ปิดข้อพิพาทสำนักงานทรัพย์สินฯ-วังเพชรบูรณ์ ตระกูลเตชะไพบูลย์ หมดสิทธิบริหาร
เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ กลุ่มเซ็นทรัลตั้งพร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ ทำสัญญาเป็นผู้เช่าที่ดิน-อาคารรายใหม่
พร้อมเคลียร์หนี้สำนักทรัพย์สินฯ 200 ล้านบาท ได้สัญญาเช่าใหม่ 30 ปี เซ็นทรัลพัฒนาคาดใช้เงินลงทุนใหม่
9,000 ล้านบาท เล็งหาผู้ร่วมทุนใหม่ 2-3 ราย พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น "เซ็นทรัล
พลาซ่า" ด้านบสท. ได้หนี้ คืน 412 ล้านบาท วานนี้
นายยศ เอื้อชูเกียรติ ที่ปรึกษา ด้านการเงินและการลงทุนสำนัก งานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
เปิดเผยว่าตามที่สำนักงานทรัพย์สิน ส่วนพระมหากษัตริย์ กับบริษัท วังเพชรบูรณ์
จำกัด มีข้อโต้แย้งกันเกี่ยวกับสิทธิการเช่าในบริเวณศูนย์ การค้าเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
จนเป็นคดีในศาลแพ่งตั้งแต่ต้นปี 2544 เป็นต้นมา ซึ่งวานนี้ (23 ธ.ค.) ทั้ง
2 ฝ่าย ได้ข้อยุติร่วมกันและศาลได้พิพากษาให้เป็นไปตามที่มีข้อตกลง ประนีประนอม
โดยบริษัท วังเพชรบูรณ์ จำกัด ตกลงส่งมอบสถานที่เช่าทั้งหมดคืนให้สำนักงานทรัพย์สินฯ
โดยปราศจากเงื่อนไข
ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารศูนย์ การค้าเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ มีความ ต่อเนื่องในการบริหารสำนักงานทรัพย์สินได้ตกลงเลือก
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นผู้เช่าใหม่เพื่อรับผิดชอบบริหารเวิลด์เทรดฯ
และพัฒนาโครงการที่ยังค้างอยู่ คือ อาคารสำนักงาน ที่ต้องสร้างให้เสร็จตามสัญญาเร็วที่สุด
ส่วนพื้นที่โรงแรมและศูนย์แสดงสินค้า จะต้องก่อสร้างภายในระยะเวลา 5 ปี โดยเซ็นทรัลจะลงทุนเองหรือไม่ก็ได้
แต่จะต้องแจ้งให้ทรัพย์สินฯทราบว่าใครจะเป็นผู้ลงทุน
สำนักงานทรัพย์สินฯได้เซ็นสัญญาให้เซ็นทรัลพัฒนาเข้ามาเป็น ผู้รับช่วงบริหารพื้นที่เวิลด์เทรดฯใหม่ในสัญญาเช่า
30 ปี โดยวานนี้ (23 ธ.ค.) ได้เซ็นสัญญาเช่าพื้นที่ และอาคารอย่างเป็นทางการ
โดยทรัพย์สินฯได้รับเงินค่าเช่าจากเซ็นทรัล ทันทีเป็นมูลค่า 200 ล้านบาท
ซึ่งเป็นเงินที่วังเพชรบูรณ์ค้างชำระค่าเช่าที่ดิน และภาษีที่ทรัพย์สินฯต้องจ่ายให้ไปก่อนหน้านี้
"การเลือกกลุ่มเซ็นทรัลเข้ามาบริหารเวิลด์ เทรดฯ เพราะมีความมั่นใจในเงื่อนไขที่กลุ่มเซ็นทรัล
เสนอให้ ซึ่งอยู่ในสภาพที่น่าพอใจ และเป็นค่าตอบ แทนที่เป็นธรรม โดยทรัพย์สินฯไม่เคยขอขึ้นราคาค่าเช่าพื้นที่กับวังเพชรบูรณ์
แต่ที่เกิดเป็นเรื่องราวจนต้องฟ้องศาล เป็นเพราะวังเพชรบูรณ์ผิดสัญญาการจ่ายค่าเช่า
ซึ่งค่าเช่าพื้นที่และอาคารที่จะได้รับจาก เซ็นทรัล จะมีมูลค่าสูงกว่าที่เคยได้รับจากวังเพชรบูรณ์
แน่นอน แต่เป็นราคาที่เอกชนบริหารได้คุ้มค่าเหนื่อย แน่นอน นอกจากนี้กลุ่มเซ็นทรัลยังอยู่ในธุรกิจค้าปลีกที่มีความเชี่ยวชาญ
จึงน่าจะบริหารพื้นที่เวิลด์ เทรดฯได้ดีกว่า"
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า หลังจากบริษัท วังเพชรบูรณ์ จำกัด ได้ตกลงยอมความกันที่ศาลแพ่งวานนี้แล้ว
วังเพชรบูรณ์ ของตระกูลเตชะไพบูลย์ จะต้องออกจากการบริหารศูนย์การค้าเวิลด์เทรดฯ
เพราะถือว่าหมดสิทธิในสัญญาเช่าที่ดินและอาคารก่อนกำหนด ซึ่งสัญญาเดิมยังเหลือระยะเวลาอีก
10 ปี ซึ่งหากครบกำหนดระยะเช่าตามสัญญาเดิมวังเพชรบูรณ์ต้องยกทรัพย์สินที่เป็นสิ่งปลูกสร้างคืนให้สำนักงานทรัพย์สินฯอยู่แล้ว
เล็งหาผู้ร่วมทุนด้านการเงิน
แหล่งข่าวจากบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเข้าไปลงทุนในเวิลด์เทรดฯ
จะใช้พร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ มูลค่า 5,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งเซ็นทรัลพัฒนาถือหุ้น
50% เข้าไปทำสัญญาเช่ากับทรัพย์สินฯ โดยเงินลงทุนที่จะใช้ในโครงการเวิลด์เทรดฯจะมีมูลค่าประมาณ
9,000 ล้านบาท การลงทุนในช่วงแรกจะเป็นการเพิ่มทุนของเซ็นทรัลพัฒนามูลค่า
