เคยเห็นไหม? คนรวยอายุตั้ง 63 แล้วยังถักเปียและใส่มินิสเกิร์ตสั้นๆ สีแดง สวมถุงเท้าเป็นเด็กสาววัยรุ่นได้ โดยไม่เคอะเขิน แถมยังยิ้มแฉ่งชอบใจที่เป็นเป้าสายตาด้วย ทั้งๆ ที่เพิ่งโดนตั้งข้อสงสัยว่าเธอปลอมแปลงพินัยกรรมหลังจากการหายไปของสามีมหาเศรษฐีฮ่องกง Teddy Wang ที่ถูกลักพาตัวไปตั้งแต่ปี 1990

เธอคือ Nina Wang Kung Yu-sum ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีนีที่รวยที่สุดในเอเชีย เพราะอาณาจักรธุรกิจกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Chinachem Group เจ้าของตึกระฟ้าในฮ่องกงกว่า 56 โครงการ มูลค่ากว่า 128 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีความฝันจะสร้างตึก Nina Tower ที่สูงที่สุดในฮ่องกงด้วย แต่ติดขัดที่ทางการห้ามสร้างตึกสูงนี้ใกล้สนามบินChek Lap Kok จึงต้องลดความสูงของตึกลง

Nina เป็นผู้หญิงที่ฉลาดหลักแหลม แต่จริงจังหมกมุ่นกับความฝันวัยหวานของ ตัวเองมากๆ

ปฐมวัยของ Nina Wang เกิดและ เติบโตในเซี่ยงไฮ้เมืองเก่า และแต่งงานกับ Teddy ซึ่งอายุแก่กว่า 3 ปี ทั้งคู่ เป็นเพื่อน เล่นกันตั้งแต่วัยเยาว์ Teddy ชอบเรียกชื่อเล่นเธอว่า Siu Timtim (Little Sweetie) ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนบ้างานขนาดหนัก มีเล่ห์เหลี่ยมทางธุรกิจแพรวพราวในการบริหารเงินเข้ามากกว่าเงินออก ที่ดินแต่ละ ผืนที่เขาซื้อสะสมมาจากการซื้อสิทธิ์จากชาวนาที่ได้รับจัดสรรที่อยู่จากทางการ โดย เฉพาะเขต New Territories ที่อยู่ระหว่างชนบทเกาลูนกับชายแดนจีน Teddy ได้พัฒนาที่ดินนี้เป็นอพาร์ตเมนต์เจาะกลุ่มชนชั้นกลาง ความสำเร็จของธุรกิจทำให้ครอบครัว Wang มั่งคั่งมีสินทรัพย์เพิ่มพูน เป็น 2.4 พันล้านเหรียญฮ่องกง จากเดิมปี 1988 แค่ 130 ล้านเหรียญเท่านั้น

แต่ความล้มเหลวในชีวิตแต่งงานกลับปรากฏในปี 1968 เมื่อ Teddy ได้เห็น ภาพ Nina กับชู้รัก ซึ่งถ่ายโดยนักสืบเอกชนที่พ่อของเขาได้ว่าจ้าง งานนี้ Teddy ถึงกับขอแก้พินัยกรรมปี 1960 ที่เคยยกสมบัติทั้งหมดให้ภรรยาสุดที่รักและพ่อ เปลี่ยนเป็นพินัยกรรมใหม่ยกให้พ่อคนเดียวเท่านั้น เพราะทั้งคู่ไม่มีทายาท

ชีวิตราวละครจีนชุดที่ยังไม่จบ ในปี 1983 Teddy ถูกลักพาตัวครั้งแรก เป็นข่าว ดังกระฉ่อนไปทั่วฮ่องกง Nina ต้องจ่ายเงินค่าไถ่สูงถึง 11 ล้านเหรียญฮ่องกง ตำรวจจึงพบ Teddy ในตู้เย็นที่แฟลตโทรมๆ ฝั่งเกาลูน เขาไม่ได้รับบาดเจ็บตลอด 8 วันที่โดนจับ เมื่อรอดมาได้เขากลับด่าภรรยาว่าจ่ายแพง !

ต่อมา ในปี 1990 เกิดการลักพาตัว Teddy อีกจากรถเบนซ์ที่จอดหน้าสนามม้า Hong Kong Jockey Club แล้วโจรเรียกค่าไถ่สูงถึง 60 ล้านเหรียญฮ่องกง แต่คราวนี้ปรากฏว่า Teddy ได้ถูกฆ่าตายแม้จะจ่ายเงินค่าไถ่ให้กึ่งหนึ่งหรือ 34 ล้านแล้ว ก็ตาม หนึ่งใน 21 โจรที่ถูกจับได้สารภาพ ว่าเอาศพทิ้งทะเลไปแล้ว เพื่อทำลายหลักฐาน แต่ Nina ยืนยันว่าสามีเธอยังไม่ตายและหวังว่าเขาจะกลับมาหาเธอ

