Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 กุมภาพันธ์ 2549
ผู้ถือหุ้นSFPเตรียมเฮรับปันผล หลังผู้สอบบัญชีเห็นชอบงบฯ             
 


   
search resources

อาหารสยาม, บมจ.




บอร์ด SFP เผยมติบอร์ดพร้อมพิจารณาการจ่ายปันผลงวดปี 2548 ซึ่งจะรู้ผล 28 กุมภาพันธ์นี้และแจ้งต่อผู้ถือหุ้นทันที หลังจากงบการเงินในงวดดังกล่าวได้รับการตรวจสอบและรับรองจากผู้สอบบัญชี และไม่จัดสรรเงินสำรองตามกฎหมายเพิ่มพร้อมแต่งตั้งนายกำพล ตติยกวี เป็นผู้จัดการทั่วไป ขณะที่ นายวิวัฒน์ จรัญวาศน์ ได้ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการ ผู้จัดการโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2549
นายวิวัฒน์ จรัญวาศน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาหารสยาม จำกัด (มหาชน)(SFP) เปิดเผยว่า มติประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 132 ในวันที่ 31 มกราคม 2549 กำหนดวันประชุมสามัญ ครั้งที่ 14 ในวันจันทร์ที่ 17 เมษายน 2549 เวลา 14.00 น. โดยที่ประชุมรับรองการประชุมสามัญครั้งที่ 13 พร้อมอนุมัติงบกำไรขาดทุน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 ซึ่งผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบแล้ว

พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการยังพิจารณาการจัดสรรเงินปันผล จากผลประกอบการงวด 1 มกราคม 2548 ถึง 31 ธันวาคม 2548 ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 เนื่องจากงบการเงินสำหรับปี 2548 ยังไม่ได้ตรวจสอบและรับรองจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ของบริษัท โดยบริษัทจะแจ้งผลการ พิจารณาให้ทราบทันที เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติในวันดังกล่าว ซึ่งบอร์ดพิจารณาว่าไม่ควรจัดสรรเพิ่มอีก เนื่องจากได้จัดสรรเงินสำรองตามกฎหมายไว้ 30 ล้านบาท ครบร้อยละสิบของทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาทแล้ว

นอกจากนี้ บอร์ดยังมีมติไม่ต้อง จัดสรรเงินบำเหน็จแก่กรรมการ เนื่องจากผลประกอบการไม่ดีเท่าที่ควร สำหรับเบี้ยประชุม ให้ที่ประชุมพิจารณาตามที่เห็นสมควร พร้อมเลือกตั้งกรรมการแทนผู้ถึงคราวออกตามวาระกรรมการผู้ถึงคราวออกตาม วาระมี 4 คน คือ นายนิพนธ์ จรัญวาศน์, นายเค็นเน็ท กอศิริโสภณ, นางสาวจุรีพร วิทยสินธนา, ดร.วิลาศ สินสวัสดิ์ ซึ่งจะพิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระตามความเหมาะสม

พร้อมกับให้ผู้ถือหุ้นสมควรพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการตรวจสอบที่เสนอแต่งตั้ง นายสมชาย คุรุจิตโกศล ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3277 หรือนายอำพล จำนงค์วัฒน์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 4663 แห่งบริษัท เอส.เค.แอคเคาน์แต้นท์ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นผู้สอบบัญชีประจำปี 2549 โดยให้ได้รับเงินค่าสอบบัญชีปีละ 680,000 บาท

นายวิวัฒน์ยังกล่าวอีกว่าบอร์ดได้พิจารณาอนุมัติวงเงินกู้ให้แก่ บริษัทร่วม และบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด อินดัสเตรียลเอสเตท (ระยอง) จำกัด บริษัท สยาม อะโกร โพรดิ้วส์ จำกัด บริษัท อินซีซั่นส์ ฟูดส์ จำกัด และ Alliance Sales (Europe) Limited เพื่อใช้เป็นเงินทุน หมุนเวียนของกิจการในวงเงินรวมทั้งสิ้น 150 ล้านบาท โดยบริษัทจะคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ไม่ต่ำกว่าต้นทุนทาง การเงินของบริษัท หรือตามภาวะของอัตราดอกเบี้ยในตลาด ณ วันที่มีการให้กู้ยืม และไม่เข้าข่าย การทำรายการ ที่เกี่ยวโยงกัน ตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการเข้าประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 14 ในวันอังคารที่ 28 มีนาคม 2549 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมสามัญครั้งดังกล่าวจะแล้วเสร็จ พร้อมกันนี้ SFP ยังแจ้งอีกว่านายวิวัฒน์ จรัญวาศน์ กรรมการผู้จัดการ ได้ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2549 แต่ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัทต่อไป ในการนี้บริษัทได้แต่งตั้ง นายกำพล ตติยกวี เป็นผู้จัดการทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2549

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี48 พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 4.54 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 5.14 ล้านบาท ส่งผลให้จากเดิมที่ขาดทุน 0.25 บาท เป็น มีกำไรต่อหุ้น 0.22 บาท เนื่องจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น และมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยบางแห่งเพิ่มขึ้น ขณะที่รับรู้ผลขาดทุนจากบริษัทย่อยลดลง และต้นทุนขายลด จากการควบคุมค่าใช้จ่ายและต้นทุนวัตถุดิบให้ต่ำลง อีกทั้งขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนปี 2548 ลดลงกว่าปีก่อนหน้า   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us