กระทิงแดง ชูการตลาดปีจอ เน้นยกระดับภาพลักษณ์ทันสมัย สร้างฐานกลุ่มผู้ใช้แรงงานวัยรุ่น ผุดมิวสิกมาร์เกตติ้งวงสตริงครั้งแรก ทุ่ม 30 ล้านบาท ดึงศิลปินค่ายอาร์.เอส.ฯ ไอน้ำ-เกิร์ลรี่ เบอรี่ ทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศนาน 4 เดือน พร้อมควงสี่พันธมิตรอัดกลยุทธ์เอนเตอร์ เทนเมนต์ มาร์เกตติ้งสร้างสีสันตลาด ตั้งเป้าขยาย กลุ่มวัยรุ่น 15% ระบุตลาดชูกำลังปีนี้โต 1-5% สามค่ายอัดฉีด งบตลาดรวมแล้วแค่ 1,000 ล้านบาท

นายสาธิต สถีระศรินทร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มกระทิงแดง เปิดเผยว่า เพื่อ ให้ธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นปีนี้บริษัทจึงเน้นขยายฐานกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นซึ่งเป็นผู้ใช้แรงงานระดับซีในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากพบว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มวัยรุ่นที่ใช้แรงงาน เริ่มทดลองดื่มเครื่องดื่ม ชูกำลังในช่วงอายุที่น้อยลงคือประมาณ 15 ปี สำหรับแผนการตลาดบริษัทให้ความสำคัญกับการ ยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์กระทิงแดงให้ดูมีความทันสมัย ภายใต้การจัดกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ 4 รายหลัก ประกอบด้วย ดีแทค มาม่า จักรยานยนต์ฮอนด้า และโทรศัพท์เคลื่อนที่โมโตโรล่า ในแนวเอนเตอร์เทนเมนต์ มาร์เกตติ้ง เพื่อสร้างประสบการณ์ระหว่างผู้บริโภค กับตราสินค้า ขณะเดียวกันปีนี้บริษัทยังคงเน้นกลยุทธ์มิวสิกมาร์เกตติ้ง 2 รูปแบบ คือ คอนเสิร์ต วงสตริงเจาะกลุ่มวัยรุ่น และคอนเสิร์ตลูกทุ่งเพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า

ล่าสุดได้ทุ่มงบ 30 ล้านบาท จับมือกับ อาร์.เอส.โปรโมชั่น เปิดตัว "กระทิงแดง ฮอตคอนเสิร์ต" นำโดยวงศิลปินวงไอน้ำ วงเกียร์ ไนท์ และสี่สาวเกิร์ลรี่ เบอรี่ ทัวร์คอนเสิร์ตตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม 16 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่ง นับเป็นครั้งแรกที่กระทิงแดงนำวงดนตรีสตริง มาตอกย้ำกลยุทธ์มิวสิกมาร์เกตติ้งให้มีความแข็งแกร่ง และขยายฐานกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งกระตุ้นและตอกย้ำให้กลุ่มเป้าหมายจดจำและเข้าไปนั่งอยู่ในใจผู้บริโภค หลังจากก่อนนี้ จะมีแต่เฉพาะคอนเสิร์ตลูกทุ่งเท่านั้น โดยกลยุทธ์ มิวสิกมาร์เกตติ้งบริษัทจะเน้นในส่วนของภาคอีสาน 70% เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ที่สุด ส่วนอีก 30% เป็นภาคอื่นๆ นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมกับดีแทค จัดกิจกรรมส่งเอสเอ็มเอส และรายการตีสิบ เปิดเวที "ดันดารา สัญจร ออนทัวร์ กับกระทิงแดง"เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ขึ้นมาแสดงความสามารถ พร้อมแจ้งเกิดในวงการบันเทิง โดยตั้งเป้า บริษัทจะสามารถขยายกลุ่มวัยรุ่นกว่า 15%

ภาวะตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปีนี้มูลค่า 15,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตไม่มากนักราว 1-5% เมื่อ เทียบกับปี 2548 ตลาดมีอัตราการเติบ 1% จากเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาเติบโต 17% ต่อปี สภาพตลาดที่เติบโตน้อยทำให้แนวโน้มการแข่งขันมีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะกลยุทธ์การแข่งขันเจาะเฉพาะพื้นที่มากขึ้น สำหรับกลยุทธ์หลักๆ ของแต่และค่าย คือ การงัดคอนซูเมอร์โปรโมชัน อินสแตนวิน หรือนำฝาไปแลกของขึ้น กระทั่งการอัดเทรดโปรโมชันให้กับทางร้านค้า ส่วนด้านงบการตลาดของแต่ละค่ายปีนี้คาดว่าจะไม่รุนแรง มากนัก โดยคาดว่าทุกค่ายใช้งบรวมกัน คาราบาว แดง กระทิงแดง เอ็ม 150 น่าจะใช้งบแตะที่ 1,000 ล้านบาท จากเดิมแต่ละค่ายใช้งบการตลาด ถึงปีละ 500 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมากระทิงแดงใช้งบการตลาด 300 ล้านบาท

"ปีนี้การทำงานคอนซูเมอร์โปรโมชันคงจะต้องเหนื่อยมากขึ้น เพราะทุกค่ายทำกันหมดและมากขึ้น ในส่วนนี้กระทิงแดงก็มีการตลาดในเชิงรุก เพื่อรองรับการแข่งขันในลักษณะนี้เช่นกัน แม้ว่าที่ผ่านมาภาครัฐจะห้ามทำคอนซูเมอร์โปรโมชัน แต่ก็ไม่ได้เข้มงวดมากนัก ซึ่งเมื่อค่ายอื่นๆทำกระทิงแดงก็ต้องทำด้วยเช่นกัน โดยขณะนี้ในร้านค้าทั่วประเทศ 2.8-2.9 แสนแห่ง กระทิงแดงสามารถกระจายสินค้าได้ 96-97%"

พร้อมกันนี้บริษัทเองกำลังระหว่างอยู่ในช่วง ของการพัฒนาสินค้าใหม่อยู่ โดยสินค้าที่ออกมาใหม่จะต้องมีมูลค่าเพิ่ม เช่น ใส่กลิ่นหรือสารประกอบบางอย่างลงไป เพื่อขยายฐานหาลูกค้าใหม่ ให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนด้านพรีเซ็นเตอร์ นั้นขณะนี้เต๋า-สมชาย เข็มกลัด และออฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง หมดสัญญาแล้ว ส่วนการที่กระทิงแดงจะนำเซเลบริตี้ตอกย้ำภาพลักษณ์แนวคิดลูกผู้ชายกระทิงแดงหรือไม่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ แต่หลักในการเลือกพรีเซ็นเตอร์จะต้องสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์กระทิงแดง