Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 มกราคม 2549
ผู้ประกอบการอิฐมวลเบาเกาะบ้านราคาถูกดีไซน์โปรดักส์เจาะจัดสรร-บ้านเอื้ออาทร             
 


   
www resources

โฮมเพจ ซีดีจี ไมโครซีสเต็มส์, บจก.

   
search resources

Real Estate
ซุปเปอร์บล๊อก, บมจ.
Tools and Equipment




"ซุปเปอร์บล๊อก" เชื่อยอดขายโตอิงตลาดอสังหาฯ หลังจัดสรรหันเจาะลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ด้านผู้ประกอบการรักษาระดับกำลังผลิตตามดีมานด์ในตลาด คาดกำลังผลิตตลาดรวม12ล้านตร.ม. ขณะที่ความต้องการใช้พุ่งแตะ 17-18ล้านตร.ม. เล็งปรับราคาขึ้น 8-15% ตามต้นทุนการผลิต ส่วนค่าย"DCON" เจาะบริษัทรับเหมาบ้านเอื้ออาทร หวังต่อยอดการใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมออก 3 โปรดักส์ใหม่เจาะตลาดบ้านถูก คาดดันรายได้เพิ่ม 70-80%

นายจอมทรัพย์ โลจายะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายคอนกรีตมวลเบา (Autoclaved Aerated Concrete) หรือ AAP เปิดเผยถึงตลาดรวมอิฐมวลเบาว่า ในปีที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นตลาดหลักที่ใช้อิฐมวลเบาในการก่อสร้าง มีอัตราการขยายตัวที่ลดลง เนื่องมาจากลูกค้ามีการชะลอการซื้อที่อยู่อาศัย จากปัจจัยการขึ้นราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ในขณะที่ผู้ประกอบการผลิตอิฐมวลเบามีการขยายกำลังการผลิตเพิ่ม ซึ่งผู้ผลิตได้ประมาณการว่า ความต้องการในตลาดจะมีอัตราการขยายตัวตามตลาดอสังหาฯ

โดยตลาดรวมในปีที่ผ่านมา มีการผลิตอิฐมวลเบาออกสู่ตลาดประมาณ 15 ล้านตารางเมตร ส่งผลให้เกิดโอเวอร์ซับพลาย ทำให้ผู้ประกอบการในตลาดนำกลยุทธ์การแข่งขันด้านราคาเข้ามาใช้ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเริ่มลดกำลังการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ส่งผลให้ในต้นปีดีมานด์และซัปพลายกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลย์ ล่าสุดดีมานด์เริ่มปรับตัวสูงขึ้นกว่าซัปพลายในตลาดตามอัตราการเติบโตของตลาดอสังหาฯ

ทั้งนี้ เนื่องจากในปี49 ผู้ประกอบการในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เริ่มปรับกลยุทธ์หันมาสร้างบ้านหลังเล็กลงและราคาต่ำลง เพื่อรองรับกับกำลังซื้อของผู้บริโภคในตลาดที่ลดลง จากภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหันมาสร้างบ้านในระดับราคา 3-5 ล้านบาท จากเดิมที่ในช่วงปี48 ที่ผ่านมาผู้ประกอบการเน้นเจาะกลุ่มตลาดระดับกลางมากขึ้น ทำให้ความต้องการในตลาดอิฐมวลเบาเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทำให้ในปี2549 ตลาดหันมาแข่งขันด้านคุณภาพและบริการมากขึ้น

สำหรับในปีนี้ คาดว่าความต้องการในตลาดรวมจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 17-18 ล้านตารางเมตร ส่วนกำลังการผลิตโดยรวมในตลาดคาดว่าจะมีการผลิตอิฐมวลเบาเข้าสูตลาดประมาณ 12 ล้านตารางเมตร ซึ่งจำนวนการผลิตดังกล่าว จะมากกว่าจำนวนที่บริษัทประมาณการหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการใช้กำลังผลิตของ บริษัท ควอลิตี้ คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) หรือคิวคอน ว่าจะมีการผลิตสินค้าออกสูงตลาดมากเท่าใด ซึ่งในส่วนของบริษัทเอง คาดว่าจะใช้กำลังการผลิตเต็มที่ประมาณ 4 ล้านตารางเมตร จากกำลังการผลิตเต็มกำลัง 5 ล้านตารางเมตร ซึ่งกำลังการผลิตดังกล่าวยังไม่ได้นับรวมกำลังการผลิตในโรงงานแห่งที่3 คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องการผลิตได้ในเร็วๆ นี้

