|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"กรณ์" เผยหากเบียร์ช้างเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ถึงมีพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮออล์ แล้วอนุมัติให้เข้าตลาดหุ้นไทยได้ก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะแค่จดทะเบียนไว้ไม่ระดมทุน ชี้ ก.ล.ต.ไม่กล้าอนุมัติ เกรงกระแสต่อต้าน อ้างรอพ.ร.บ.เพื่อให้รู้สึกผิดน้อยลง "กิตติรัตน์" ย้ำ เบียร์ช้าไปเมื่อไหร่ลาออกทันที ขณะที่ 5 สมาคมเตรียมยื่นหนังสือต่อก.ล.ต. 3 ก.พ.แสดงเจตนารมณ์ "ประมนต์"ประธานหอการค้าฯอดีตบอร์ดตลาดมองการดื่มเบียร์ กับเข้าตลาดหุ้นไม่สัมพันธ์กัน ชี้มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในแง่สร้างงาน
วานนี้ (31 ม.ค.) ศิษย์เก่าหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงสถาบันวิทยาตลาดทุน (วตท.) รุ่น 1 จัดสัมมนาในหัวข้อ "การดื่มเบียร์ช้างกับการจดทะเบียนเบียร์ช้างในตลาดฯสัมพันธ์กันหรือไม่ " ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายกรณ์ จาติกวณิช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า หากบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ เบียร์ช้างได้มีการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์แล้ว ถึงแม้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮออล์ มีการประกาศออกมาและมีการพิจารณาอนุมัติให้สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ ก็ถือว่าไม่มีประโยชน์อะไร เพราะไทยเบฟฯคงแค่จะเข้ามาจดทะเบียนไว้ แต่ไม่มีการขายหุ้น เพราะ ไทยเบฟได้มีการระดมทุนอย่างเพียงพอแล้วที่สิงคโปร์ คงจะไม่มาระดมทุนอีกครั้งในตลาดหุ้นไทย
ดังนั้นก็จะทำให้ไทยเสียโอกาส และรู้สึกเสียดาย ทำให้ตลาดหุ้นไทยเสียประโยชน์ ซึ่งก็มีลักษณะคล้ายกันกับบริษัท โทเทิ่ล แอ็กเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (แทค) ที่ไม่สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยได้ จึงหันไปจดทะเบียนในต่างประเทศ ภายหลังก็จะต้องการที่จะเข้ามาจดทะเบียนในไทย ก็มีปัญหาที่จะเข้ามาจดทะเบียนในไทย ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะสรุปได้ว่าจะเข้าในตลาดหุ้นไทยได้เมื่อไร
“ส่วนตัวรู้สึกเสียดายหากเบียร์ช้างได้มีการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ก็จะทำให้ไทยเสียประโยชน์ ซึ่งการที่ จากที่มีผู้คัดค้านการเข้าตลาดหุ้นของเบียร์ช้างทำให้ ก.ล.ต. ไม่กล้าที่จะมีการตัดสินใจอนุมัติ โดยอ้างว่าจะรอให้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประกาศออกมาก่อนถึงจะมีการพิจารณาให้สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยได้ เพราะจะได้มีจะทำให้มีความรู้สึกที่ผิดน้อยลง จากกระแสของผู้คัดค้าน ส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยที่จะห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายสุรา เพราะการที่ทำงานมาเหนื่อยทั้งวัน และการได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล 1 - 2 แก้ว ก็ ถือว่าเป็นกำไรชีวิต”นายกรณ์ กล่าว
นายกรณ์ กล่าวว่า สำหรับการที่มองว่าเบียร์ช้างเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้วจะทำให้ผู้บริโภคมีการดื่มมากขึ้นนั้น มีความเกี่ยวโยงไม่มากนัก เพราะเบียร์ช้างนั้นเป็นบริษัทขนาดใหญ่และมีกำไรจำนวนมาก ทำให้สามารถที่จะกระตุ้นยอดขายของบริษัทได้ไม่จำกัด ดังนั้นจึงไม่ใช่ประเด็นที่จะนำมาคัดค้าน แต่ข้อจำกัดของเบียร์ช้างอยู่ที่ข้อกฎหมายในเรื่องการควบคุมการโฆษณา และการจำหน่าย
ทั้งนี้ กฎหมายของไทยในเรื่องการควบคุมในข้อกฎหมายดีอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีการบังคับใช้ที่ดี ในเรื่อง การห้ามในการเมาแล้วขับ ซึ่งหากมีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดก็จะสามารถที่จะเปลี่ยนวัฒนธรรมในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ได้ ดังนั้นเมื่อมีการควบคุมโฆษณา การจำหน่วยและการ มีกฏหมายในการควบคุมที่รัดกุมแล้วก็ควรที่จะให้เบียร์ช้างสามารถที่เข้าจดทะบียนในตลาดหุ้นไทยได้
นอกจากนี้ ในการระดมทุนของบริษัทไทยเบจเวอเรจ น่าจะเป็นข้ออ้างในการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาชำระหนี้มากกว่า แต่หากเป็นการใช้เงินในการขยายธุรกิจในต่างประเทศก็ไม่ว่าเพราะในประเทศนั้นจะมีบทบาทในการควบคุมอยู่แล้ว ส่วนการเปิดเสรีทางการค้าที่เกิดขึ้นและหลายประเทศให้ความสำคัญนั้นมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นอีกธุรกิจในการต่อยอดธุรกิจในอนาคตได้ ดังนั้นควรเปิดเพื่อให้มีการแข่งขัน ขณะที่มาตรการในการควบคุมเป็นเรื่องที่จะต้องมีการดูแลให้เหมาะสม
อดีตบอร์ดตลาดหนุนช้าง
