โตชิบาลั่นปีนี้ต้องโต 10% มากกว่าตลาดรวมสู่ยอดขาย 4,400 ล้านบาท อัดงบตลาดรวม 400 ล้านบาท หว่าน 100 ล้านบาทอิงกระแสฟุตบอลโลกในฐานะสปอนเซอร์ด้านไอทีเป็นทางการ หวังดันโน๊ตบุ๊คโตชิบาสู่ ท้อปทรี เทงบ 100 ล้านบาท ลุยขยายชอปเพียบ

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รองประธาน นายณัฐพงษ์ อารีกุล ผู้จัดการทั่วไป และนายถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ธุรกิจเทคโนโลยี บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ร่วมกันเปิดเผยว่า สภาพตลาดรวมของเครื่องใช้ไฟ้าเมื่อปีที่แล้วมีอัตราการเติบโตน้อยมากประมาณ 5-7% เท่านั้น เนื่องจากมีการแข่งขันที่รุนแรงโดยเฉพาะหมวดเอวีและเอชเอ ทำให้ในแง่ของจำนวนนั้นยังเพิ่มขึ้น แต่ในแง่ของมูลค่านั้นเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยท่านั้น ส่วนสินค้ากลุ่มไอทีนั้นตลาดรวมมีการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากฐานตลาดยังต่ำอยู่

สำหรับผลประกอบการของโตชิบาเมื่อปีที่แล้ว อัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดรวมคือ มีประมาณ 10% โดยมีรายได้รวมตลาดในไทยประมาณ 4,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายปีนี้เติบโต 10% สูงกว่าตลาดรวม โดยเป็นยอดรายได้รวมกว่า 4,400 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนรายได้นั้นจะมาจาก สินค้ากลุ่มเอวีและเอชเอ 75% สินค้ากลุ่มไอที 25% โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มไอทีโตชิบานั้น เติบโตในแง่ปริมาณ 60% และเติบโตด้านมูลค่ากว่า 20%

นางกอบกาญจน์กล่าวว่า สินค้ากลุ่มไอทีของโตชิบานั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เพิ่งแยกออกมาทำตลาดอย่างชัดเจนในไทยเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดรวมก็โต ส่วนตลาดเอวีนั้นแม้จะยังโตก็ตาม แต่ปีนี้คาดว่าจะโตน้อยที่สุด แต่คงมีแผนกระตุ้นตลาดเต็มที่ ทั้งการออกสินค้าใหม่ การทำโปรโมชั่นต่างๆ

สำหรับแผนการขยายช่องทางจำหน่ายของสินค้ากลุ่มไอทีของโตชิบานั้น ในปีนี้มีแผนรุกต่อเนื่องและเต็มที่ซึ่งเป็นจังหวะดีที่โตชิบาเป็นผู้สนับสนุนหลักทางด้านไอทีอย่างเป็นทางการของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน โดยใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เกตติ้งมาเป็นตัวขับเคลื่อนในช่วงครึ่งปีแรกนี้ โดยในปีนี้มีแผนที่จะใช้งบประมาณลงทุนรวมกว่า 100 ล้านบาท ขยายช่องทางจำหน่ายไอที แบ่งเป็น จุดจำหน่ายที่เป็น ไอชอป อีกประมาณ 20-30 แห่ง โดยจะเน้นไปยังตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นเช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ หัวหิน เป็นต้น ซึ่งจะเป็นเคาน์เตอร์ของโตชิบาที่ตั้งอยู่ในร้านไอทีทั้งหลาย ปัจจุบันมีแล้วประมาณ 120 จุด นอกนั้นก็จะเป็นการขยายชอปของโตชิบาเอประมาณ 5 แห่ง จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 5 แห่งคือ ที่พันธ์ทิพย์พลาซาสาขาเชียงใหม่และกรุงเทพฯ, ร้านไอทีมอล์ฟอร์จูนทาวน์ ร้านไอทีที่ซีคอนสแควร์ และล่าสุดที่หลักสี่ ซึ่งร้านแบบนี้ขายแต่สินค้าของโตชิบาเท่านั้น

