Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์30 มกราคม 2549
โฮมเวิร์คปรับยุทธศาสตร์สร้างสแตนด์อะโลนเพิ่มสินค้าซอฟต์ไลน์ ขยายฐานลูกค้าซื้อซ้ำ             
 


   
search resources

ซี อาร์ ซี เพาเวอร์ รีเทล, บจก.
Furniture




โฮมเวิร์คทุ่ม 500 ล้านบาท ผุดสาขาสแตนอะโลนสมบูรณ์แบบ ดึงจุดเด่นของ 3 กลุ่มธุรกิจในเครือเซ็นทรัลมารวมพลังกันภายในร้านโฮมเวิร์ค โดยมีเพาเวอร์บาย และเซ็นทรัลดีพาร์ทเมนท์สโตร์ช่วยเติมเต็ม พร้อมกับขยายสัดส่วนสินค้าซอฟต์ไลน์ ซึ่งจะช่วยดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ

โฮมเวิร์ครุกตลาดร้านอุปกรณ์ตกแต่งและซ่อมแซมบ้านด้วยการเปิดสาขาที่ 10 ที่เพชรเกษม 65 ซึ่งเป็นรูปแบบสแตนอะโลนที่สมบูรณ์แบบเนื่องจากเป็นอาคารเฉพาะของโฮมเวิร์คไม่ติดกับใครบนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร ชั้นเดียว ทำให้ผู้บริโภคสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า โดยก่อนหน้านี้โฮมเวิร์คพยายามสร้างสาขาสแตนอะโลนที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบสร์ แต่เนื่องจากตั้งอยู่บนโครงสร้างอาคารของเซ็นทรัลทำให้มีพื้นที่จำกัดต้องทำรูปแบบร้านเป็น 2 ชั้น ซึ่งเป็นรูปแบบที่ถือว่าไม่สะดวกในการเลือกซื้อสินค้าเนื่องจากต้องเดินวนขึ้นลง

ปัจจุบันการแข่งขันของตลาดอุปกรณ์ตกแต่งและซ่อมแซมบ้านมีการแข่งขันค่อนข้างแรงโดยช่องทางหลักกว่า 80% ยังเป็นของร้านค้าห้องแถวหรือร้านค้าอุปกรณ์แบบเดิมๆหรือ Traditional Trade แต่ช่องทางร้านค้าสมัยใหม่หรือ โมเดิร์นเทรด กลับมีการเติบโตที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเชนร้านเฟอร์นิเจอร์ สเปเชียลตี้สโตร์ อย่างโฮมโปรซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของโฮมเวิร์ค หรือดิสเคาน์สโตร์ ซึ่งนอกจากความพยายามในการขยายสาขาเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุดแล้ว การวางคอนเซ็ปต์ให้แตกต่างจากคู่แข่งก็เป็นสิ่งสำคัญ โฮมเวิร์คซึ่งเป็นอีกหนึ่งสเปเชียลตี้สโตร์ของเครือเซ็นทรัลจึงพยายามดึงธุรกิจในเครือที่สอดคล้องกันเข้ามาอยู่ในร้านของโฮมเวิร์คเพื่อสร้างความหลากหลายให้กับสินค้าในร้าน โดยการดึงเพาเวอร์บายเข้ามาเสริมในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้า และดึงเซ็นทรัลดีพาร์ทเมนท์สโตร์เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในเรื่องของสินค้าตกแต่งบ้าน สินค้าดีไซน์ใหม่ๆเพื่อจับตลาดระดับกลาง-บน

นอกจากนี้โฮมเวิร์คยังมีการขยายสัดส่วนสินค้าที่เป็นซอฟต์ไลน์ เช่น ของตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น ซึ่งแต่เดิมโฮมเวิร์คจะเน้นสินค้าฮาร์ดไลน์ หรืออุปกรณ์ซ่อมแซมและสร้างบ้าน ซึ่งผู้บริโภคมักจะซื้อเพียงครั้งเดียวแล้วก็ไม่มาใช้บริการอีก ดังนั้นการเพิ่มสินค้าซอฟท์ไลน์หรือของแต่งบ้านจะช่วยขยายฐานลูกค้าและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำที่โฮมเวิร์คมากขึ้น รวมถึงการทำ Coffee Corner เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า โดยคอฟฟี่คอร์เนอร์จะเป็นมุมให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไปได้เข้ามานั่งพักผ่อนโดยมีเครื่องและอาหารว่างไว้บริการฟรี แต่ในบางสาขาที่มีลูกค้าระดับบนมากก็จะเปิดพื้นที่ให้สตาร์บัคส์เข้ามาจำหน่ายกาแฟ เช่นที่รัตนาธิเบศร์ซึ่งจะเปิดคอฟฟี่คอร์เนอร์ในอีก 2 เดือนหน้า