นายจอมทรัพย์ กล่าวว่า ในปี 2547 ที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายรวม 329 ล้านบาท และมีกำไรจากการขายสุทธิ 97 ล้านบาท ส่วนในปี2549 นี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายเต็มกำลังการผลิต4 ล้านตารางเมตร โดยจะมีการปรับราคาขายขึ้นอีกประมาณ 8-15% ตามต้นทุนแปรผันของบริษัทและช่วงฤดูการขาย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ต้นทุนการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้นมา 5-15% โดยบริษัทได้หันไปใช้พลังงานจากถ่านหินแทนการใช้น้ำมันเตา ทำให้ต้นทุนด้านเชื้อเพลิงการผลิตลดลงประมาณ 25%

สำหรับปี49 นี้บริษัทจะเน้นการทำตลาดผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ แผนพับและวารสารถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ซึ่งได้ผลดีกว่าการทำตลาดผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และนอกจากนี้จะเน้นการให้ความรู้กับนักศึกษาคณะวิศวกรรมและสถาปนิคในสถาบันต่างๆ และวิศวกรก่อสร้าง โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณด้านการตลาดประมาณ 5% ของรายได้

" การที่อิฐมวลเบา LCL จะเข้ามาแทนที่ตลาดอิฐมวลเบา AAP ได้นั้นเป็นเรื่องยาก เพราะหากลูกค้าที่เลือกใช้อิฐมวลเบาแทนอิฐมอญแล้ว เชื่อว่าทุกรายต้องการสินค้าที่คุณภาพสูง ในขณะที่ อิฐมวลเบาระบบ LCL จะมีราคาถูกกว่าแต่คุณภาพแตกต่างกันมาก ดังนั้นจึงมั่นใจว่าการเข้ามาแทนที่ของอิฐมวลเบา LCLคงจะเป็นไปไม่ได้ "นายจอมทรัพย์กล่าว

เจาะบริษัทรับเหมาบ้านเอื้ออาทร

ด้านนายวิทวัส พรกุล ประธานกรรมการบริหารบริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นพื้นสำเร็จรูปและเสาเข็มอัดแรงภายใต้ยี่ห้อ "DCON" กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้ตัดสินใจขยายกำลังการผลิตสินค้าใหม่คอนกรีตมวลเบา CLC (Cellilar light Weight Concrete) ซึ่งใช้เทคโนโลยีจากประเทศเยอรมนี ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตคอนกรีตมวลเบาได้วันและ 600 ลบ.ม.ต่อวัน หรือ 3 ล้านตารางเมตรต่อปี โดยคาดว่าจะสามารถเดินกำลังการผลิตได้ในกลางปี2548 แล้วนั้น บริษัทคาดว่าจะเดินเครื่องผลิตได้ในเดือน พ.ค.นี้ หลังจากที่ทดสอบระบบการผลิตทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

โดยตลาดของอิฐมวลเบาในปีนี้จะยังอิงกับตลาดบ้านจัดสรรเหมือนเดิม โดยในปีนี้บริษัทจะเข้าไปทำตลาดในโครงการจัดสรรในกลุ่มบ้านระดับ 3-5 ล้านบาทเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีส่วนขยายสินค้าอิฐมวลเบาได้มากขึ้น เนื่องจากที่อยู่อาศัยในระดับราคาดังกล่าว จะหันมาใช้อิฐมวลเบาระบบ CLC ทดแทนอิฐมวลเบา ระบบ AAP ซึ่งจะช่วยให้ควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้มากขึ้น เนื่องจากระดับราคาถูกกว่า

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะออกสินค้าตัวใหม่ 3 ตัวประกอบด้วย แผ่นพื้น ,เสาเข็ม และรั้ว โดยจะเปิดตัวและเริ่มขายสินค้าดังกล่าวในช่วงเดือน มิ.ย. 49 นี้ เน้นเจาะตลาดในกลุ่มบ้านราคาถูกที่ก่อสร้างด้วยระบบสำเร็จรูป ซึ่งจะช่วยให้ผู้รับเหมาลดค่าออกแบบก่อสร้างลงไป โดยเฉพาะกลุ่มบ้านราคาระดับ 3ล้านบาทลงไป และบ้านเอื้ออาทร ซึ่งขณะนี้บริษัทกำลังเจรจากับผู้รับเหมาบ้านเอื้ออาทรอยู่ ทั้งนี้ การออกสินค้าใหม่จะทำให้บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 70-80% หรือมียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 300-400 ล้านบาท จากเดิมที่บริษัทมียอดขายจากในกลุ่มวัสดุก่อสร้างรวม 640ล้านบาทในปี2548

โดยบริษัทจะเน้นการทำตลาดโดยการให้ความรู้กับวิศวกรและสถาปนิก มากขึ้น รวมถึงการทำตลาดที่เน้นสื่อสิ่งพิมพ์ และวารสารเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง คาดว่าจะใช้งบประมาณด้านการตลาดประมาณ 1-2 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us