|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไลอ้อนเขย่าตลาดแชมพูขจัดรังแค ปัดฝุ่นคิวลีนระเบิดนวัตกรรมใหม่ "ยูวี พลัส-รีแลกซ์" ชูกลยุทธ์สร้างความแตกต่างแชมพูสำหรับกลางวัน-คืน เจาะตลาดนิชมาร์เกต ทะลวงสองยักษ์ใหญ่คลีนิค เคลียร์-เฮดแอนด์โชว์เดอร์ สิ้นปียอดขายพุ่ง 10-20% แชร์ขยับเป็น 2%
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า บริษัทฯ ได้รีลอนช์แชมพูและครีมนวดขจัดรังแค "คิวลีน" ครั้งใหญ่ในรอบหลายปี โดยมีการปรับตั้งแต่สูตรแชมพู 2 สูตร และครีมนวดอีก 1 สูตร รวมทั้งบรรจุภัณฑ์ ทั้งนี้เพื่อให้แบรนด์ดูมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้อายุ 22 ปีขึ้นไป จากที่ผ่านมาคิวลีนไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวทางการตลาดมากนัก ส่งผลให้แบรนด์ดูมีอายุมากขึ้นหรือมีกลุ่มเป้าหมายอายุ 35 ปีขึ้นไป และส่งผลให้ส่วนแบ่งทางการตลาดลดลงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันยังได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ในตลาดแชมพูและครีมนวดขจัดรังแคด้วยกัน 2 สูตร ได้แก่ สูตรปกป้องเส้นผมจากแสงแดด และฝุ่นควัน (UV Plus) สำหรับผู้ที่สระผมในตอนเช้า-กลางวัน และสูตรผ่อนคลายและบำรุงเส้นผม (Relax) สำหรับผู้ที่สระผมตอนกลางคืน เพื่อสร้างความแตกต่างผู้เล่นสองรายหลักในตลาด คือ "คลีนิค เคลียร์" ซึ่งมีความแข็งแกร่งในฐานะผู้เชี่ยวชาญสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ ปัจจุบันครองส่วนแบ่ง 12.4% และเฮดแอนด์โชว์เดอร์ มีส่วนแบ่ง 9% จากมูลค่าตลาดรวม 9,000 ล้านบาท
สำหรับการกลับมาทำตลาดอีกครั้งของแชมพูขจัดรังแคคิวลีนสูตรใหม่ บริษัทฯ เลือกที่จะแทรกซึมด้วยการสร้างตลาดที่เป็นนิชมาร์เกต หรือเป็นการซอยย่อยตลาดแชมพูแบ่งเป็นสูตรสำหรับกลางวันและกลางคืน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เพราะจากเดิมแชมพูจะไม่มีการแบ่งว่าเป็นแชมพูสำหรับกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ยังช่วยสร้างพฤติกรรมการใช้แชมพู ให้มีการแบ่งระหว่างช่วงเวลามากขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาด
ปัจจุบันนี้ตลาดแชมพูมีมูลค่าประมาณ 6,730 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตไม่มากนักอย่างมาก 2-3% เท่านั้น ทั้งนี้เป็นเพราะอัตราการบริโภคต่อครัวเรือนครบ 100% โดยในปีที่ผ่านมาตลาดแชมพูโต 3% แบ่งเป็นแชมพูเพื่อความงามมูลค่า 4,450 ล้านบาท โต 2% ขจัดรังแคมูลค่า 2,000 ล้านบาท โต 7% และคาดว่าปีนี้การเติบโตคงจะไม่แตกต่างกันมากนัก โดยตลาดรวมน่าจะเติบโตได้ 2-3%
ขณะที่การเคลื่อนไหวตลาดแชมพูที่ผ่านมา นอกเหนือจากการขับเคลื่อนโดยกลยุทธ์ราคาและโปรโมชันต่างๆ เจ้าของสินค้าแต่ละค่ายส่วนใหญ่จะออกสูตรตามสภาพเส้นผม เช่น ผมแห้ง-เสียและผมมัน ต่อมาเพื่อให้ตลาดขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ก็พัฒนาแชมพูที่ตอบสนองความต้องการของผมและต้องแก้ปัญหาของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น เช่น ตลาดแชมพูเพื่อความงาม "ซันซิล" เปิดตัวสูตรเอจจิ้ง แคร์ เพื่อการดูแลผมที่เปลี่ยนสภาพตามอายุ สูตรสำหรับผมดำ ผมตรง หรือผมยาว
ส่วนตลาดแชมพูขจัดรังแค อย่าง "คลีนิค เคลียร์" ในช่วงปีที่ผ่านมาเคลื่อนไหวด้วยการได้ปรับโพซิชันนิงเป็นผู้เชี่ยวชาญสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ จากเดิมวางโพซิชันนิงเป็นแชมพูขจัดรังแคเท่านั้น เพื่อขยับรุกตลาดหนังศีรษะ ซึ่งเป็นตลาดที่ยังไม่มีผู้เล่นรายใดทำอย่างจริงจัง โดยคลีนิค เคลียร์ เปิดสูตรสำหรับหนังศีรษะถึง 2 สูตร ได้แก่ สูตรธิคแอนด์สตรอง บำรุงหนังศีรษะลดผมขาดร่วง สูตรเพียวริฟาย บำรุงหนังศีรษะ ลดความคัน ขณะที่เฮดแอนด์โชว์เดอร์หันมาเล่นตลาดแชมพูขจัดรังแคสำหรับผมยาว ควบคู่กับกลยุทธ์ ราคา และไซส์ซิ่ง
นายบุญฤทธิ์ กล่าวว่า สำหรับงบการตลาด คิวลีนคงไม่ได้ไช้มากนัก เนื่องจากปัจจุบัน มีส่วนแบ่งการตลาดน้อยมาก โดยสร้างการรับรู้บริษัทฯจะเลือกใช้สื่อโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น สื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของคิวลีนในครั้งนี้ โดยเฉพาะการเปิดตัวสูตรใหม่ ตั้งเป้ามียอดขายเติบโต 10-20% หรือมีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 0.4% เป็น 1-2% ในตลาด
|
|
|
|
|