Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2540








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2540
"เฮ้อ! เกือบไป "PCT"             
 


   
search resources

เทเลคอมเอเซีย, บมจ.
วัลลภ วิมลวณิชย์




ในที่สุดผู้บริหารของเทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น (ทีเอ) ก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อกรมไปรษณีย์โทรเลขอนุมัติคลื่นความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ มาใช้กับบริการโทรศัพท์พื้นฐานพกพา พีเอชเอส หรือ พีซีที (เพอร์ซันแนล คอมมูนิเคชั่น เทเลโฟน) เสียที หลังจากที่รอลุ้นตัวโก่งมาพักใหญ่

แม้ว่าทีเอจะได้ไฟเขียวเปิดให้บริการพีซีทีจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) แต่ก็ใช่ว่าจะเปิดให้บริการได้ทันที จะต้องขออนุมัติคลื่นความถี่มาใช้งานด้วย เนื่องจากพีซีทีนั้นเป็นระบบโทรศัพท์แบบไร้สาย (WIRLESS) จึงต้องพึ่งพาคลื่นความถี่ในการใช้งาน ดังนั้นหากไม่ได้รับการอนุมัติคลื่นความถี่ ทีเอก็ไม่สามารถเปิดให้บริการได้

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว โอกาสที่จะเปิดให้บริการได้ทันในวันที่ 1 ตุลาคม 2540 ซึ่งเป็นวันดีเดย์ที่ทีเอกำหนดไว้สำหรับเปิดให้บริการพีซีทีย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย อุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่ทีเอนำเข้ามาจึงถูกวางกองไว้ ไม่สามารถนำมาติดตั้งได้จนกว่าจะได้รับอนุมัติคลื่นความถี่ เพราะแม้ว่าผู้บริหารของทีเอจะออกมายืนยันว่า การติดตั้งพีวีทีไม่ต้องอาศัยเวลามาก เพียงแค่ติดตั้งเซลไซท์ตามจุดต่าง ๆ ก็ตาม

แต่ความล่าช้าในการให้บริการพีซีทีนั้น กระทบต่อแผนการดำเนินงาน และงบการเงินของทีเอด้วย ทีเอตั้งความหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่า บริการพีซีทีจะเป็นตัวกระตุ้นให้มีผู้ใช้โทรศัพท์มากขึ้น ซึ่งเวลานี้มียอดผู้ใช้ 1.3 ล้านเลขหมาย จากที่มีอยู่ 2.6 ล้านเลขหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพิ่มปริมาณการใช้โทรศัพท์ให้มากขึ้น เพราะเวลานี้ทีเอต้องประสบปัญหาในเรื่องของรายได้ต่อเลขหมายของทีเอไม่ตรงตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งเวลานี้ทำได้แค่ 7,000 บาทต่อเลขหมายต่อปีเท่านั้น จากที่ตั้งเป้าไว้ 1 หมื่นบาทต่อเลขหมาย ทีเอจึงหวังว่าด้วยคุณสมบัติของพีซีทีที่เพิ่มความสะดวกกับผู้ใช้ให้สามารถโทรศัพท์ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือนอกบ้าน และจะช่วยให้มีปริมาณในการโทรศัพท์มากขึ้น

เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมนี้เอง กรมไปรษณีย์โทรเลข โดยคณะกรรมการบริหารคลื่นความถี่ (กบถ.) ซึ่งมีสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ก็มีมติอนุมัติคลื่นความถี่ในช่วง 1906.1-1918.1 เมกะเฮิรตซ์ให้ทีเอ

ทันทีที่ได้รับอนุมัติคลื่นความถี่ ทีเอซึ่งนำโดย ดร. วัลลภ วิมลวณิชย์ ก็ลงมือเปิดแถลงข่าวทันทีเพื่อยืนยันว่าทีเอพร้อมแล้วที่จะเปิดให้บริการพีซีทีในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการติดตั้งเครือข่ายไปแล้วเกือบ 60% โดยมีการติดตั้งสถานีฐาน (เซลล์ไซท์) ภายนอกอาคารไปแล้ว 4,000-5,000 ต่อเดือน ส่วนภายในอาคารตามห้างสรรพสินค้า และตึกสูงจะติดตั้งให้ได้ 800 อาคารซึ่งก็ได้รับความเห็นชอบจากบรรดาเจ้าของอาคารหมดแล้ว

พื้นที่ให้บริการจะครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในกินเนื้อที่ 1,500 ตารางกิโลเมตร อาทิ สวนจตุจักร ราษฎร์บูรณะ แจ้งวัฒนะ วิภาวดี ลาดพร้าว สุขุมวิท บางลำพู เป็นต้น ส่วนกรุงเทพฯ ชั้นนอกนั้นจะขยายเพิ่มให้ครอบคลุมมากขึ้นในปีหน้า

สำหรับเครื่องลูกข่ายในช่วงแรกก็มีให้เลือก 3 ยี่ห้อ ซึ่งเป็นของค่ายญี่ปุ่นทั้งสิ้น คือ ยี่ห้อชาร์ปที่วางขายแล้ว ส่วนเอ็นอีซี และพานาโซนิคจะทยอยวางจำหน่ายระยะต่อไป

