Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2549








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2549
ความลึกลับที่ Huawei             
 


   
www resources

Huawei Technologies Homepage

   
search resources

Telecommunications
Huawei Technologies Co., Ltd.




ความไม่โปร่งใสของยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดโลก ทำให้ถูกชาติตะวันตกจับตามองด้วยความหวาดระแวง

ภายในเวลาเพียง 18 ปี Huawei ได้เติบโตจากบริษัทเล็กๆ ของจีน กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ซึ่งเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมหลักของโลก

ในปี 1988 เมื่อ Huawei ถูกก่อตั้งขึ้นโดย Ren Zhengfei อดีตนายทหารแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน และเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนจนถึงปัจจุบัน Huawei เป็นเพียงบริษัทธรรมดาๆ แห่งหนึ่ง ที่ดำเนินธุรกิจแบบซื้อมาขายไป โดยนำเข้าอุปกรณ์โทรคมนาคมจากต่างประเทศ และขายให้แก่ตลาดในประเทศ และไม่มีสิ่งใดที่น่าสนใจ

แต่มาวันนี้ Huawei กลายเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์เครือข่ายโทรศัพท์รายใหญ่ของโลก โดยมีสำนักงานอยู่ใน 41 ประเทศทั่วโลก และสามารถแข่งขันอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่กับบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติอย่าง Northern Telecom, Alcatel, Lucent และ Cisco Systems นอกจากนี้ยังสามารถเอาชนะคู่แข่งได้เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายป้อนให้แก่บริษัทที่ดำเนินการด้านเครือข่ายระดับโลกหลายแห่ง ด้วยการใช้กลยุทธ์ตัดราคาเป็นหลัก

ยอดขายของ Huawei พุ่งทะลุระดับ 4 พันล้านดอลลาร์ เพียงในช่วงครึ่งปีแรกของ ปี 2005 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 85 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และมากกว่า ครึ่งหนึ่งของคำสั่งซื้อมาจากลูกค้าที่อยู่นอก ประเทศจีน

แต่เหตุใดนักการเมืองและผู้บริหารชาติตะวันตกจึงพากันมอง Huawei ด้วยสายตาที่หวาดระแวง

Huawei ก็เช่นเดียวกับบริษัทจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วจำนวนมาก ซึ่งมีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากเกินไปกับรัฐบาลจีน และยังแสดงความกระตือรือร้นมากเกินไป ในการพยายามไขว่คว้าเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำสมัยมาครอบครอง

เมื่อไม่นานมานี้ Huawei ได้ยื่นใบสมัครขอใบอนุญาตแข่งขัน เสนอตัวเป็นผู้ป้อนอุปกรณ์ให้แก่โครงการโทรคมนาคมขนาดใหญ่ของ อินเดียหลายโครงการ ซึ่งดำเนินงานโดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมของรัฐบาลอินเดียคือ MTNL และ BSNL แต่ใบสมัครของ Huawei ถูกกระทรวงโทรคมนาคมอินเดียขัดขวาง ซึ่งสื่ออินเดียรายงานว่า สาเหตุ เป็นเพราะหน่วยข่าวกรองของอินเดียสงสัยว่า Huawei มีความสัมพันธ์กับหน่วยข่าวกรองของจีนและกองทัพจีน และยังเป็นผู้ที่ช่วย ทำให้สถานทูตจีนในอินเดียปลอดจากอุปกรณ์ดักฟัง (แต่ Huawei ปฏิเสธ)

นักการเมืองอังกฤษก็มองว่า Huawei อาจเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของอังกฤษ ในเดือนเมษายนปีที่แล้ว Huawei ได้สัญญามูลค่า 140 ล้านดอลลาร์ จากการได้รับเลือกเป็นบริษัทหนึ่งที่จะมีส่วนสร้าง "เครือข่ายแห่งศตวรรษที่ 21" ของบริษัท British Telecom ซึ่งนับเป็นโปรเจ็กต์การยกเครื่องอุปกรณ์เครือข่ายครั้งใหญ่ของ British Telecoms