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานหอการค้าไทย อดีตกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการดื่มเบียร์ กับการเข้าจดทะเบียนของช้างไม่มีความสัมพันธ์กัน เนื่องจากการดำเนินธุรกิจต่างและมีผู้บริโภคมีการใช้ตามหลักของธุรกิจนั้นเป็นพื้นฐานที่จะช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งมีความถูกต้องมีการสร้างงานมีผลตอบแทนที่ดีก็ควรที่จะมีการสนับสนุน ซึ่งการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯก็ถือเป็นอีกวิธีในการระดมทุน เพื่อที่จะมีการเพิ่มความแข็งแกร่งของบริษัทให้สามารถแข่งขันได้ และบริษัทก็ต้องมีความรับผิดชอบที่จะมีการชี้แจงข้อมูลต่างกับทางตลาดหลักทรัพย์และคอยทำหน้าที่ในการตรวจสอบ
นายนิโรธ เจริญประกอบ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการที่ช้างจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้วจะทำให้ผู้บริโภคมีการดื่มมากขึ้นนั้นไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะ คนที่ดื่มเบียร์ถึงช้างไม่เข้าตลาดก็ยังคงดื่มเบียร์เช่นเดิม ไม่ได้มีการลดการดื่มลง แต่จะต้องมีการควบคุมในเรื่องการโฆษณา ที่จะต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งบริษัทที่อยู่ในตลาดฯและนอกตลาด เพื่อไม่ให้มีเนื้อหาที่เป็นการ ชักจูงใจให้มีการบริโภคมากขึ้น มีเนื้อหาที่รุนแรงในเชิงทะเลาะวิวาทซึ่งเป็นเรื่อที่ไม่ถูกต้อง แต่ในเรื่องการควบคุมในเรื่องการโฆษณานั้นไม่ใช่หน้าที่ของ สคบ.
ทั้งนี้ทางสคบ.ก็มีแนวคิดที่จะเสนอให้มีการแก้กฎหมายให้มีการโอนการควบคุมการโฆษณามาที่สคบ.จากขณะนี้อยู่ที่สำนักงานอาหารและยา เพื่อที่จะได้มีการอำนาจในการควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะต้องมีเงื่อนไขในเรื่องเวลาในการโฆษณา แหล่งการจำหน่าย โดยการที่เบียร์ช้างที่จะเข้าจดทะเบียนก็ไม่ได้รับคำร้องเรียนจากผู้บริโภคแต่อย่างไร แต่ก็จะมีการเสนอในเรื่องของการโฆษณาไม่ให้มีเนื้อหาส่งเสริมการดื่มและพฤติกรรมที่รุนแรง
นอกจากนี้ส่วนตัวมองว่าการที่ดื่มแอลกอฮอล์อย่างพอเหมาะก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและมีประโยชน์ จากการปรึกษาพบว่า การดื่มแอลกอฮอล์ 1 แก้ว จะช่วยทำให้เจริญอาหาร แต่ก็ต้องมีการให้ความรู้ว่าไม่ควรที่จะมีการดื่มมากเกินไป ซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายได้ แต่การที่จะห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายนั้นคงจะเป็นไปไม่ได้ ควรที่จะให้ผู้ประกอบการมาส่งเสริมและให้การสนับสนุนในเรื่องที่เป็นประโยชน์ เช่น สนับสนุนทางด้านกีฬา ก็ควรที่จะใช้สามารถโฆษณาได้
นายกิตติรัตน์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตนเองยังคงยืนยันคำพูดเดิมที่ได้มีการประกาศไว้ว่า จะลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ หากบริษัทไทยเบฟเวอเรจไม่สามารถ เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยได้ ซึ่งหาก เบียร์ช้างไปจดทะเบียนในตลาดต่างประเทศเมื่อใดตนเองก็จะออกจากตำแหน่งทันที
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเบียร์ช้างจะไปซื้อขายในตลาดต่างประเทศอย่างแน่นอน เนื่องจากเบียร์ช้างไม่ได้รับการอนุมัติให้ทำการซื้อขายหุ้นในประเทศโดยคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศได้หลังจากงบการเงินสิ้นปีของเบียร์ช้างออกมาประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้
“ผมยังยืนยันจุดยืนเหมือนเดิม หากเบียร์ช้างไปต่างประเทศเมื่อไร่ คุณก็จะ ไม่เห็นผม ที่ผ่านมาผมสู้เต็มที่ แต่เมื่อคณะกรรมการที่ตัดสินออกมาแบบนี้ ผมก็ยอม รับซึ่งเรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆว่าคนรักชาติ กับคนรักษาชาติใครเป็นของจริง และผมมั่นใจว่าเบียร์ช้างจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศ 99.9%ซึ่งผมจะทำงานถึงวันที่ช้างจะไปจดทะเบียนซื้อขายต่างประเทศ”นายกิตติรัตน์กล่าว
นายวิชัย พูลวรลักษณ์ นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย กล่าวว่า ในวันที่ 3 ก.พ. 5 สมาคม ซึ่งประกอบด้วย สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียน สมาคมนักวิเคราะห์ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จะส่งตัวแทนเข้ายื่นเอกสาร ต่อนาย ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. เพื่อให้มีการพิจารณารับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย
ทั้งนี้การยื่นเอกสารดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนไทยที่ต้องการให้บริษัทขนาดใหญ่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยเพื่อให้ประโยชน์กลับมาสู่ประเทศไทยมากกว่าต่างประเทศ
|
|
|
|
|