Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 มกราคม 2549
แบงก์กรุงไทยเล็งปันผลเกิน50%สำรองเพิ่ม2.8พันล้าน-สิ้นปีลดNPLเหลือ8%             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงไทย

   
search resources

ธนาคารกรุงไทย
Banking and Finance




บิ๊กกรุงไทยเล็งจ่ายปันผลปี 48 มากกว่า 50% ของกำไรสุทธิ 13,000 ล้าน พร้อมตั้งสำรองเพิ่มเติมพิเศษ 2.8 พันล้าน เสริมศักยภาพและความแข็งแกร่ง ดันเงินตั้งสำรองแบงก์สิ้นปีพุ่งเกิน 40 %ตามที่ธปท.กำหนด ระบุไตรมาสแรกขายเอ็นพีแอลบิ๊กล็อตให้ต่างชาติ 8-9 พันล้าน ลดเอ็นพีแอลเหลือ 10 % ส่วนสิ้นปีจะเหลือ 8 %

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้สูงกว่างวดปี 2547 โดยธนาคารสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นมากกว่า 50% ของกำไรสุทธิ เนื่องจากในปี 2548 การดำเนินธุรกิจของธนาคารมีอัตราการเติบโตที่ดี สามารถสร้างกำไรสุทธิได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 17.48 % หรือ 13,000 ล้านบาท ดังนั้นคาดว่าในปีนี้ธนาคารจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้สูงกว่าปีก่อนแน่นอน

“แบงก์มีนโนบายที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 40 %ของกำไรสุทธิทุกๆ ปี ส่วนจะจ่ายเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับผลกำไรที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งนโยบายที่จะตั้งสำรองเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบงก์ ในการขยายธุรกิจในอนาคตต่อไป” นายอภิศักดิ์ กล่าว

จากกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ ธนาคารจึงมีนโยบายที่จะเพิ่มความแข็งแกร่ง ดูแลความเสี่ยงของสินเชื่อธนาคารจึงได้ตัดสินใจตั้งสำรองหนี้เป็นกรณีพิเศษอีก 2,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นการตั้งสำรองนอกเหนือจากการตั้งสำรองปกติตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กำหนด จากปัจจุบันมีการตั้งสำรองไว้เกินกว่าที่ธปท.กำหนดประมาณ 40 % และโดยปกติธนาคารมีนโยบายที่จะตั้งสำรองเฉลี่ยเดือนละ 300 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีมีการตั้งสำรองปกติกว่า 3,600 ล้านบาท และสิ้นปี 2549 นี้ ธนาคารจะมีการตั้งสำรองสูงถึง 6,400 ล้านบาท ทำให้ธนาคารมีความมั่นคงและมีผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นได้เฉลี่ย 15-16 %

ทั้งนี้ ในสิ้นปี2549 ธนาคารมีเป้าหมายที่จะลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ให้เหลือ 8% จากปัจจุบันที่ 10.3 % หรือ 100,000 ล้านบาท โดยภายในไตรมาสแรกปีนี้ คาดว่าธนาคารจะสามารถจำหน่ายเอ็นพีแอลให้กับลูกค้าต่างชาติได้ 8,000-9,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา และถ้าหากสามารถจำหน่ายเอ็นพีแอล ส่วนนี้ออกไปได้จะทำให้เอ็นพีแอลลดลงเหลือ 10% ตามเป้าที่ตั้งไว้

“ธนาคารมีแผนที่จะคัดเอ็นพีแอล ที่มีลักษณะประเภทเดียวกันนำมารวมเป็นกองเดียวกัน เพื่อขายเป็นล็อตเพื่อให้ได้ราคาดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้รับซื้อหนี้ดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ปีนี้ธนาคารจะสามารถลดเอ็นพีแอล เหลือ 8%” กรรมการผู้จัดการกล่าว

สำหรับในปีนี้ การดำเนินธุรกิจมีการแข็งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้ธนาคารต้องปรับตัวเพื่อสามารถแข็งขันในตลาดได้ โดยต้องการที่จะก้าวเป็น Convenience Bank ที่ให้บริการลูกค้าได้ครบทุกอย่างในจุดเดียว หรือเป็นธนาคารอเนกประสงค์ โดยกำลังศึกษาแนวทางเพื่อจัดองค์กร ปรับโครงสร้างของบริษัทในเครือ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเอื้อประโยชน์หรือสนับสนุนธนาคารมากที่สุด คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสรุปได้

โดยปัจจุบันกำลังศึกษาถึงแนวทางที่เหมาะสมระหว่างการลงทุนเพิ่มในธุรกิจหลักทรัพย์ที่ธนาคารถืออยู่กับการซื้อใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ เพื่อให้มีอำนาจในการบริหารมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าในปีนี้จะได้ข้อสรุปดังกล่าว จากปัจจุบันที่ธนาคารได้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทหลักทรัพย์ทรีนิตี้ ประมาณ 10 % หากต้องการที่จะลงทุนเพิ่มน่าจะถือในสัดส่วนประมาณ 40 % ซึ่งหลักการในการถือหุ้นในบริษัทต่างๆนั้น หากเป็นธุรกิจที่สนับสนุนธนาคารจะถือ 100 % เช่น บริษัทขนเงิน คอมพิวเตอร์ หากธุรกิจใดที่ที่ต้องการรายได้จากที่อื่น นอกเหนือจากธนาคาร ก็จะถือหุ้นให้ไม่เกิน 50 % เพื่อให้องค์กรเป็นเอกชน สามารถแข่งขันกับตลาดได้ เช่น บริษัทบัตรกรุงไทย

เร่งหาตลาดสินเชื่อสวัสดิการภาครัฐ

นายปรีชา ภูขำ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานธุรกิจภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงการให้สินเชื่อสวัสดิการแก่ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานสำนักงานประกันสังคม ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานฯ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาครวมจำนวน 5,592 คน ในวงเงินรวม 300 ล้านบาท โดยธนาคารคิดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราพิเศษเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้กับข้าราชการของสำนักงานประกันสังคม

โดยสินเชื่อสวัสดิการเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคม ประกอบด้วย สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ให้กู้ 100% ของราคาประเมิน กรณีวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท สินเชื่อเพื่อการอุปโภค สำหรับซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และคอมพิวเตอร์ สินเชื่อเพื่อการศึกษาต่อในประเทศ และสินเชื่อสวัสดิการทั่วไป ให้กู้รวมกันสูงสุดถึง 5 ล้านบาท ในกรณีจำนองหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ธนาคารจะทำการตลาดสินเชื่อพนักงานของรัฐอย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าเพิ่มหน่วยงานราชการให้มาใช้สินเชื่อเพื่อเป็นสวัสดิการกับธนาคารในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 15 แห่ง วงเงินกู้รวม 3,300 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us