แต่เมื่อมีข่าวลือว่า Huawei กำลังมีแผนจะฮุบบริษัท Marconi บริษัทอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญของอังกฤษ นักการเมืองพรรคอนุรักษนิยมซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านอังกฤษ ก็ได้ขอให้ รัฐบาลอังกฤษพิจารณาถึงผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกลาโหมของอังกฤษ ถ้าหาก Huawei สามารถซื้อ Marconi ได้ แต่สุดท้ายHuawei ก็ไม่ได้เสนอซื้อ Marconi และ Ericsson ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมของสวีเดนได้เป็นผู้เสนอซื้อ Marconi ไปแทน

Huawei ก็มีลักษณะเช่นเดียวกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง China National Offshore Oil Corporation (Cnooc), Lenovo และ Haier ที่ยากจะบอกได้ว่า Huawei เป็นอะไรกันแน่ เป็นภัย คุกคามด้านความมั่นคงของชาติอื่นโดยเป็น เครื่องมือของรัฐบาลจีน หรือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่แท้จริง หรือเป็นเพียงปราสาททรายที่กลวงในและพร้อมจะพังทลายลงมาทุกเมื่อ

ส่วน CEO Ren ของ Huawei ก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์โดยสิ้นเชิง และมักจะมีข่าวลืออยู่เสมอว่า แท้จริงแล้ว Huawei เป็นบริษัทของกองทัพจีน แม้ว่า Huawei จะปฏิเสธและยืนยันว่า ไม่มีความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีนมานานแล้ว

ด้านความโปร่งใสด้านบัญชีของ Huawei แม้จะได้รับการสอบบัญชีโดยบริษัทสอบบัญชีที่มีชื่อเสียงระดับโลกคือ KPMG แต่ข้อมูลเกี่ยวกับการเงินของ Huawei ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณชนน้อยมาก การทำบัญชีที่ไม่โปร่งใสของ Huawei ยังทำให้นักวิเคราะห์รู้สึกตกใจ

ดังเช่นรายงานของบริษัทที่ปรึกษา MWL ในไทยเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ได้ระบุว่า Huawei อาจดำรงอยู่ได้ ด้วยการพึ่งพาการเสนอราคาสินค้าที่ถูกแต่ไม่มีความยั่งยืน และการได้รับความช่วยเหลือด้านการส่งออกจากรัฐบาลจีนเท่านั้น ทั้งยังเตือนลูกค้าให้ระวังการเลือก Huawei เป็น supplier หลัก

นอกจากนี้ Huawei ยังถูกกล่าวหาอยู่เนืองๆ ว่า ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและจารกรรมความลับทางการค้า

ในปี 2003 Cisco ฟ้อง Huawei ในศาลสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่า Huawei ลอกรหัสคอมพิวเตอร์ของตนที่ใช้ในเครื่อง router ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมเครือข่ายออนไลน์ เท่านั้นยังไม่พอ Huawei ยังลอกแม้กระทั่งเลขที่รุ่นสินค้าของ Cisco เพื่อที่จะทำให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ของ Huawei ที่เหมือนกับของ Cisco แต่ราคาถูกกว่าได้อย่างสะดวก เรื่องจบลงที่ Cisco ถอนฟ้อง เมื่อ Huawei ยอมถอนสินค้าที่ลอกเลียนแบบออกจากตลาด และตกลงเปลี่ยนเลขรหัสสินค้าไม่ให้ตรงกับกับของ Cisco

เรื่องราวการเติบโตของ Huawei สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของจีนและวิธีการที่รัฐบาลจีนใช้ ในการผลักดันบริษัทจีนให้ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้เล่นในระดับโลก บริษัทจีนจำนวนมากได้เริ่มรุกเข้าแข่งขันในตลาดโลกกับบริษัทยักษ์ใหญ่จากตะวันตก อย่างไม่มีการเกรงศักดิ์ศรีของเจ้าเก่า

ในเดือนเมษายนปีที่แล้ว Lenovo ยักษ์ใหญ่คอมพิวเตอร์ของ จีน ซึ่ง Chinese Academy of Sciences หน่วยงานด้านการวิจัยสูงสุดของจีนมีส่วนเป็นเจ้าของ ได้ลงนามในข้อตกลงมูลค่า 1.75 พัน ล้านดอลลาร์ ซื้อหน่วยผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของ IBM

