Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน1 กุมภาพันธ์ 2549
วังทองดันประกันซื้อคืนบ้าน บล็อกต้นทุนดบ.แทนกู้แบงก์             
 


   
www resources

วังทองกรุ๊ป

   
search resources

วังทองกรุ๊ป
Real Estate




"วังทอง กรุ๊ป" เปิดช่องทางระดมทุนใหม่ผ่านแคมเปญ "รับประกันการันตีซื้อคืนบ้าน" เผยแผนปี 49 เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮาส์ พ่วงคอนโดฯราคาถูก รวม 7 โครงการ มูลค่าขายกว่า 1,500-2,000 กว่าล้านบาท แจงยังยึดกลุ่มลูกค้ากลาง-ล่าง ระบุกำลังซื้อลดต้องหันทำบ้านราคาต่ำ พร้อมเจาะเพิ่มทำเลใหม่บางนา, เอกมัย-รามอินทรา, อ่อนนุช, ประชาชื่น ตั้งเป้ายอดขาย 3,000 ล้านบาท

นายปราโมทย์ เจษฎาวรางกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วังทองกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เปิดกลยุทธ์ทางการตลาด ภายใต้แคมเปญใหม่ "รับประกันการันตีซื้อคืนบ้าน" หรือ "ให้บ้าน..หาเงินแทนคุณ" โดยเป็น การระดมเงินรูปแบบใหม่ เพื่อนำรายได้จากการขายไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน ในการก่อสร้างหรือซื้อที่ดินในการพัฒนาโครงการใหม่ ซึ่งวังทองฯ จัดวางรูปแบบ (โมเดล) ของแคมเปญ ดังกล่าวนี้มากว่า 2 ปีแล้ว โดยจะเน้นจับกลุ่มลูกค้านักลงทุน ที่มีเงินก้อน (เงินเย็น) และต้องการเพิ่มรายได้จากการลงทุน หรือรับผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะสั้น

โดยภายในแคมเปญดังกล่าว บริษัทจะนำบ้านตัวอย่าง จำนวน 20 ยูนิต มูลค่า 120 ล้านบาท จากจำนวนโครงการที่เปิดขายอยู่ 5 โครงการ เปิดให้นักลงทุนเข้ามาซื้อ-เช่าบ้านตัวอย่างดังกล่าว ด้วยเงินสดตามที่บริษัทกำหนดราคาไว้ ซึ่งในการซื้อขายดังกล่าว บริษัทจะร่วมทำสัญญาซื้อขาย และสัญญาเช่าต่อจากลูกค้า เพื่อนำบ้านดังกล่าวมาใช้เป็นบ้านตัวอย่างในโครงการต่อไป โดยในสัญญาจะมีการระบุราคาขาย ผลตอบแทนที่ลูกค้าจะได้รับ และกำหนดระยะเวลาในการซื้อคืน จากลูกค้าในกรณีที่ลูกค้าต้องการขายบ้านคืนให้หลังหมดอายุสัญญา รวมถึงมีการกำหนดราคาซื้อคืนในอัตราที่บวกดอกเบี้ยให้กับลูกค้าด้วย

ทั้งนี้ บริษัทรับประกันว่าผลตอบแทนที่ลูกค้าจะได้จากค่าเช่าจะอยู่ในระดับ 5,000-20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งวังทองฯ จะให้ผลตอบแทนตามรูปแบบบ้านในแต่ละโครงการโดยระยะเวลาในการซื้อคืนบ้านของวังทอง จะมีอายุสัญญาประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่บริษัทกำหนดว่า จะปิดการขายในแต่ละโครงการ ส่วนราคาบ้านที่จะซื้อคืนนั้นบริษัทจะบวกอัตราดอกเบี้ยเงินฝากให้ในอัตราเฉลี่ย 5.25%

"แคมเปญนี้ เปรียบเหมือนช่องทางการระดมทุนแนวทางหนึ่งของบริษัท จะช่วยลดต้นทุนในการบริหาร และคุมต้นทุนด้านการเงิน โดยบริษัทไม่จำเป็นต้องเพิ่งพาเงินกู้จากสถาบันการเงิน เนื่องจากแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น มีผลทางด้านต้นทุนการเงินกับบริษัทด้วย ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบระหว่างการ กู้เงินจากสถาบันการเงิน ที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราเงินกู้ประมาณ 6.5-7.5% และดอกเบี้ยยังไม่นิ่ง แต่การจ่ายผลตอบแทนบวกอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 5.25% จาก ณ ราคาคงที่จากการซื้อคืนบ้าน ถือว่าบริษัทได้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติ ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 50% ของมูลค่าบ้านที่นำออกขาย และเมื่อบริษัทซื้อคืนมาแล้วลูกค้าจะไม่ต้องจ่ายค่าภาษี หรือค่าธรรมเนียมการโอนเลย เนื่องจากบริษัทจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายดังกล่าวเองทั้งหมด" นายปราโมทย์กล่าว

