|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
จีสตีล หุ้นน้องใหม่เทรดรายแรกของปีนี้ต่ำจองสวนทางดัชนีหุ้นไทยพุ่ง 16 จุด ผู้บริหาร โบ้ยภาวะตลาดไม่ดี ส่วนเอเซียพลัส ที่ปรึกษาฯชี้นักลงทุนไม่เข้าใจปรัชญาลงทุน มองกันแค่วันแรก เชื่อฝรั่งถือยาว ชมรมวาณิชธนกิจหารือ -แก้ปัญหาหุ้นต่ำจอง ด้าน"กิตติรัตน์" ชี้เงินลงทุนสั้นขายวันแรก เชื่อไม่กระทบภาพรวม
หุ้นบริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ GSTEEL เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วานนี้เป็นวันแรก และเป็นบริษัทแรกของปี 2549 แต่ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับนักลงทุนได้ แม้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นปิดที่ 762.70 จุด เพิ่มขึ้น 16.75 จุด หรือเพิ่มขึ้น 2.25% ทั้งนี้เมื่อเปิดตลาดราคาหุ้นจีสตีลซื้อขายที่ 1.50 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือลดลง 6.25 % จากราคาจอง 1.60 บาท
โดยราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1.29 บาท ราคาสูงสุดอยู่ที่ 1.59 บาท และราคาปิดตลาดที่ 1.33 บาท ต่ำกว่าราคาจอง 0.27 บาท หรือต่ำกว่าราคาจอง 16.88% มูลค่าการซื้อขาย 2,001.21 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.จี สตีล (GSTEEL) เปิดเผยว่า ราคาหุ้นของบริษัทที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาจอง เนื่องจากภาวะตลาดในช่วง 2 วันที่ผ่านมาไม่ค่อยดี ซึ่งเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ และบริษัทอาจจะมีการประชาสัมพันธ์น้อยเกินไป แต่บริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีมีรายได้ที่เติบโตต่อเนื่อง มีการบริหารต้นทุนที่ดี ซึ่งการกำหนดราคาก็ต่ำ มี P/E ที่ 6 เท่า จากกลุ่มเหล็กที่ 7-8 เท่า ซึ่งถือต่ำสุดในกลุ่ม
"การที่หุ้นต่ำกว่าราคาจองนั้นส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับภาวะอุตสาหกรรมเหล็กที่ไม่ดี เพราะบริษัทที่ทำธุรกิจเหล็กมีหลายอย่าง แต่บริษัทมีการทำธุรกิจที่ครบวงจรจีงไม่น่าได้รับผลกระทบดังกล่าว " นายสมศักดิ์ กล่าว
สำหรับความต้องการใช้เหล็กในประเทศไทยนั้นยังมีความต้องการสูง ซึ่งการที่รัฐบาลจีนจะมีการสั่งปิดโรงงานเหล็กที่ไม่มีคุณภาพลงนั้นก็จะส่งผลดี ทำให้ราคาเหล็กไม่มีความผันผวนมาก และเชื่อว่าปีนี้ราคาเหล็กคงจะทรงตัว
ทั้งนี้บริษัทคาดรายได้ปี 2548 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 20,000 ล้านบาท คาดมีกำไรสุทธิ 2,600 - 2,700 ล้านบาท ถึงแม้ในไตรมาส 3/48 จะมีกำไรที่ลดลงแต่ในไตรมาส 4 ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้บริษัทคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลได้สำหรับผลประกอบการปี 2548 แต่อาจจะไม่ได้เป็นไปตามนโยบายที่ 50% ของกำไรสุทธิ เพราะบริษัทจะต้องนำเงินไปใช้ในการขยายกำลังการผลิต
นายอุดมศักดิ์ ชาครียวณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.จี สตีล กล่าวว่า การที่หุ้น จี สตีล ต่ำจอง อาจะเป็นเพราะนักลงทุนรายย่อยไม่เข้าใจปรัญญาการลงทุนเชื่อกันว่ากำหนดราคาจองสูงเกินไป แต่อย่างไรก็ตามบริษัทกำหนดราคา ที่ 1.60 บาทมี P/E 6 เท่า ต่ำกว่าอุตสาหกรรม และต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีของ จี สตีล ที่ 2.60 บาท
อีกทั้ง จากที่ไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์)ในต่างประเทศนั้นให้ความสนใจจองซื้อจำนวนมาก อยากให้นักลงทุนมองในการลงทุนระยะยาวไม่ใช่มองในวันแรกที่เข้าซื้อขาย และเชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศจะไม่มีการขายหุ้นออกมาเนื่องจากมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัท
นอกจากนี้ บริษัทยืนยันว่าไม่มีใครซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่าราคาจองแน่นอน และเชื่อว่า นักลงทุนที่ได้หุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจองเมื่อปี 2546 นั้น จะไม่มีการขายออกมา เพราะติดระยะเวลาห้ามซื้อขาย
จากการที่หุ้นไอพีโอ ต่ำว่าราคาจองนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯก็มีความกังวล จึงให้ชมรมวาณิชธนกิจ (IB CLUB)ให้ไปหารือว่าเกิดจากปัจจัยใด แต่ไม่ใช่เกิดจากที่ปรึกษามีการตั้งราคาที่สูงเกินไปแน่นอน ซึ่งอาจจะต้องให้ไอพีโอทุกตัวมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (กรีนชู) และจะต้องมีการเพิ่มขนาดจากกรีนชูให้มากว่า 10% หรือไม่ หรืออาจจะให้บริษัทมีการซื้อหุ้นคืน ซึ่งตรงนี้ก็จะต้องมีการหารือกันต่อไป โดยวานนี้ (25 ม.ค.) ชมรมก็จะมีการหารือเรื่องดังกล่าวว่า
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯเปิดเผยว่า อาจเกิดจากทุนระยะสั้นเข้ามาจองซื้อหุ้นจีสตีล และขายออกมาในวันแรกเพื่อนำเงินไปซื้อหุ้นตัวอื่นจึงเชื่อว่าปรากฎการณ์ราคาหุ้นที่ต่ำกว่าราคาจองซื้อจะเกิดขึ้นในระยะสั้น แต่ในระยะยาว เชื่อว่าราคาหุ้นน่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะนักลงทุนระยะสั้นได้ขายหุ้นออกมาแล้ว และราคาที่ต่ำจองแสดงว่าไม่มีการพยุงราคา
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า หุ้น จีสตีล ถือเป็นหุ้นบริษัทแรกที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ฯของปีนี้ ซึ่งการที่ราคาหุ้นลดลงจากราคาจองนั้น ก็จะมีผลกระทบด้านจิตวิทยาต่อภาวะตลาดหุ้นระยะสั้น แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบทำให้บริษัทจดทะเบียนอื่นๆ ชะลอการเข้าตลาดฯเพราะบริษัทแต่ละแห่งอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน
|
|
|
|
|