2 เดือนถัดมา Cnooc บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งรัฐบาลจีนถือหุ้นร้อยละ 70 ได้เสนอซื้อบริษัท Unocal ของสหรัฐฯด้วยเงิน 18,500 ล้านดอลลาร์ แต่ด้วยความที่กลัวว่า นักการเมืองอเมริกันจะขัดขวางการซื้อ และเนื่องจาก Chevron เสนอราคาที่สูงกว่า ทำให้ Cnooc จำใจต้องถอนตัวไปในที่สุด

สำหรับ Huawei ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม อันเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมที่ทันสมัยที่สุดของโลก สิ่งหนึ่งที่บริษัทต้องการโชว์ก็คือ ภาพลักษณ์ความล้ำหน้าด้านเทคโนโลยี สำนักงานใหญ่ของ Huawei ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Shenzhen เมืองเศรษฐกิจทันสมัยของจีน ชั่วข้ามฟากมาจากฮ่องกง และมีพนักงานทำงานอยู่ภายในนั้น 16,000 คน เป็นอาคารที่ทั้งหรูหราและทันสมัยที่สุด ศูนย์ฝึกอบรมซึ่งสร้างด้วยหินและไม้ ออกแบบโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงโด่งดังของอังกฤษ คือ Norman Foster ภายในตึกยังมีสระว่ายน้ำและอ่างน้ำร้อนทันสมัย ขนาดใหญ่ ให้พนักงานได้ผ่อนคลายหลังเลิกงาน

Huawei ทุ่มเงินมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์จ้างบริษัทต่างชาติ อย่าง PriceWaterhouseCoopers และ Hay Group ซึ่งเชี่ยวชาญด้านทรัพยากรมนุษย์ ให้มาปรับปรุงวิธีการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้ทันสมัย ซึ่งรวมถึงการทำบัญชี อัตราค่าตอบแทนและสวัสดิการพนักงาน และการฝึกอบรมความเป็นผู้นำให้แก่ผู้บริหารของบริษัท ซึ่ง Xu Zhijun เจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด ด้านการตลาดของ Huawei ระบุว่า ผลที่เกิดขึ้นคือ Huawei ได้กลายเป็นบริษัทจีนที่มีระบบการบริหารงานแบบตะวันตก

Huawei ได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเลือกอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอย่างสูง ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ชาวจีน เพิ่งได้รับการปลดปล่อยความต้องการการสื่อสารโทรคมนาคมที่ดีขึ้น หลังจากถูกเก็บกดไว้มานาน

ในปี 1988 เมื่อ Huawei ยังเป็นบริษัทโนเนมที่เพิ่งเริ่มขายอุปกรณ์โทรศัพท์แบบตรึงกับที่ จีนมีสายโทรศัพท์เพียง 3 ล้าน สาย และส่วนใหญ่ใช้ในหน่วยงานราชการหรือบริษัท

แต่ในวันนี้ จีนมีสายโทรศัพท์ 259 ล้านสาย และมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถืออีก 335 ล้านคน (มากกว่าชาวอเมริกันทั้งประเทศ) รวมทั้งผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอีก 100 ล้านคน จากที่เคยมีผู้ใช้น้อยกว่า 200,000 คนในปี 1997

รัฐบาลจีนยังมีบทบาทอย่างสูงในการทำให้ Huawei เติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของ ประเทศ และส่งเสริมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในประเทศ รัฐบาลจีน กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูบริษัทจีนที่มีศักยภาพอย่างดี ดังเช่น Huawei ที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลจีนมากมาย ตั้งแต่เงินทุนสนับสนุน การวิจัยและพัฒนา จนถึงการลดหย่อนภาษีและสินเชื่อเพื่อการส่งออก