ส่วนจุดจำหน่ายที่อยู่ตามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องเสียงทั่วไปนั้นที่ขายโตชิบาด้วยมีอยู่ประมาณ 200 กว่าแห่ง แต่ปัจจุบันมีเพียงแค่ 5% เท่านั้นที่เริ่มเอาสินค้า ไอทีของโตชิบา เข้าไปวางจำหน่ายแล้ว แต่ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มอีกประมาณ 30 แห่ง รวมไปถึงการเปิดตัวโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆลงสู่ตลาดเช่น รุ่นที่มีราคาต่ำกว่า 30,000 บาทเป็นครั้งแรกของโตชิบา ซึ่งในปีนี้โตชิบามีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำตลาด 1 ใน 3 ให้ได้ จากปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 4 ของตลาดรวมไอทีโน๊ตบุ๊ค โดยมีเอเซอร์ อันดับที่หนึ่งแชร์มากกว่า 30% อันดับที่สองคือ เอชพี กว่า20% และริโนว่าของไอบีเอ็ม 6-7% และปีนี้เตรียมเปิดตัวโทรศัพท์มือถือด้วยหรือแม้แต่ในกลุ่มเอวีเองอย่างเช่น โทรทัศน์ ก็มีเป้าหมายที่จะบุกตลาดโทรทัศน์จอแอลซีดีมากขึ้น โดยหวังส่วนแบ่งตลาดปีนี้เพิ่มเป็น 10% จากปริมาณตลาดรวมปีทีแล้วที่มีกว่า 15,000 เครื่องเฉพาะยอดขายปลีกเท่านั้น จากปีที่แล้วที่มีส่วนแบ่งเพียง 7% เท่านั้น ส่วนตลาดทีวีจอพลาสม่านันก็ยังมีทำตลาดอยู่ แต่เริ่มค่อยๆหายไปจากท้องตลาดบ้างแล้ว เพราะทีวีแอลซีดีเข้ามาแย่งตลาดคาดว่าตลาดรวมแอลซีดีปีนี้จะโต 20-30% ด้านสินค้ากลุ่มเอชเอนั้นในปีนี้ก็มีแผนตลาดที่จะผลักดันการเติบโตต่อไป ซึ่งขณะนี้โตชิบามีส่วนแบ่งตู้เย็นโดยรวม 20%

ในปีนี้บริษัทฯได้ทุ่มงบการตลาดกว่า 100 ล้านบาท สำหรับการทำตลาดช่วงฟุตบอลโลกโดยเฉพาะ จากงบตลาดทั้งปีอยู่ที่ 400 ล้านบาท หรือ 1 ใน 4 และคาดว่าในช่วงฟุตบอลโลกจะส่งผลดีต่อยอดขายทั้งกลุ่มเอวีและไอทีสูงขึ้นกว่า 15% กิจกรรมหลักที่จะจัดขึ้นรับเทศกาลฟุตบอลโลกเช่น “Be Part of The Game” เป็นส่วนหนึ่งแห่งชัยชนะ จัดที่สยามพารากอน วันที่ 25 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์, การตกแต่งร้านค้าของโตชิบาให้เป็นคอนเซ็ปท์ฟุตบอลโลก, EPL Auction การประมูลเสื้อฟุตบอลเพื่อการกุศล ในฐานะที่โตชิบาเป็นสปอนเซอร์หลักของการแข่งขันฟุตบอลอังกฤษ พรีเมียร์ลีก, FIFA Kick Off ตลอดช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม ช่วงแข่งขันจัดรายการลุ้นรับโชค, ร่วมมือกับเครื่องดื่มค่ายโค้กจัดกิจกรรมให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วม