Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 มกราคม 2549
มะลิควงคัมพินารุกธุรกิจนม             
 


   
www resources

โฮมเพจ อุตสาหกรรมนมไทย

   
search resources

Dairy Product
อุตสาหกรรมนมไทย, บจก




มะลิจับมือร่วมทุนยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมนมเนเธอร์แลนด์”คัมพินา” ทุ่ม 500 ล้านบาท ผุดโรงงาน ทีดีไอ คัมพินา ขยายฐานผลิต 131 ล้านลิตร “คัมพินา อินเตอร์ฯ”เล็งปั้นนม 3 แบรนด์” อลาสก้า โชคชัย คัมพินา”บุกไทย พร้อมลุยตลาดเอเชีย 3 ปีกวาดรายได้ 10% ตั้งเป้า 5 ปีโค่นบัลลังก์โฟร์โมสต์สำเร็จ

พลเอกณรงค์ จารุเศรนี ประธานกรรมการ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนมข้นหวาน,ยูเอชทีตรามะลิ เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัทคัมพินา อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ผลิตนมภายใต้ยี่ห้อคัมพินา ยาซู โชคชัย อลาสก้า และอื่นๆ จากเนเธอร์แลนด์ 500 ล้านบาท ในสัดส่วน50:50 จัดตั้งบริษัท ทีดีไอ คัมพินา จำกัด ที่ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยการร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทได้อาศัยจุดแข็งของแต่ละฝ่าย อย่างอุตสาหกรรมนมไทย มีตราสินค้ามะลิเป็นที่รู้จักในตลาดอินโดจีนในวงกว้าง ขณะที่คัมพินามีจุดแข็งด้านโนฮาวด์ อีกทั้งยังเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมนมอันดับ 12-13 ของโลก

“เราร่วมมือตั้งบริษัท ทีดีไอ คัมพินา จำกัด เพื่อสร้างฐานการผลิตระหว่างสองบริษัท คือ อุตสาหกรรมนมไทย และบริษัทคัมพินา อินเตอร์เนชั่นแนล ส่วนการทำตลาดแยกกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งตัวเราจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ขณะที่ต้นทุนการผลิตจะต่ำลง และประการสำคัญเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อรองรับกับการเปิดเขตเสรีการค้าระหว่างประเทศหรือ เอฟทีเอ ระหว่างไทยออสเตรเลียและนิวซีแลนด์”

สำหรับ ทีดีไอ คัมพินา จำกัด บริษัทจะใช้เป็นการฐานการผลิตนมยูเอชทีและนมพลาสเจอร์ไรส์ ภายใต้เทคโนโลยีของบริษัทคัมพินา ในเบื้องต้นได้เพิ่มกำลังการผลิตจาก 80 ล้านลิตรต่อปีเป็น 131ล้านลิตรต่อปี สามารถรองรับความต้องการตลาดได้ 3 ปี โดยจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งกำลังการผลิตและแบ่งเป็นสำหรับตลาดภายในประเทศ 60% และตลาดต่างประเทศโดยเน้นในแถบอินโดจีนเป็นหลัก 40%ขณะเดียวกันยังได้เตรียมลงทุนขยายพื้นที่บริเวณโรงงานเพิ่ม 2,000 ตารางเมตร

นายจัสเตนัส แซนเดอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท

คัมพินา อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ผลิตนมประเทศเนเธอร์แลนด์ กล่าวถึงนโยบายและทิศทางการตลาดว่า บริษัทจะรุกตลาดนมภายใต้ 3 แบรนด์หลัก ประกอบด้วย ตลาดนมยูเอชทีแบรนด์”อลาสก้า” ซึ่งเป็นการนำแบรนด์อลาสก้าเปิดตัวลงเซกเมนต์ยูเอชทีครั้งแรก ส่วนตลาดนมพลาสเจอร์ไรส์ใช้แบรนด์”โชคชัย” ซึ่งบริษัทได้เข้าไปเทคโอเวอร์เมื่อปี 2547 ส่วนแบรนด์ที่สามกำลังพิจารณาว่าจะใช้ “คัมพินา” จากปัจจุบันในบริษัทคัมพินา อินเตอร์เนชั่นแนลมีกลุ่มผลิตภัณฑ์นมภายใต้แบรนด์ คัมพินา, ยาซูและอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีความสนใจทำตลาดโยเกิร์ตเพิ่มเติมในอนาคต

“บริษัทตั้งเป้าหมายภายใน 2 ปี สินค้าของกลุ่มคัมพินา อินเตอร์เนชั่นแนล จะก้าวขึ้นเป็นอันดับสองของตลาดแทนที่เนสท์เล่ และภายใน 5 ปีนี้ตั้งเป้าจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดแทนที่โฟร์โมสต์ รวมทั้งภายใน 3-4ปี ข้างหน้านี้ ตั้งเป้ารายได้จากภูมิภาคเอเชียจะเพิ่มจาก 3% เป็น 10% ของรายได้รวมโดยมาจากการขยายตลาดอินโดจีนเป็นหลัก ซึ่งบริษัทได้เข้าไปตั้งบริษัททำการตลาดที่เวียดนามรองรับไว้แล้ว ทั้งนี้เหตุผลที่บริษัทรุกตลาดเอเชียเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยพบ 15 ปี ตลาดนมโต 3 เท่าตัว”

แนวโน้มตลาดนมโดยรวมมูลค่า 12,000 ล้านบาท ในประเทศไทยยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากอัตราการบริโภคเฉลี่ย 20 ลิตรต่อคนต่อปี เมื่อเทียบประเทศสิงคโปร์ 58 ลิตรต่อคนต่อปี ยุโรปสูงกว่าถึง 7 เท่า หรือราว 140 ลิตรต่อคนต่อปี โดยเทรนด์ตลาดนมในขณะนี้พาสเจอร์ไรส์เป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ ประมาณ 20% ขณะที่ตลาดนมข้นหวานอัตราการเติบโตเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลประกอบการ บริษัท ทีดีไอ คัมพินา จำกัด ปีแรกตั้งเป้า 1,600 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการของบริษัทอุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ตั้งเป้ามีรายได้ 4,500 ล้านบาท จากในปีที่ผ่านมามีรายได้ 4,700-4,800 ล้านบาท โดยปัจจุบันนี้ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย มีความโดดเด่นสินค้ากลุ่มนมข้นหวานตรามะลิ ครองส่วนแบ่งในตลาดถึง 60%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us