นอกจากนี้ทั้ง Huawei และบริษัทจีนอื่นๆ ยังได้รับวงเงินสินเชื่อจากธนาคารอย่างง่ายดาย ในปี 2004 Huawei ได้รับสินเชื่อ 10,000 ล้านดอลลาร์จาก China Development Bank ของรัฐบาลจีน และอีก 600 ล้านดอลลาร์จาก Export-Import Bank of China เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการขยายตัวไปสู่การเป็นบริษัทระดับโลก

นักวิเคราะห์ชี้ว่า เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลจีนเหล่านี้เอง ที่ช่วยให้ Huawei สามารถตัดราคาคู่แข่งได้มากถึงร้อยละ 70 และยังสามารถเสนอสินเชื่อให้แก่ผู้ซื้อเพื่อซื้อสินค้าของตนได้อีกด้วย อย่างเช่นในเดือนเมษายนปีที่แล้ว ไนจีเรียได้รับเงินกู้ 200 ล้านดอลลาร์ จาก China Development Bank เพื่อซื้อสินค้าของ Huawei

หนึ่งในเป้าหมายระยะยาวของรัฐบาลจีนในอุตสาหกรรมเทคโน โลยีสารสนเทศคือ การสร้างมาตรฐานทางเทคนิคของตนเองขึ้นมา เพื่อที่จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการใช้เครือข่ายให้แก่บริษัทต่างชาติ ในปี 2004 รัฐบาลจีนประกาศให้อุปกรณ์เครือข่ายไร้สายบางส่วนที่ขายในจีน จะต้อง ใช้มาตรฐาน WAPI ซึ่งเป็นมาตรฐานที่กำหนดขึ้นเองโดยบริษัทของจีน

มาตรฐาน WAPI ไม่เพียงจะทำให้ต้องมีการยกเครื่องอุปกรณ์ที่นำเข้าจากตะวันตกเท่านั้น แต่ยังจะทำให้บริษัทจีนอาจสามารถอ้างสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา และเก็บค่าธรรมเนียมการใช้เครือข่ายจากบริษัทต่างชาติ แทนที่จะต้องเป็นผู้จ่ายแต่ฝ่ายเดียวเหมือนที่แล้วๆ มา

แต่บริษัทและรัฐบาลตะวันตกซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ ต่างรวมหัวกันคัดค้านมาตรฐาน WAPI ของจีน ทำให้จีนต้องเลื่อนการบังคับใช้มาตรฐานดังกล่าวออกไปอย่างไม่มีกำหนด อย่างไรก็ตาม จีนยังคงพยายามจะสร้างทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นของตนเอง ในด้านที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ต่างๆ นับตั้งแต่ Internet protocol ไปจนถึงเทคโนโลยีการคุ้มครองข้อมูล

ความสำเร็จของ Huawei ยังสะท้อนให้เห็นความพยายามของรัฐบาลจีน ในการปีนบันไดห่วงโซ่คุณค่า รัฐบาลจีนได้ให้เงินทุนสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาแก่บริษัทจีนหลายแห่ง รวมถึง Huawei ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาจากรัฐบาลจีนมากกว่า 9 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา

รัฐบาลจีนยังทุ่มเงินสนับสนุนการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ และขณะนี้มหาวิทยาลัยจีนสามารถผลิตวิศวกรได้มากกว่าที่สหรัฐฯ ได้ ซึ่งทำให้บริษัทจีนสามารถปรับปรุงด้านการผลิตและการวิจัยพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง วิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ของ Huawei (ซึ่งครึ่งหนึ่ง จบปริญญาโทและปริญญาเอก) สามารถประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมที่นำไปจดสิทธิบัตรใหม่ได้ถึง 2,300 ใบในปีที่แล้ว ทั้งยังมีค่าแรงที่ถูกเพียง 8,500 ดอลลาร์ต่อปี เทียบกับวิศวกรญี่ปุ่นที่มีรายได้ 20,000 ดอลลาร์ต่อปี

