“ไฮเนเก้น” อัดสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งต้นปี เทงบ15 ล้านบาท เปิดตัว”ไฮเนเก้น กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ 2006” สวนกระแสฟุตบอลโลก หวังเป็นหมัดเด็ดตอกย้ำพรีเมียมแบรนด์ ข่มขวัญไทยเบฟฯเปิดตัวช้างพรีเมียม

นายปิย สมุทรโคจร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น ไทเกอร์ เชียร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเบียร์ในปีนี้การแข่งขันจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเซกเมนต์พรีเมียมที่มีอย่างน้อย 2 ค่ายประกาศตัวลงมา อีกทั้งสภาพตลาดยังโดนบีบภายใต้มาตรการของภาครัฐ เช่น ห้ามโฆษณา 24 ชั่งโมง ฯลฯ ทำให้ตลาดเบียร์ปีนี้มีแนวโน้มว่าจะไม่โต จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะเติบโต 4-5%

แผนการตลาดในปีนี้ไฮเนเก้น เน้นสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง และมิวสิคมาร์เก็ตติ้งเป็นกลยุทธ์หลัก นำร่องต้นปีชูกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ทุ่ม 15 ล้านบาท เปิดตัว”ไฮเนเก้น กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ 2006” ประกาศรับสมัครนักกอล์ฟสมัครเล่น ชายและหญิงเข้าร่วมแข่งขัน ที่ สนามกอล์ฟเกรก นอร์แมน คอร์ส มิชชิ่น ฮิลล์ กอล์ฟคลับ เมืองเสินเจิ้น ประเทศจีน พร้อมชิงเงินรางวัล 1 ล้านบาท เริ่มรับสมัครตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2549 นี้ เป็นต้น ทั้งนี้คาดว่าจะมีนักกอล์ฟเข้าร่วมสมัครไม่ต่ำกว่า 1,630 คน

“ปกติเราจัดแคมเปญสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งในช่วงเวลานี้เป็นประจำ โดยการแข่งขันจะเริ่มระหว่างวันที่ 13 มีนาคม – 5 สิงหาคม 2549 ซึ่งแม้ว่าช่วงเวลาจะคราบเกี่ยวกับฟุตบอลโลก แต่เชื่อว่าไฮเนเก้น กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ 2006 จะไม่โดนฟุตบอลโลกกลบกระแสอย่างแน่นอน เพราะเป็นคนละกลุ่มเป้าหมายกัน”

อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกิจกรรมสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งของไฮเนเก้น สนับสนุน “กอล์ฟ” ส่วนคู่แข่ง ไทยเบฟเวอเรจ ซึ่งก่อนหน้านี้มีแผนว่าจะเปิดตัวช้างพรีเมียม ลงเซกเมนต์พรีเมี่ยม จะโดดเด่นด้านการสนับสนุนกีฬาฟุตบอล โดยไฮเนเก้นสนับสนุนกีฬากอล์ฟต่อเนื่องปีนี้ก็เป็นปีที่ 11 แล้ว ซึ่งกอล์ฟเป็นกีฬาที่สะท้อนถึงภาพลักษณ์เบียร์ไฮเนเก้น ว่าเป็นเบียร์ระดับพรีเมียมได้เป็นอย่างดี

“เบียร์ในเซกเมนต์พรีเมียม ภาพลักษณ์ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นปัจจัยการตัดสินใจซื้อในอันดับแรกของผู้บริโภค ขณะที่ราคาเป็นเรื่องรองลงมา อย่างไรก็ตามก็ต้องจับตาดูคู่แข่งว่าจะมีการทำตลาดอย่างไร เพื่อผลักดันภาพลักษณ์เบียร์สู่ระดับพรีเมียม”

นายปิย กล่าวว่า การที่คู่แข่งจะประกาศตัวลงมาในเซกเมนต์พรีเมียม ไฮเนเก้นคงไม่ต้องปรับตัวอะไรมากนัก เพราะด้วยข้อจำกัดของภาครัฐที่วางไว้ ก็ทำให้สินค้าใหม่เกิดได้ยาก ขณะเดียวกันไฮเนเก้นเป็นเบียร์ที่มีความแข็งแกร่งด้านภาพลักษณ์ และปัจจุบันไฮเนเก้นก็เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งถึง 95% ในเซกเมนต์พรีเมียมมูลค่า 9,000 ล้านบาท