นอกจากนี้ หลังเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทจะออกแคมเปญต่อเนื่อง คือ "ซื้อบ้านแลกบ้าน" โดยลูกค้าที่ซื้อบ้านของบริษัทไปแล้ว ต้องการขายเพื่อไปอยู่ทำเลใหม่และต้องการซื้อบ้านในโครงการใหม่ของบริษัท ก็สามารถนำบ้านหลังเก่า มาขายให้แก่บริษัทได้ ซึ่งมีการกำหนดราคากลางไว้ แต่จะเป็นเท่าไหร่นั้น อยู่ระหว่างประเมินตัวเลขให้ชัดเจน โดยแคมเปญดังกล่าว ได้ร่วมมือกับบริษัทตัวแทนนายหน้าค้าอสังหา-ริมทรัพย์ คือ บริษัท บี.ซี.พี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด ขายสินค้าประเภทบ้านมือสองจากโครงการแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ และยังมีพันธมิตรจากธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารแห่งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นมาสนับสนุนให้แก่ลูกค้า

ทุ่มเปิด 7 โปรเจตก์ เดินหน้าคอนโดฯราคาถูก

นายปราโมทย์กล่าวถึงแผนการดำเนินงาน ในปี49 ว่า วังทองฯ จะเปิดตัว โครงการใหม่ 7 โครงการมูลค่า 1,500-2,000 ล้านบาท โดย 5 โครงการแรกอยู่บนทำเลเดิมย่านรังสิต ลำลูกกา ส่วนอีก 2 โครงการจะเปิดทำเลใหม่ย่านประชาชื่น เอกมัย-รามอินทรา บางนา หรืออ่อนนุช ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินอยู่ โดยการทำโครงการปีนี้จะเน้นทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว ราคา 7-8 แสนบาท หรือ ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น 1.5 ล้านบาทประมาณ 700-800 ยูนิต บ้านเดี่ยว ชั้นเดียว 1.8-2.5 ล้านบาท ประมาณ 200-300 ยูนิต และคอนโดมิเนียม ระดับราคา 7-8 แสนบาท ขนาด 30 ตร.ม. เป็นอาคารโลวไรส์ 1 อาคาร สูง 9 ชั้น จำนวน 300 ยูนิต เนื่องจากความต้องการในโครงการที่จับตลาดระดับกลาง-ล่างนั้นมีสูง โดยสินค้าที่บริษัทจะพัฒนาออกขายในตลาดปีนี้ บริษัท จะเน้นก่อสร้างทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวมากขึ้น

"วังทองต้องการเติมเต็มช่องว่างทางตลาดที่ยังขาดอยู่ โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์ 1-2 ชั้นและบ้านเดี่ยวชั้นเดียว คาดว่าตลาดจะให้การตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งมั่นใจว่า ความต้องการซื้อของลูกค้ามีประกอบกับขณะที่อัตราดอกเบี้ย ขยับขึ้น ผู้บริโภคก็มีความระมัดระวังในการ ซื้อบ้าน โดยหันมาซื้อที่อยู่ในราคาที่ต่ำลง"

สำหรับในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารับรู้รายได้ ที่ 2,400-2,500 ล้านบาท สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯทั้งปี คาดว่าจะมีอัตราเติบโตใกล้เคียงกับปี 2548 คิดเป็นจำนวนบ้านจดทะเบียนใหม่ประมาณ 70,000 ยูนิต โดยพบว่าในปีนี้ กลยุทธ์การตลาดที่ออกมา ต้องปรับให้สร้างสรรค์มากขึ้นไม่เป็นภาระต่อผู้บริโภคและได้ผลประโยชน์สูงสุด สุดท้ายแล้ว จะหนีไม่พ้น การลด แลก แจก แถม และแคมเปญทางการเงิน ที่ยังเป็นกลยุทธ์เดิมๆ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us