Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2549








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2549
บล.ไทยพาณิชย์ลุยธุรกิจอนุพันธ์             
โดย ณัฐวัฒน์ หอมจิตต์
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด

   
search resources

ไทยพาณิชย์, บล.
Investment
เอสซีบีควอนท์, บลจ.




ตลาดอนุพันธ์ที่กำลังจะเปิดซื้อขายปลายเดือนเมษายนที่จะถึงนี้กำลังจะกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจแหล่งใหม่ของโบรกเกอร์ที่เร่งเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่

"ผมมั่นใจว่าตลาดนี้จะเป็นไปตามแพทเทิร์นของต่างประเทศ นั่นคือสุดท้ายแล้วตลาดอนุพันธ์จะ ใหญ่กว่า SET แต่น่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป"

กฤษณ์ เกษมศานติ์ กรรมการผู้จัดการ บล. ไทยพาณิชย์ (SCBS) กล่าวประโยคข้างต้นในระหว่างการสนทนากับ "ผู้จัดการ" สะท้อนความคาดหวังที่มีต่อตลาดอนุพันธ์ (TFEX) ซึ่งเป็นสาเหตุให้บล.ไทยพาณิชย์ใช้เวลาเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเปิดบริการธุรกิจด้านนี้นานร่วมปีครึ่ง

ตามกำหนดการล่าสุดที่มีการประกาศออกมา ตลาดอนุพันธ์ฯ จะเริ่มเปิดทำการซื้อขายสินค้าตัวแรกคือ ฟิวเจอร์สของดัชนี SET50 (SET50 Index Futures) ในวันที่ 28 เมษายนที่จะถึงนี้เป็นวันแรก เลื่อนมาจากเดิมที่กำหนดไว้ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บล.ไทย พาณิชย์ได้มีการเตรียมตัวในธุรกิจนี้มาตั้งแต่กลางปี 2547 เริ่มจากการดึง ตัวปริทรรศน์ เหลืองอุทัย ซึ่งมีประสบการณ์ด้านอนุพันธ์โดยตรงจากสถาบัน การเงินทั้งไทยและต่างประเทศมาร่วมทีม มีการจัดตั้ง บลจ.เอสซีบีควอนท์ เพื่อทำงานร่วมกับ บล.ไทยพาณิชย์ในการออกโปรดักต์อนุพันธ์จำหน่ายให้กับนักลงทุนที่สนใจ รวมทั้งการเตรียมระบบรองรับการเทรดและการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่มาร์เก็ตติ้งอีกกว่า 100 คน

ขณะเดียวกันก็เริ่มทำตลาดไปยังกลุ่มนักลงทุน ทั้งที่เป็นสถาบันไทยและต่างประเทศ รวมทั้งกลุ่มนักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะการจัดสัมมนาให้ความความรู้กับนักลงทุนรายย่อยที่มีต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา

"การสัมมนาของเราแต่ละครั้งมีลูกค้าเข้าฟังอย่างน้อยๆ เกือบ 50 คน แล้วทุกคนกระตือรือร้นที่จะมาฟัง ไม่เหมือนตอนจัดสัมมนาเรื่องหุ้นที่บางคนมาก็เพราะความเกรงใจ"

อย่างไรก็ตาม กฤษณ์เชื่อว่าหลังจากที่ตลาดอนุพันธ์เริ่มเปิดทำการแล้ว ธุรกิจส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ เนื่องจาก เป็นกลุ่มที่มีความคุ้นเคยกับอนุพันธ์อยู่แล้วจากตลาดต่างประเทศ ส่วนนักลงทุนสถาบันไทยและนักลงทุนรายย่อยคงต้องใช้เวลาทำความเข้าใจสักพักก่อนที่จะตัดสินใจเข้าลงทุน โดยคาดว่าในระยะแรกตลาดอนุพันธ์ฯ น่าจะมีปริมาณการซื้อขายราววันละ 1,000 สัญญาและ บล.ไทยพาณิชย์ตั้งเป้าที่จะครองส่วนแบ่งการตลาดอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าส่วนแบ่งการตลาด ในธุรกิจโบรกเกอร์หุ้นในปีนี้คือ 6% คิดเป็นรายได้ประมาณ 5-10 ล้านบาท

"ปีที่แล้วเราตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ตลาดหุ้นเอาไว้ที่ 5% เราก็ทำได้ที่ 5.15% ปีนี้ตั้งไว้ที่ 6% เราคิดว่าอย่างน้อยตลาดอนุพันธ์ต้องได้เท่าตลาดหุ้น เพราะเรามีการเตรียมตัวมาอย่างดี"

เป้าหมายในธุรกิจอนุพันธ์ของ บล.ไทยพาณิชย์ไม่จำกัดอยู่เพียงธุรกิจโบรกเกอร์เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงอนุพันธ์ในตลาดโอทีซีอีกด้วย โดยร่วมกับ บลจ.เอสซีบีควอนท์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือทำการพัฒนาโปรดักต์ อนุพันธ์ขายให้กับนักลงทุน มุ่งเป้าไปที่นักลงทุนบุคคลที่มีวงเงินลงทุนตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไปที่ต้องการผลตอบแทนแน่นอนในระดับหนึ่ง โดยใช้เครื่องมือการลงทุนที่ไม่มีในตลาดปัจจุบัน

"ลูกค้าของเราเป็นกลุ่มที่ต้องการผลตอบแทนที่สามารถจำกัดความเสี่ยงได้ มีความต้องการที่ซับซ้อนกว่านักลงทุนทั่วไป ถ้าเป็นกลุ่มที่เก็งกำไรหุ้นแล้วต้องการจะใช้อนุพันธ์เพื่อเก็งกำไรให้ได้ผลตอบแทนสูงๆ อันนี้ไม่ใช่ลูกค้าของเรา" ปริทรรศน์ เหลืองอุทัย กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอสซีบีควอนท์ กล่าวกับ "ผู้จัดการ"

โปรดักต์ที่ บลจ.เอสซีบีควอนท์พัฒนา ขายให้กับนักลงทุนในปีที่ผ่านมามีหลายตัวด้วยกัน อาทิ SUPER และ COSEY ซึ่งเป็นอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับราคาหุ้น ปตท. โดยอนุพันธ์ SUPER มีอายุ 3 เดือน รับประกันเงินต้น 100% และให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยที่อิงกับราคาหุ้น ปตท. โดยมีขั้นต่ำที่ 2% ขณะที่ COSEY มีอายุ 6 เดือน ไม่รับประกันเงินต้น แต่ให้ดอกเบี้ย 6%

รวมทั้งอนุพันธ์ SUNRISE/SUNSET อายุ 9 เดือน รับประกันคืนเงินต้นเต็มจำนวนและให้ผลตอบแทนขั้นต่ำ 2% นอกจากนี้นักลงทุนยังมีโอกาสรับผลตอบแทนพิเศษระหว่าง 1.25-2.0% เพิ่มเติมโดยอ้างอิงกับการเปลี่ยนแปลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ

ปริทรรศน์เล่าว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในปัจจุบัน เป็นโอกาสให้พัฒนาโปรดักต์ที่เป็นอนุพันธ์ดอกเบี้ยได้มากขึ้น เช่น อนุพันธ์อายุ 1 เดือนให้ดอกเบี้ย 3% ซึ่งกลุ่มลูกค้าให้ความสนใจ เพราะความเสี่ยงต่ำและให้ผลตอบแทนสูง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us