หลังการหายสาบสูญของสามี Nina ครอบครองอำนาจและสินทรัพย์ทั้งหมด จนกระทั่งผ่านไปสิบปี ในปี 1999 พ่อสามี Wang Din-Shin ขอให้ศาลประกาศรับรองว่า Teddy Wang ตาย เพื่อ จะได้ดำเนินคดีมรดกมูลค่า 128 ล้านเหรียญสหรัฐ กับข้อหาพินัยกรรมปลอมซึ่งมีข้อความยกทรัพย์สินทั้งหมดให้กับ Nina พร้อมกับคำหวานจ๋อย "One life, one love" ที่อ้างว่า Teddy เขียนถึงเธอผู้เป็นสุดที่รักของเขา

หลังจากใช้เวลา 171 วัน ศาลได้พิพากษาเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2545 ว่า พินัย กรรมนั้นปลอม และตัดสินให้ Wang Din-Shin พ่อผู้ชราวัย 90 ของ Teddy เป็นผู้รับ มรดก ทำให้พ่อเฒ่ากลายเป็นมหาเศรษฐีคนล่าสุดของฮ่องกงไปเลย

แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ Nina ยังคงจริงจังกับการไล่ตามความฝันวัยหวานของเธออยู่เสมอ โดยสนใจลงทุนในธุรกิจหนังสือการ์ตูนและตุ๊กตาที่เป็นเด็กสาวสดใสไว้ผมเปียบุคลิกคล้ายเธอ ขณะเดียว กันก็มีรายการทีวีสำหรับเยาวชน Young Asia TV ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในลังกา ที่เธอถือหุ้นอยู่ เธอมีแผนส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือด้านการศึกษาและวัฒนธรรมกับจีน โดยติดต่อผ่าน CCTV (Central China Television) ซึ่งผูกขาดผู้ชมจีนกว่า 1,300 ล้านคน

"I feel I do not have enough money. I need money to invest in biotechnology, education and culture, banking, media...so much so that I just don't have enough money."

นี่คือความรู้สึกของมหาเศรษฐีนี ที่รวยที่สุดในเอเชีย ที่ใช้เงินน้อยมากแค่เดือนละ 400 เหรียญสหรัฐ และชอบกินอาหารฟาสต์ฟู้ดมากกว่า แต่ถ้าต้องไปกินเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนตามภัตตาคารแล้ว ทั้งคู่คือ Nina และ Teddy จะเก็บอาหารที่เหลือใส่กล่องทัพเปอร์แวร์กลับบ้าน เพื่อน เก่าเล่าว่าที่ตู้กับข้าวบ้านนี้เต็มไปด้วยกล่อง ทัพเปอร์แวร์ หรือบางครั้งนักข่าวก็เห็น Nina เลือกซื้อกระโปรงลดราคาที่กระบะหน้าโรงงาน หรือต่อคิวจองตั๋วละครราคาถูก

นอกจากบุคลิกแต่งตัวและทำผมสีย้อมแปลกๆ เพื่อให้รับกับสีกระโปรงแล้ว Nina ไม่แคร์ใครทั้งในห้องประชุมบอร์ดบริษัทและในทุกสถานที่ เธอยังมีสัตว์เลี้ยงชื่อ Wei Wei ซึ่งเป็นสุนัขพันธ์ German shepherd และลิง ที่พาออกงานดินเนอร์ปาร์ตี้ด้วย

ถึงเธอจะมีรสนิยมแปลกก็ตาม แต่ก็สามารถนำกลุ่มธุรกิจ Chinachem Group ไปสู่ทิศทางการลงทุนที่เกินกว่าธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สามีเคยทำ โดยลงทุนในธุรกิจ Biotechnology, โรงหนัง, IT, โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และศูนย์ การค้าเกมส์ในสหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลียและอังกฤษ

นอกจากนี้เธอยังเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาของสภาประชาชนของจีน ซึ่งเต็มไปด้วยผู้มีอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจของฮ่องกงด้วย เธอเคยบริจาค เงิน 7 ล้าน เพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่เจ้าหน้าที่จีนเพื่อไปเรียนที่สหรัฐฯ ด้วย

วันนี้ Nina Wang ยังคงจริงจังกับ การไล่ทำความฝันให้เป็นจริงอย่างไม่แคร์ใคร เธอประกาศว่า วันใดที่เธอสิ้นลม เธอ จะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้กับองค์กรการกุศลทั้งหมด แต่ก่อนจะถึงวันสุดท้ายของเธอ รหัสคดีเกี่ยวกับฆาตกรรมและพินัยกรรมเลือดของ Teddy ยังคงเป็นปริศนาที่สร้างละครแห่งชีวิตได้อย่างมีสีสันเร้าใจชาวโลก