เอ็มเอฟซี ยื่นก.ล.ต.คลอด "เอ็มเอฟซี แอกทีฟ ฟันด์" มูลค่า 1,000 ล้านบาท กองทุนผสมที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล-หุ้นกู้เอกชน พร้อมโยกไปลงทุนในตลาดหุ้นด้วย เผยกลยุทธ์ไม่ลงทุนแบบเทอมฟันด์ หากผลตอบแทนออกมาดีขายทำกำไรทันที ระบุเปิดขายหน่วยลงทุนได้กุมภาพันธ์นี้ ก่อนเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาด BEX เพิ่มช่องทางลงทุน พร้อมส่ง "เอ็มเอฟซี สาม-สาม โรลโอเวอร์" ลุยพันธบัตรภาครัฐ 3 เดือน ดูดเงินฝาก เปิดขายหน่วย 1-7 ก.พ.นี้

นายศุภกร สุนทรกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นเสนอสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอจัดตั้งกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี แอกทีฟ ฟันด์ (MAF) กองทุนผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารแห่งทุน โดยมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ไม่กำหนดอายุโครงการ

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนเป็นหลัก รวมถึงโยกไปลงทุนในตลาดหุ้นด้วย โดยกองทุนจะไม่ลงทุนจนครบอายุของตราสาร ถ้าหาก เห็นว่าผลตอบแทนออกมาดีก็จะขายทำกำไรออกมา แล้วเลือกตราสารหรือหลักทรัพย์ใหม่เพื่อเข้าไปลงทุนแทนให้ได้ผลตอบแทนที่ดีต่อไป

"เรามองว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะถึงจุด สูงสุดแล้ว อาจจะปรับขึ้นบ้างแต่จะไม่เร็วเหมือนช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ตลาดตราสารหนี้ระยะยาวมีความน่าสนใจในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งกองทุนนี้เป็นกองทุนผสมที่ลงทุนได้ทั้งตราสารหนี้และหุ้น โดยในส่วนตราสารหนี้นั้นจะไม่ลงทุนในรูปของเทอมฟันด์เหมือนกองทุนระยะสั้น คือไม่ลงทุนจนครบอายุกองทุน เพราะหากกองทุนเห็นว่าสามารถทำกำไรได้เราก็จะขายออกแล้วหันไปลงทุนในตราสารตัวใหม่แทน" นายศุภกรกล่าว

นอกจากนี้ หลังจากจัดตั้งกองทุนแล้ว กองทุนอาจจะไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ (BEX) รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย เพื่อช่วยเสริมสภาพ คล่องให้กองทุน และเป็นช่องทางในการซื้อขายหน่วยลงทุนของผู้ถือหน่วย ทั้งนี้ คาดว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถเปิดขายหน่วยลงทุนได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาจัดตั้งกองทุนของสำนักงาน ก.ล.ต. และคาดว่าจะได้รับการอนุมัติภายในสัปดาห์นี้

นายศุภกรกล่าวว่า กองทุนดังกล่าวน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจาก นักลงทุน เนื่องจากตราสารหนี้ระยะยาวเองเริ่มกลับเข้าไปลงทุนได้แล้ว ซึ่งหากกองทุนดังกล่าวสามารถระดมทุนได้ประมาณ 500 ล้านบาท ก็ถือว่าพอใจแล้ว อย่างไรก็ตาม การลงทุนคงต้องมีความระมัดระวังให้มากขึ้น เนื่องจากการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้น

สำหรับรายละเอียดของกองทุน ระบุในหนังสือชี้ชวนว่า กองทุนจะเน้น ลงทุนในตราสารทุนหรือตราสารหนี้ และทรัพย์สินอื่นๆ ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนดให้สามารถลงทุนได้โดยเน้นกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุก คือ มีความถี่ในการซื้อขายหลักทรัพย์มาก กว่ากองทุนรวมทั่วไป ทั้งนี้ กองทุนอาจซื้อหลักทรัพย์กับผู้ขายหลักทรัพย์ โดยตรงตามราคาที่เหมาะสมที่ได้ตกลงกันและกองทุนอาจขายหลักทรัพย์ให้ผู้ซื้อโดยตรงตามราคาที่เหมาะสมในทำนองเดียวกัน ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร

สำหรับกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี แอกทีฟ ฟันด์ มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมเงินลงทุนจากผู้ลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไป ที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี และตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดยทำการซื้อขายตราสารหนี้บ่อยครั้งมากกว่ากองทุนอื่นเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร และอาจซื้อขายตราสารหนี้จากผู้ซื้อหรือผู้ขายตราสารโดยตรง ตามราคาที่เหมาะสมตามตกลงกัน ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในตราสารทุนบ้างตามความเหมาะสมเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีของผู้ลงทุน

นอกจากนี้ บลจ.เอ็มเอฟซี ยังได้เปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สาม-สาม โรลโอเวอร์ (M-33R) กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งมีอายุประมาณ 3 เดือน ทั้งนี้ สัดส่วนเงินลงทุนในตราสารหนี้หลักที่มีความมั่นคงสูง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเงินลงทุนทั้งหมด ส่วนที่เหลือ น้อยกว่า 20% ของเงินลงทุนทั้งหมดจะนำไปลงทุนในเงินฝากหรือตราสารหนี้อื่นๆ เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยกองทุนดังกล่าว จะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกระหว่างวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์นี้