แบงก์ชาติเล็งปรับเป้าจีดีพีปี 49 เพิ่มเป็น 5-6% จากเดิมประเมินไว้ 4.5-6% หลังเงินเฟ้อลดแรงกดดัน ตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้นต่อเนื่อง ดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยดีกว่าประเมินไว้ เตรียมจับตาสถานการณ์ภัยแล้งรอบใหม่อย่างใกล้ชิด คาดปีนี้จะมีเงินต่างชาติไหลเข้าตลาดเงินของไทยทะลุเป้า ย้ำจะติดตามดูแลค่าเงินบาทให้เหมาะสม

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจของปี 2549 ใหม่ภายใต้การรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ว่า เศรษฐกิจไทยโดยรวมในปี 2549 นี้ จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากปี 2548 ซึ่งการประมาณการครั้งนี้จะทำให้เห็นภาพเศรษฐกิจไทยที่ชัดเจนขึ้น โดยจากการประมาณการครั้งก่อนที่ประมาณการไว้ 4.5 - 6% ซึ่งค่อนข้างมีระยะห่างมากมีระยะห่างถึง 1.5% นั้น เป็นเพราะเป็นการประมาณการล่วงหน้าถึง 1 ปี แต่ในครั้งนี้ ธปท.จะปรับลดลงมาเหลือระยะห่างระหว่างจุดสูงสุดและต่ำสุดเพียง 1% เท่านั้น

ก่อนหน้านี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้ระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2549 จะสูงกว่าระดับ 5% แน่นอน เนื่องจากปัจจัยลบหลายๆ ตัวในประเทศที่เกิดขึ้นในปี 2548 ได้ลดลงแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การขยายตัวในปีนี้จะไม่พุ่งสูงมากนักทำให้ในการจัดทำแนวโน้มเงินเฟ้อของฝ่ายนโยบายการเงินได้ตั้งประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2549 ที่จะประกาศครั้งนี้ไว้ที่ 5-6% เพิ่มขึ้นจาก 4.5-6% ในครั้งก่อนเล็กน้อย

ในส่วนของปัญหาภัยแล้งที่กำลังก่อตัวขึ้นในแถบภาคเหนือภาคอีสานและภาคกลางบางส่วนนั้น ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ในการประมาณการเศรษฐกิจ ครั้งที่จะถึงนี้ ธปท.ไม่ได้นำประเด็นเรื่องภาวะภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้นครั้งใหม่เข้ามาพิจารณาแล้ว ซึ่งเท่าที่ติดตามสถานการณ์ล่าสุดในช่วงที่มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในช่วงกลางเดือนมกราคม พบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนส่วนใหญ่ ยังอยู่ในภาวะปกติ และมีหลายเขื่อนที่มีน้ำมากอยู่ แต่อย่างไรก็ตามจะติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพราะมีผลต่อการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวต่อถึงการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท และการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศด้วยว่า ปี 2549 นี้เป็นปีที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะมีเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามายังตลาดเงินของไทยในอัตราที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน และอาจจะมากกว่าที่คาด เนื่องจากความมั่นใจของเศรษฐกิจเอเชียมีมากขึ้น แต่ในช่วงที่อาจจะมีเงินต่างชาติเข้ามาเตรียมเพื่อทำการตั้งโต๊ะซื้อหุ้นชินคืนจากรายย่อย (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น คาดว่าจะไม่ทำให้ให้ค่าเงินบาทผันผวนมากอย่างในช่วงที่ผ่านมา เพราะ ธปท.ติดตามอยู่ และจะดูแลอย่างใกล้ชิด