อย่างไรก็ตาม Huawei ถูกนักธุรกิจต่างชาติบางรายกล่าวหาว่า ความสำเร็จที่ได้มาของบริษัท มาจากการละเมิดลิขสิทธิ์และการขโมยความลับทางการค้า นอกจากที่ถูก Cisco ฟ้องซึ่งคดียุติไปแล้ว นั้น Huawei ยังถูกรุมประณามในปี 2004 เมื่อพนักงานของบริษัทถูกจับได้ว่า กำลังแอบถ่ายภาพแผงวงจรภายในอุปกรณ์เครือข่ายของ Fujitsu ที่นำออกแสดงในงานแสดงสินค้า Chicago ซึ่ง Huawei ปฏิเสธว่าเป็นการเข้าใจผิด อันเกิดจากการที่คนอเมริกันและชาติตะวันตกมักดูถูกบริษัทจีนว่า ไม่มีปัญญาจะประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยี ที่ทันสมัยได้ด้วยตนเอง และต้องใช้วิธีขโมยความคิดของคนอื่นเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การลอกเลียนเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของบริษัทจีนจริงๆ และ Huawei ก็ใช้วิธี "วิศวกรรมย้อนรอย" มาตั้งแต่ต้น

แต่ปัญหาที่ติดตัว Huawei รวมทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนส่วนใหญ่ หนีไม่พ้นเรื่องฐานะการเงินที่ยังคงไม่มีความชัดเจน เมื่อ Huawei อ้างว่า ตนมีทรัพย์สินถึงเกือบ 5 พันล้าน นักวิเคราะห์ก็ยังคงไม่กล้าฟันธงถึงฐานะการเงินที่แท้จริงของ Huawei รายงานของบริษัทที่ปรึกษา MWL เมื่อเร็วๆ นี้ชี้ว่า รายงานข้อมูลการเงินของ Huawei จะแสดงแต่สิ่งที่บริษัทต้องการแสดง นั่นคือ การเติบโตอย่างน่าประทับใจ การประสบความสำเร็จในการขยายตัวสู่ระดับโลก และ การเติบโตทางด้านการเงิน

นอกจากนี้ ยังแทบไม่มีใครรู้จักฝ่ายบริหารของ Huawei เมื่อ CEO Ren ปฏิเสธ การให้สัมภาษณ์สื่ออย่างสิ้นเชิง ก็ยิ่งกระพือ ข่าวลือที่ว่า Huawei เป็นบริษัทของกองทัพจีน ไม่ว่า Huawei จะเพียรปฏิเสธมานานเพียงใดก็ตาม นักวิเคราะห์จาก Eurasia Group ชี้ว่า เมื่อบริษัทไม่มีความโปร่งใส ก็ทำให้คนอื่นๆ ต้องคิดหนัก หาก จะสร้างความสัมพันธ์ ระยะยาวกับบริษัทดังกล่าว

แต่ Xu ผู้บริหารด้านการตลาดของ Huawei โต้ว่า Huawei มีความโปร่งใสเพียงพอ เขายืนยันว่า Huawei มีพนักงานเป็นเจ้าของ ร้อยเปอร์เซ็นต์ และไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับกองทัพจีน ทั้งยังระบุว่า บริษัทมีเป้าหมายระยะสั้น 2 ประการคือ ลดราคาสินค้าลงอีกด้วยการลดส่วนต่างกำไร (ซึ่ง Hauwei ได้ทำแล้วและทำให้ราคาสินค้าของบริษัทต่ำกว่าราคาสินค้าของ Cisco ร้อยละ 15 ถึง 40) และเพิ่มการใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา

แต่คำถามที่ใหญ่ที่สุด ทั้งสำหรับ Huawei และรัฐบาลจีนก็คือ ทั้งผู้บริหารของบริษัทและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนพร้อมที่จะเรียนรู้การเล่นตามกฎของโลกได้หรือไม่ ในขณะที่ยอดขายของ Huawei ยังคงพุ่งทะยานไม่หยุดอยู่ในขณะนี้ Huawei ยังมีเวลาพอที่จะสะสางบัญชีให้โปร่งใส แต่ถ้าหากบริษัทยังคงไม่ยอมทำตัวให้ เปิดเผย นั่นย่อมแสดงว่า บริษัทกำลังปกปิดสิ่งใดเอาไว้

แปลและเรียบเรียงจากนิตยสาร Newsweek
16 มกราคม 2549
โดย เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us