1,000 ล้านบาท เงินสดในมือ 2,000 ล้านบาท และรายได้ที่จะเกิดจากการบริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลในช่วง
2 ปี มูลค่า 2,500 ล้านบาท ที่เหลือจะกู้จากธนาคารและสถาบันการเงิน
อย่างไรก็ตามกลุ่มเซ็นทรัลต้องการหาผู้ร่วมทุนด้านการเงินในโครงการดังกล่าว
2-3 ราย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงิน โดยหนี้สินที่ยังเหลืออยู่กับธนาคารพาณิชย์อีก
2 แห่ง คาดว่าจะสรุปผลได้ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า
เปลี่ยนชื่อเวิลด์เทรดฯเป็นเซ็นทรัล
นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล สายงานค้าปลีก และบริหาร
เปิดเผยว่า หลังจากกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาได้เข้าไปบริหารเวิลด์เทรดฯแล้ว จะเปลี่ยนชื่อศูนย์การค้าเวิลด์เทรด
เซ็นเตอร์ เป็นเซ็นทรัล แทน เพราะเป็นชื่อที่ผู้บริโภค รู้จัก และมีชื่อเสียงในการบริหารศูนย์การค้าโดยรูปแบบของศูนย์การค้าที่จะปรับปรุงนั้นประกอบด้วย
1. ศูนย์การค้าครบวงจร บนพื้นที่ค้าปลีกกว่า 200,000 ตารางเมตร กลุ่มร้านค้าระดับ
Middle-High end ศูนย์รวมร้านค้าแฟชั่นชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ แหล่งรวมร้านอาหารนานาชาติ
ความทันสมัยของเทคโนโลยี ความบันเทิง ความสนุกสนาน ตอบสนอง ไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยและเป็นจุดหมายของนักท่อง
เที่ยว
พื้นที่ค้าปลีกดังกล่าว จะทยอยพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่ค้าปลีกปัจจุบัน
133,371 ตารางเมตร และเพิ่มพื้นที่ค้าปลีกอีกประมาณ 80,000 ตารางเมตร ทั้งนี้เป็นการปรับปรุงทีละส่วน
และคาดว่าจะปรับปรุง แล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือนพ.ย.2547
2. อาคารสำนักงานเกรดเอ สูง 45 ชั้น ขนาดกว่า 100,000 ตารงเมตร เหมาะสำหรับองค์กรธุรกิจ
ที่ต้องการใช้เป็นสำนักงานใหญ่ในระดับภูมิภาค (Regional Headquarter) โดยก่อสร้างไปแล้ว
70% และเซ็นทรัลพัฒนาจะก่อสร้างต่อและตกแต่งให้เป็นสำนักงานเกรดเอ ซึ่งขณะนี้ในบริเวณใจกลาง
เมืองมีความต้องการอาคารสำนักงานนเกรดเอสูง แต่ยังไม่มีจำนวนพื้นที่เพียงพอกับความต้องการดังกล่าว
ทั้งนี้คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปีพ.ศ. 2546
3. โรงแรมระดับ 4-5 ดาวขนาด 400 ห้องพัก ขณะนี้มีบริษัทและนักลงทุนด้านโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ
แสดงความสนใจลงทุนและเข้ามาเจรจากับบริษัทหลายราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ
นี้ โดยโรงแรมจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2548
4. โรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียพร้อมศูนย์บันเทิง บนพื้นที่กว่า 25,000
ตารางเมตร ขณะนี้บริษัทกำลังเจรจากับผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์และศูนย์บันเทิงซึ่งจะเข้ามาพัฒนาให้เป็นศูนย์บันเทิงที่ดีที่สุดแห่งแรกใจกลางเมือง
5. ที่จอดรถของโครงการ จอดรถได้ถึง 5,000 คัน และหมุนเวียนได้ถึง 24,000
คันต่อวัน ส่วนกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ได้แก่ ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทั้งที่เป็นครอบครัว
นักธุรกิจ คนหนุ่ม สาวยุคใหม่ที่ชอบความทันสมัย และศูนย์รวมสินค้า ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่หา
โดยใช้เงินลงทุนทั้งโครง การรวมกว่า 10,000 ล้านบาท
บสท.ได้หนี้คืนวันนี้ 412 ล.
นายสมเจต หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.)
เปิดเผยว่า ในวันนี้ (24 ธ.ค.) กลุ่มเซ็นทรัล โดยกองทุนที่เข้าไปเซ็น สัญญาเช่าพื้นที่กับสำนักทรัพย์สินย์ฯ
จะเป็นผู้จ่ายหนี้คืนให้กับ บสท. จำนวน 412.25 ล้านบาท ซึ่งเป็น มูลหนี้ประมาณ
43.5% ที่ได้ปรับโครงสร้างจาก 947.53 ล้านบาท เนื่องจากลูกหนี้คือวังเพชรบูรณ์หมดสิทธิเช่า
ที่ดิน และอาคาร กับสำนักทรัพย์สินฯไปแล้ว ทำให้ไม่มีหลักประกันทรัพย์สินอีกต่อไป
โดยเจ้าหนี้ทุกราย จะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้และชำระหนี้คืนจากกลุ่มเซ็นทรัลทั้งหมด