที

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us