เสียงเพลง "เก็บตะวัน" จากเสียงร้องของผู้บริหารบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ดังกระหึ่มไปทั่วดอยอ่างขางเมื่อคืนวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา

เป็นเพลงที่มีความหมายอย่างยิ่งของผู้บริหารชุดนี้ แน่นอนว่า ในยุคที่ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา พวกเขาต้อง "เก็บตะวันมาไว้ในใจ" เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน จนกระทั่งวันที่ฟ้าเคยเต็มไปด้วยพายุฝน ได้ถูกตะวันสาดแสงแรงกล้า ให้ฟ้างดงามได้อีกครั้งหนึ่ง

"ผมจำได้ไม่มีวันลืม และไม่มีทางที่จะให้มันเกิดขึ้นมาอีก" ทิฆัมพร เปล่งศรีสุข ประธานกรรมการบริหารบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ ย้อนรำลึกความหลังท่ามกลางบรรยากาศหนาวเหน็บ กำลังใจสำคัญอย่างหนึ่งที่กระตุ้นให้เขาไม่ยอมแพ้ ฮึดสู้ขึ้นมาได้อีกครั้ง คือลูกสาวและลูกชายทั้ง 3 คนที่ตอนนั้นยังเล็กมาก

จุดแข็งอย่างหนึ่งของบริษัทที่ทิฆัมพรมองเห็นในตอนนั้นก็คือ ทีมบริหารหลังการขายมีผลงานเป็นที่ยอมรับของลูกค้าอย่างมาก และเขาได้ใช้เรื่องนี้เป็นฐานสำคัญในก้าวต่อๆ มาจนถึงปัจจุบัน

วัฒนธรรมของที่นี่ สอนให้พนักงานทุกคนต้องไม่หลบเมื่อเจอกับปัญหาและถูกสอนว่า คำตำหนิของลูกค้าที่นำเอามาแก้ไข จะช่วยปิดช่องว่างของความผิดพลาดทั้งหมด รวมทั้งต้องมีจิตใจในการบริการและเอ็นเตอร์เทนผู้คน

ตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ในงานแถลงข่าว และผลดำเนินงานในปี 2548 และแผนงานในปี 2549 และงานเลี้ยงขอบคุณนักข่าวที่ผ่านมา เลยมีบรรยากาศที่สนุกสนานด้วยการช่วยกันเอ็นเตอร์เทนของเหล่าผู้บริหารตั้งแต่ระดับ CEO, กรรมการบริหาร ลงมาถึงพนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ น่าจะสะท้อนบุคลิกของ แอล.พี.เอ็น. ได้ระดับหนึ่ง

เสียงเพลงเพราะๆ จากพิเชษฐ ศุภกิจจานุสันต์ เริ่มกล่อมบรรเลงตั้งแต่เริ่มรินไวน์แก้วแรกเรียกน้ำย่อย ก่อนต่อด้วยเพลงเดี่ยว เพลงคู่ ของบรรดาพีอาร์สาวสวย เพลงซึ้งๆ จากคัมภีร์ จองธุระกิจ และบรรดานักข่าวบางคนที่เริ่ม "ได้ที่" ส่วนจรัล เกษร หาจังหวะที่หลายคนกำลังชุลมุนกับเกมนับตัวเลข แอบขึ้นไปคว้าไมค์ร้องเพลงสนุกๆ ของบีจีส์ แก้ง่วงหลายเพลง ก่อนที่จะแยกย้ายไปนอน โดยเฉพาะ ทีมงานแอล.พี.เอ็น.นั้น ถึงจะเหนื่อยแต่คงจะมีแรงฝันหวานวางแผนการใช้เงินโบนัสที่เฉลี่ยได้กันถึง 4.5-8 เดือน ก่อนจะตื่นขึ้นมาในตอนเช้าวันใหม่ที่อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์

ทราบว่าผู้บริหารหลายคนร้องเพลงเก่งเพราะขยันขยับลูกคอ เมื่อต้องไปร่วมงานกิจกรรมกับชาวคอนโด ซึ่งเป็นลูกค้าในโครงการต่างๆ บ่อย

ส่วนโปรแกรมการท่องเที่ยวที่จัดไว้ เช่น การขี่ช้าง ล่องแพ นั่งเกวียนที่มีเส้นทางลัดเลาะไปยังบ้านชาวเขา ชมตลาด หาซื้อผ้าปัก และเครื่องเงินที่ชาวเขานำมาขาย รวมไปถึงการชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า

งานนี้บริษัทหมดเงินไปประมาณ 1 ล้านกว่าบาท และเป็นเพียงกิจกรรมหนึ่งในหลายกิจกรรมที่ได้จัดให้สื่อมวลชนในแต่ละปีเช่นเดียวกับการทำกิจกรรมหลังการขายกับลูกบ้านในโครงการต่างๆ ที่มีประมาณ 1.5 ยูนิต หรือประมาณ 4-5 หมื่นคน ผ่านนิติบุคคลอาคารชุด 40 นิติ บุคคล อย่างต่อเนื่องไม่รวมข่าวคราวผ่านนิตยสาร Lumpini และ Grand U News อีก 10 ฉบับต่อปี

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี คือต้นทุนทางการตลาดที่ชาญฉลาดคือวิธีคิดของทิฆัมพร เปล่งศรีสุข ซึ่งผู้บริหารในรุ่นต่อไปต้องเรียนรู้ และสืบทอดต่อไปให้ได้