จุดหลักของบริการพีซีทีอยู่ที่การนำไปใช้นอกสถานที่ได้ โดยใช้เลขหมายเดียวกับโทรศัพท์ที่บ้านที่ทำให้จดจำง่าย ไม่พลาดการติดต่อแม้ว่าจะอยู่บ้านหรือนอกบ้าน และเครื่องลูกข่ายมีขนาดเล็กและเบามาก ค่าแอร์ไทม์และค่าบริการรายเดือนก็ถูกกว่าโทรศัพท์มือถือ แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องการใช้งาน จะใช้ได้ในขณะเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว ไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ด้วยคุณสมบัติของพีซีทีที่ใกล้เคียงกับโทรศัพท์มือถือนี้เอง จึงมีการนำเอาพีซีทีไปเปรียบเทียบกับโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา และเชื่อว่าทีเอต้องการนำพีซีทีมาต่อกรกับโทรศัพท์มือถือโดยตรง โดยอาศัยฐานลูกค้าโทรศัพท์พื้นฐานที่มีอยู่เกือบ 2.6 ล้านเลขหมาย มาผนวกกับคุณสมบัติของพีซีทีมาสร้างความต้องการใหม่ให้กับผู้บริโภค

ยังไม่ทันที่พีซีทีจะเริ่มให้บริการ ก็ได้รับการต้อนรับน้องใหม่จากค่ายเอไอเอสแล้ว ด้วยการจัดโปรโมชั่น "แฟมิลี่ 900" ให้ผู้ที่ใช้โทรศัพท์ในระบบเซลลูลาร์ 900 สามารถซื้อเครื่องลูกข่ายเครื่องที่ 2 ใช้เบอร์เดียวกับเครื่องเดิมในราคา 7,990 บาท และยังคิดค่าใช้บริการรายเดือนเพียงแค่ 200 บาท ซึ่งการจัดแคมเปญในลักษณะนี้เท่ากับเป็นการต้อนรับพีซีทีโดยเฉพาะ เพราะนำเอาคุณสมบัติของพีซีทีมาใช้ประโยชน์ในแคมเปญนี้ทั้งหมด แถมยังตอกย้ำให้เห็นถึงข้อด้อยของพีซีทีในเรื่องข้อจำกัดในด้านการเคลื่อนที่

"เราถือว่าพีซีทีไม่ใช่โทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่ก็ดีใจที่มีคนลดตัวจากโทรศัพท์มือถือมาแข่งกับเรา" ดร.วัลลภ กล่าวไว้

แน่นอนว่าทีเอย่อมตระหนักถึงศึกในครั้งนี้เป็นอย่างดี จึงได้เริ่มนำกลยุทธ์ทางการตลาดมาใช้ พร้อมกับเปิดตัวผู้บริหารคนใหม่ที่ชื่อเกษม กรณ์เสรี ผู้บริหารของห้องเสื้อฟลายนาว เคยผ่านประสบการณ์ในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ และโรงพยาบาล เพื่อมารับตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดของพีซีที

ผลจากการเดินเครื่องเกมการตลาด ด้วยการจัดโปรโมชั่นให้กับผู้จองโทรศัพท์พื้นฐานของทีเอจะได้รับโทรศัพท์พกพาพีซีทีในราคา 6,900 บาท ทำให้มียอดจองในมือ 1 แสนเครื่อง

นอกจากนี้ทีเอยังมีความหวังว่าจะให้เลขหมายของ ทศท. ที่ใช้โครงข่ายพีซีทีของทีเอร่วมกันด้วย ซึ่ง ดร.วัลลภ กล่าวว่า โครงการพีซีทีของทีเอนั้นสามารถรองรับกับเลขหมายของโทรศัพท์พื้นฐานขององค์การโทรศัพท์ และหากเป็นไปตามข้อตกลงพีซีทีจะมีการใช้งานที่กว้างขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะแค่เบอร์ของทีเอแต่ครอบคลุมไปถึง เบอร์ของ ทศท. ที่มีอยู่ 2 ล้านเลขหมาย และที่สำคัญทีเอจะมีรายได้จากส่วนแบ่งที่ ทศท.จะต้องจ่ายเพื่อเป็นค่าใช้เครือข่าย

แต่ดูเหมือนกับโชคจะไม่เข้าข้างพีซีทีเท่าไหร่นัก เพราะยังไม่ทันเปิดให้บริการ ทีเอก็ต้องเจอกับนโยบายค่าเงินบาทลอยตัว ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนของธุรกิจที่ต้องนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่ต้องเพิ่มขึ้น และทีเอก็หนีไม่พ้นกับสภาพนี้

"ทีเอได้รับผลกระทบแน่นอน แต่ทีเอสามารถบริหารได้ เพราะเราเป็นเงินกู้ระยะยาว แต่แผนงานเพื่อรับมือกับการแข่งขันเพื่อให้ได้ส่วนแบ่งตลาด ก็ยังมีอยู่ ราคาสินค้าของทีเอเราจะยืนราคาเดิม พีซีทีจะยังคงยืนราคา 9,000 บาท เพื่อให้มีผลกระทบต่อผู้บริโภคน้อยที่สุด" คำชี้แจงของ ดร.วัลลภ

ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น บวกกับการแข่งขันที่รออยู่ข้างหน้า งานนี้ต้องรอลุ้นว่าพีซีทีจะไปได้สวยหรือไม่ ซึ่งดร.วัลลภ ยอมรับ ธุรกิจช่วงนี้ต้องอาศัยความกล้า และวิธีการที่เหมาะสมที่สุด

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us