Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 มกราคม 2549
ปูนใหญ่กำไรหด12%-ออกหุ้นกู้ล็อตใหม่2หมื่นล.             
 


   
www resources

โฮมเพจ เครือซิเมนต์ไทย

   
search resources

ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ.




ปูนซิเมนต์ไทย กำไรสุทธิปี 48 หด12% เหลือ 3.2 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขายปีนี้โต 5-10% มั่นใจมาร์จิ้นของธุรกิจปิโตรเคมีดีขึ้นจากช่วงปลายปีที่แล้ว เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวสูง เตรียมบันทึกกำไรจากการขายหุ้น "มิลเลนเนียม สตีล" 560 ล้านไตรมาสแรกนี้ ประกาศจ่ายปันผลอีกหุ้นละ 7.50 บาท หลังปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 7.50 บาท เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้เดิม

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) เปิดเผยผลงานไตรมาสแรกของปี49 นี้มาร์จิ้นของธุรกิจปิโตรเคมีจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส4ของปี48 เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งคาดว่าปี49 ส่วนต่างระหว่างแนฟทาและโพรพิลีนจะอยู่ที่ 550 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน

ขณะที่ผลงานงวดสิ้นปี 48 พบว่า บริษัทและบริษัทย่อยมียอดขายรวม 218,256 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% และมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนรายการพิเศษ 30,713 ล้านบาท หรือลดลง 9% ขณะที่กำไรสุทธิงวดดังกล่าวมี 32,235.84 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 36,483.43 ล้านบาท หรือลดลง 12%

เนื่องจากต้นทุนด้านพลังงงานเพิ่มสูงขึ้น และผลจากการหยุดซ่อมบำรุงเครื่องจักรของโรงงานโอเลฟินส์คิดเป็นเงินเกือบ 32 พันล้านบาท รวมทั้งภาษีจ่ายที่บริษัทต้องลงบันทึกงวดเดียวเป็นเงิน 1,500 ล้านบาทในงวดดังกล่าวหรือ 23% ขณะที่ปี49 จะจ่ายภาษีประมาณ 20-23%

"มาร์จิ้นของโอเลฟินส์ค่อนข้างสูงเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 550 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้ว ขณะที่ต้นทุนของธุรกิจปิโตรเคมีเป็น เรื่องที่บอกได้ยาก เนื่องจากอิงกับตลาดโลก อาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงแล้วแต่ภาวะ " นายกานต์กล่าว

โดยธุรกิจปิโตรเคมีมียอดขายรวม 86,084 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน แต่กำไรลดลงเนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาแนฟทาซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักสูงขึ้น รวมทั้งการหยุดซ่อมบำรุงของโรงงาน ขณะที่

ธุรกิจกระดาษและบรรจุภัณฑ์ มียอดขายรวม 40,306 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน แต่กำไรลดลง เนื่องจากต้นทุนด้านพลังงานเพิ่มขึ้นขณะที่ราคาสินค้าคงที่ ส่วนธุรกิจซิเมนต์มียอดขายรวม 41,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% อันเป็นผลจากำไรเพิ่มขึ้น แต่มาร์จิ้นลดลง อันเป็นผลจากพลังงานสูงขึ้นมากและภาคการก่อสร้างชะลอตัว และธุรกิจผลิตภัณฑ์ก่อสร้างยอดขายรวม 22,227 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ SCC ตั้งเป้ายอดขายปี 2549 เติบโต 5-10% จากปี 2548 ที่มียอดขายอยู่ที่ 2.18 แสนล้านบาท โดยธุรกิจปิโตรเคมียังเป็นตัวนำในการทำยอดขาย เนื่องจากแนวโน้มยังดีอยู่ในช่วง 2 ปีนี้ ขณะที่ธุรกิจซีเมนต์นั้นภาพรวมจะยังโตอีก เนื่องจากการสร้างบ้านตลอดจนการก่อสร้างระบบสาธารูปโภคต่าง ๆ ก็ยังมีต่อเนื่อง เพราะยอดการส่งออกซิเมนต์จะมีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี48 นอกจากนี้โครงการเมกะโปรเจ็กต์น่าจะเห็นผลได้มาในช่วงปลายปีนี้

สำหรับการลงทุนในปีนี้ไว้ที่ 1-1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิต รวมทั้งการซื้อกิจการหรือลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพ โดยล่าสุดได้ใช้ลงทุนในธุรกิจกระดาษแล้วประมาณ 6,600 ล้านบาท ขณะที้ธุรกิจปิโตรเคมีปีนี้ในส่วนที่ร่วมกับลาวจะขยายเฟส 2 ด้วย

นายกานต์กล่าวถึงการการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อนำเงินไปใช้รีไฟแนนซ์หนี้เดิมว่า SCC จะออกหุ้นกู้ ประเภทระบุชื่อ ไม่มีหลักประกัน ไม่ด้อยสิทธิ และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ทั้งหมด 3 ชุด รวมมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท โดยหุ้นกู้ล็อตแรกมูลค่าไม่เกิน 5 พันล้านบาท อายุ 2 ปี ออก 31 มีนาคม ครบกำหนดไถ่ถอน 1 เมษายน 51 เสนอขายเฉพาะผู้ถือหุ้นกู้ SCC หรือ บริษัท เยื่อกระดาษสยาม จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่นักลงทุนสถาบัน

ส่วนหุ้นกู้ล็อตที่สอง มูลค่าไม่เกิน 5 พันล้านบาท อายุ 3 ปี ออก 31 มีนาคม 49 ครบกำหนดไถ่ถอน1 เมษายน 52 เสนอขายเฉพาะผู้ถือหุ้นกู้ SCC หรือบริษัท เยื่อกระดาษสยาม จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่นักลงทุนสถาบัน และหุ้นกู้ล็อตที่สาม มูลค่าไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท อายุ 4 ปี ออก 31 มีนาคม 49 ครบกำหนดไถ่ถอน 1 เมษายน 53 เสนอขายเฉพาะผู้ถือหุ้นกู้ SCC 063A ประเภทบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่นักลงทุนสถาบัน

โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ตามราคาตลาดในขณะที่ออก และจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน และหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดนี้จะเสนอขายระหว่าง 6-28 มีนาคมนี้

ทั้งนี้ การรีไฟแนนซ์หนี้ของบริษัท ขณะที่เป้าหมายการลดภาระหนี้สินของบริษัทจะให้ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาทจะเห็นในปีนี้ เพราะตั้งเป้าลดหนี้จากที่มีอยู่ 100,500 ล้านบาท ซึ่งปีนี้จะเหลือที่ระดับ 9 หมื่นกว่าล้านบาท โดยบริษัทจะนำกำไรจากการดำเนินงานมาชำระหนี้ และการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้จะบันทึกกำไรจากการขายหุ้นของบริษัท มิลเลนเนียม สตีล จำกัด (MS) จำนวน 560 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นกำไรจากรายการพิเศษ

อย่างไรก็ตาม SCC เตรียมจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลังของปี48 อีกหุ้นละ 7.50 บาท ซึ่งงวดครึ่งปีแรกจ่ายปันผลไปแล้ว 7.50 บาท คิดเป็นการจ่ายปันผลทั้งปี 48 คือหุ้นละ 15 บาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 5 เมษายน 2549 กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 20 เมษายน 2549   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us