|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ผู้ถือหุ้น SAMART อนุมัติให้ขายเงินลงทุน SIM และ แคมโบเดีย สามารถ คอมมิวนิเคชั่น ให้กับ ทีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล เอสดีเอ็น บีเอชดี เพื่อปรับโครงสร้างภายในกลุ่มธุรกิจและนำเงินเป็นทุนสำรองในการดำเนินงาน มั่นใจเป็นพันธมิตรทางธุรกิจต่อกันในอนาคต
นายศิริชัย รัศมีจันทร์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SAMART) แจ้งมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2549 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2549 ว่า มีมติสำคัญคือ อนุมัติให้บริษัทฯ จำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย ให้กับ บริษัท ทีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล เอสดีเอ็น บีเอชดี (TMI) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 19.24 ดังนี้
พร้อมอนุมัติการจำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) ( SIM ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 74.01 (ณ วันที่ 24 มกราคม 2549) ให้กับ TMI เป็นจำนวน 105 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 24.42 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ SIM ในราคาหุ้นละ 12.50 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 1,312 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันด้วย
โดยการจำหน่ายหุ้น SIM มิได้ทำให้ TMI ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้น (Tender Offer) จากผู้ถือหุ้นของ SIM
พร้อมกันนี้ อนุมัติการจำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท แคมโบเดีย สามารถ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (CASACOM) ที่บริษัทฯ ถืออยู่ทั้งหมด จำนวน 1,038,700 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียน ให้กับ TMI รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 29 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินประมาณ 1,189 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยนที่ 41 บาท ต่อ 1 เหรียญสหรัฐ) ซึ่งเป็นการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน
ทั้งนี้ การขายหุ้น CASACOM ที่ถืออยู่ 49 % นั้น เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นมาเป็นเงินทุนสำรองเพื่อการดำเนินธุรกิจ และ/หรือลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในอนาคตตามความเหมาะสม รวมทั้งใช้ชำระหนี้สินระยะยาวบางส่วน นอกจากนี้ยังทำให้บริษัทฯ ปรับแผนการดำเนินธุรกิจในประเทศกัมพูชาให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น และไม่ต้องมีภาระในการเพิ่มเงินลงทุนที่อาจเกิดขึ้นจากการขยายพื้นที่ให้บริการการรองรับจำนวนผู้ใช้บริการ ขณะที่การขายหุ้น SIM นั้นนอกจากจะได้เงินสำรองเพื่อดำเนินธุรกิจและใช้ชำระหนี้สินระยะยาวบางส่วน พร้อมเชื่อว่า TMI จะกลายเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของ SIM ทำให้ SIM สามารถขยายธุรกิจไปต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น
|
|
|
|
|