"เราวางคอนเซ็ปต์ในการเป็นร้านที่มีสินค้าบริการลูกค้าครบวงจรไม่ว่าจะเป็น ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ รวมไปถึงเครื่องไฟฟ้า โดยมีสินค้ากว่า 60,000 รายการ ในขณะที่คู่แข่งส่วนใหญ่จะโฟกัสตลาดเฉพาะอย่างไป ส่วนกรณีของคู่แข่งที่เป็นศูนย์การค้าแม้จะรวบรวมร้านค้าต่างๆมากมายแต่ก็ไม่สะดวกต่อผู้บริโภคที่จะต้องเดินเข้าเดินออกหลายๆร้าน ในขณะที่โฮมเวิร์คเดินทีเดียวได้ครบทุกอย่าง" พงศ์ ศกุนตนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซีอาร์ซี เพาเวอร์ รีเทล กล่าว

อย่างไรก็ดีหากมองถึงรูปแบบใหม่ของโฮมเวิร์คแล้วก็ใช่ว่าจะไม่มีคู่แข่งที่เหมือนกันเสียทีเดียว เพราะโฮมโปรก็มีสินค้าที่ครบไลน์ไม่แพ้กัน อีกทั้งยังมีการแยกแผนกเครื่องไฟฟ้าออกมาโดยใช้ชื่อว่าเดอะเพาเวอร์ ที่สำคัญโฮมโปรมีสาขามากถึง 20 แห่ง และการเข้าสู่ตลาดมากว่า 10 ปีจึงเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้ผู้บริโภครู้จักโฮมโปรมากกว่าโฮมเวิร์ค

ทั้งนี้หลังจากโฮมเวิร์คเปิดตัวสาขาเพชรเกษม 65 ด้วยการทำแคมเปญแจกอั่งเปาฟรีมูลค่า 200 บาทให้กับลูกค้าที่มาลงทะเบียน 2,500 คนแรก ด้านโฮมโปรก็มีการทำแคมเปญรับตรุษจีนโดยชูมูลค่าอั่งเปาที่สูงกว่า เช่น ผู้บริโภคที่ซื้อครบ 25,000 บาท จะได้อั่งเปา 500 บาท ซื้อครบ 120,000 บาท จะได้อั่งเปามูลค่า 5,000 บาท

รูปแบบสาขาของโฮมเวิร์คในปัจจุบันมี 2 คอนเซ็ปต์ คือ โฮมเวิร์ค Inspire your home idea ซึ่งจะต้องใช้พื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร โดยมีการวางไอเดียให้กับการใช้สินค้าต่างๆของโฮมเวิร์ค เช่น การจัดตกแต่งห้องครัว ห้องน้ำ เป็นรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเลือกซื้อให้กับลูกค้า และอีกคอนเซ็ปต์คือ D.I.Y.:The Convenient Hardware Store เป็นรูปแบบร้านสะดวกซื้อที่เน้นสินค้าฮาร์ดแวร์หรืออุปกรณ์สร้างและซ่อมแซมบ้าน ซึ่งจะใช้พื้นที่ประมาณ 500-1,000 ตารางเมตรเท่านั้น

อย่างไรก็ดีนโยบายในการขยายสาขาของโฮมเวิร์คจากเงินลงทุนกว่า 90% จะเน้นการขยายสาขาสแตนอะโลนหรือรูปแบบของ Inspire your home idea เนื่องจากพบว่าการทำร้านรูปแบบดังกล่าวให้สมบูรณ์จะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายต่อครั้งให้สูงขึ้นได้ เช่น สาขารัตนาธิเบศร์ มียอดขายต่อบิลสูงขึ้น 25% จากปกติที่ลูกค้าจะซื้อเฉลี่ยครั้งละ 1,500 บาท

สำหรับผลประกอบการในปีนี้โฮมเวิร์คตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 1,500 ล้านบาท โดยจะมีการใช้งบการตลาด 50 ล้านบาท และจะมีการขยายสาขาที่ 11 ที่พัทยาในรูปแบบสแตนอะโลน ส่วนสาขาเก่าก็จะมีการรีโนเวทใหม่ โดยเฉพาะสาขาที่เป็น Inspire your home idea แบบเดิม ก็จะถูกปรับให้เป็นแบบสาขาเพชระเกษม 65 เช่นการเพิ่มสินค้าซอฟต์ไลน์จากสัดส่วน 20% เพิ่มเป็น 40% โดยสินค้าหลักกว่า 60% ยังคงเป็นฮาร์ดไลน์หรืออุปกรณ์ก่อสร้างและซ่อมแซมบ้าน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us