Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 มกราคม 2549
TTAรุกธุรกิจพลังงานหนุนรายได้โตหลังพบค่าระวางเรือตกฉุดผลงาน             
 


   
www resources

โฮมเพจ โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์-TTA

   
search resources

โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์, บมจ. - TTA
Energy




TTA รุกธุรกิจพลังงาน ซื้อหุ้น เมอร์เมด มาริไทม์ เพิ่มเป็น 63.14% หวังหนุนรายได้โตต่อเนื่อง ลดความเสี่ยงการดำเนินงาน เชื่อเป็นช่วงขาขึ้น ขณะที่ธุรกิจเดินเรือเริ่มแผ่ว คาดผลงานปีนี้อาจลดลง เนื่องจากแนวโน้มค่าระวางเรือตกตามภาวะอุตสาหกรรม แจงราคาหุ้นรูดตามภาวะตลาด แต่มาร์เก็ตแชร์ยังสูงเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการเดินเรือรายอื่น เตรียมเดินสายโรดโชว์กลางปีนี้ เตรียมจ่ายปันผลเพิ่มอีก 1.50 บาท หลังปันผลระหว่างกาลแล้ว 2 บาท

ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการ บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนซีส์ (TTA) กล่าวว่าบริษัทได้รุกธุรกิจเกี่ยวกับพลังงาน โดยลงทุนเพิ่มใน บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (MML) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เมอร์เมดมาริไทม์ จำกัด (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TTA) ด้วยเงิน 1,174 ล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็น 63.14% โดยบริษัทที่ลงทุนเพิ่มนี้เป็นบริษัทดำเนินงานด้านพาณิชย์นาวีนอกชายฝั่งและให้บริการเฉพาะทางมากว่า 20 ปี

ล่าสุด MML ยังได้ขยายส่วนงานที่เกี่ยวงานเทคนิค ติดตั้งโครงสร้างใต้ทะเล และให้บริการขุดเจาะปิโตรเลียมนอกชายฝั่ง โดย TTA กู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศอีก 2,214 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อเรือยนต์เพื่อการปฎิบัติงานเทคนิคใต้น้ำ 2 ลำ และเรือขุดเจาะทะเลอีก 2 ลำ ให้เรือ MTR-1 และ MTR-2 ในเดือนเมษายนและกรกฎาคม48 อันจะทำให้สามารถขยายงานด้านการให้บริการแก่กิจการอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งแถบเอเชียได้ครบวงจรยิ่งขึ้น

" เรือขุดเจาะปิโตรเลียมกลางทะเล 2 ลำ ของ MML ได้ทำสัญญากับบริษัทผู้ผลิตนำมันรายใหญ่ เช่าให้บริการเรือไปจนถึงปี 50-52 ตามลำดับ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้ระยะยาว และผลตอบแทนจากการลงทุนดังกล่าวจะเห็นผลในงบการเงินปีนี้ " ม.ล.จันทรจุฑา

โดยการที่ TTA หันไปเน้นธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานมากขึ้น เพราะมองเห็นว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เป็นปัจจัยที่จะกระตุ้นให้การลงทุนผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งทะเล และธุรกิจด้านนี้ยังคงแข็งแกร่งและเติบโตยิ่งขึ้นในอนาคต และรองรับการเติบโตของธุรกิจน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและปิโตรเคมีในภูมิภาคนี้ด้วย ที่สำคัญเป็นการลดความเสี่ยงในการดำเนินงานที่อิงเพียงการเดินเรืออย่างเดียว

นอกจากนี้ TTA ยังจะศึกษาที่จะลงทุนในธุรกิจอื่นเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการให้บริการขนส่งทางทะเล และต้องเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมที่ดำเนินการอยู่ เช่น การสร้างคลังสินค้า ท่าเรือ เป็นต้น แต่ยังสรุปไม่ได้ว่าการลงทุนในลำดับต่อไปนั้นจะเป็นการลงทุนธุรกิจใด

สำหรับเรือที่ซื้อจาก เมอร์เมด ออฟชอร์ เซอร์วิสเซส จะเปลี่ยนชื่อเป็น "เมอร์เมด เพอร์ฟอร์เมอร์ " ซึ่งเรือดังกล่าวนี้มีมูลค่ารวม 3,100,000 ดอลล่าร์สหรัฐเมริกา หรือเทียบเป็นเงินไทยประมาณ 121,861,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา เท่ากับ 39.31 บาท) โดยราคาที่ซื้อเป็นไปตามราคาตลาด ณ ปัจจุบัน ซึ่งเรือลำนี้ได้มอบแล้วเมื่อ 24 มกราคมปีนี้

จากการลงทุนเพิ่มขึ้น จะทำให้บริษัทต้องรับรู้ผลการดำเนินงานของบริษัทใหม่เข้ามาเพิ่ม รวมทั้งหนี้สินด้วย ซึ่งขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ว่าจะรับรู้รายได้เข้ามาเพียงใด แต่แนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ ของ TTA จะลดลงจากปีก่อนที่บริษัทมีรายได้ 14,518 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 5,948 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าระวางเรือมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ค่าระวางเรือเฉลี่ย อยู่ที่ 1.3 หมื่นดอลล่าร์สหรัฐต่อวันเดินเรือลดลงจากปีก่อนที่ค่าระวางเรือเฉลี่ย อยู่ที่ 1.7 -1.8 หมื่นดอลลาร์สหรัฐต่อวันเดินเรือ

อย่างไรก็ตาม TTA ยังมั่นใจได้ว่า ปีนี้บริษัทยังจะจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้เหมือนที่ผ่านมา โดยบริษัทจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้น 30 มกราคมนี้ ซึ่งแนวโน้มการจ่ายปันผลจะลดลงจากปีก่อน แม้ว่าก่อนหน้านี้บริษัทจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 2 บาท ก็ตาม โดยบอร์ดบริษัทอนุมัติการจ่ายปันผลเพิ่มอีกหุ้นละ 1.50 บาท หรืออยู่ที่ 38% ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานของบริษัท ขณะที่ปีก่อนหน้าปันผลถึง 68%

ม.ล.จันทรจุฑายังกล่าวถึงการที่ราคาหุ้น TTA ปรับลดลงในปีนี้ว่างน่าจะเป็นผลมาจากภาวะโดยรวมของตลาดไม่ค่อยดี และในตลาดต่างประเทศก็ลงหมด แต่เมื่อเทียบกับหุ้นเดินเรือตัวอื่น ๆในกลุ่มอย่าง TTA และ RCL แล้ว TTA จะมีมาร์เก็ตแคปสูงที่สุด ขณะที่รายชื่อผู้ถือหุ้นของ TTA มีเกือบ 3 หมื่นราย และมีบอร์มินีรวมอยู่ด้วย สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทมหาชนอย่างแท้จริง เพราะไม่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เลย จึงทำให้เข้าลงทุนง่าย สภาพคล่องก็มีมาก การจ่ายปันผลก็อยู่ในระดับที่ถือว่าใช้ได้

" ในฐานะผู้บริหารก็จะดำเนินการธุรกิจเพื่อสร้างรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าหากทางบริษัทฯ มีการเพิ่มสินทรัพย์ใหม่ โดยการหาสินค้าและลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ก็จะสะท้อนผลดีไปยังราคาหุ้นเช่นกัน " ม.ล.จันทรจุฑากล่าว

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ บริษัทฯมีแผนที่จะนำเสนอข้อมูลให้แก่นักลงทุน (โรดโชว์) เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเริ่มเดินสายในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนี้ เน้นไปในยุโรป รวมถึงสหรัฐฯและสิงคโปร์ด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นตลอดจนนักลงทุนทั่วไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us